บทที่ 1- ทรยศ
เอลล่า
“หมอเสียใจด้วยนะเอลล่า” แพทย์ของฉันพูดอย่างนุ่มนวล “หมอเกรงว่าคุณเหลือไข่ที่สมบูรณ์น้อยมากแล้วค่ะ พูดตามตรงนะคะ ปกติหมอจะเจอตัวเลขแบบนี้ในผู้หญิงที่อายุมากกว่าคุณสักสิบหรือสิบห้าปี”
“อะไรนะคะ?” ฉันพึมพำ ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ฉันพยายามจะตั้งท้องมาหลายปีแล้วนะ ฉันเพิ่งจะสามสิบเอง ไข่ฉันน่าจะยังเหลือเยอะสิ
“ถ้าพูดถึงเรื่องการมีบุตร คุณเหลือเวลาน้อยมากแล้วล่ะค่ะ” เธอพูดต่อ “ถ้าคุณอยากจะตั้งครรภ์ คุณต้องทำให้ได้ก่อนที่รอบเดือนครั้งหน้าจะมาถึง”
“รอบเดือนครั้งหน้าเหรอคะ?” ฉันทวนคำ อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ฉันรักเด็กมากกว่าสิ่งใดในโลก และถึงแม้มันอาจจะไม่ใช่ความใฝ่ฝันของทุกคน แต่ฉันก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้เป็นแม่คน
ฉันต้องรีบกลับบ้านไปบอกข่าวนี้กับแฟนฉันแล้ว จะเสียเวลาไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว
ฉันกลับถึงบ้านเร็วเป็นประวัติการณ์ พรวดพราดเข้ามาทางประตู อ้าปากจะเรียกไมค์ แต่แล้วก็หยุดกึกอยู่กับที่ ทันทีที่ฉันก้าวเข้ามาข้างใน ฉันก็เห็นรองเท้าส้นสูงคู่หนึ่งกับกระเป๋าถือวางอยู่ข้างประตู – ซึ่งไม่มีชิ้นไหนเป็นของฉันเลย
ฉันเงี่ยหูฟังไปยังห้องนอน ท้องไส้ฉันปั่นป่วนไปหมดเมื่อได้ยินเสียงครางอันคุ้นเคย พร้อมกับเสียงเตียงกระแทกผนังดัง ตึง ตึง ตึง สม่ำเสมอ แต่ที่เลวร้ายยิ่งกว่าการตระหนักว่าไมค์อยู่กับผู้หญิงอื่นในห้องนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย ก็คือการรู้ว่าเขาอยู่กับใครต่างหาก ฉันจำกระเป๋าถือนั่นได้ และฉันก็จำรองเท้าคู่นั้นได้ – มันเป็นของเคท เพื่อนสนิทของฉัน
“ให้ตายสิ เอลล่านี่มันโง่ชะมัด” ไมค์หัวเราะ “เธอเชื่อไหมว่ายัยนั่นหวังว่าฉันจะมีลูกกับหล่อนจริงๆ น่ะ”
เคทแค่นเสียง “หล่อนมันเพ้อเจ้อ ฉันไม่รู้เลยว่าแกทนยัยนั่นมาได้ยังไงตั้งนานขนาดนี้”
“ถ้าหล่อนไม่สวยขนาดนั้น ฉันไม่ชายตาแลหล่อนด้วยซ้ำ” ไมค์พ่นลม “โชคดีที่ยาคุมฉุกเฉินที่ให้กินทุกวันทำให้หล่อนไม่เคยท้องเลยสักครั้ง”
“ยาคุมฉุกเฉินน่ะเหรอ?” เคทถาม “แกทำยังไงถึงให้หล่อนกินได้โดยที่หล่อนไม่รู้ตัว?”
“ฉันใส่มันลงในกาแฟตอนเช้าของหล่อน” ไมค์หัวเราะหึๆ ฟังดูภูมิอกภูมิใจในตัวเองเหลือเกิน
เลือดฉันฉีดพล่านขึ้นหน้าเมื่อทุกอย่างเริ่มปะติดปะต่อกันได้ในที่สุด ทันใดนั้นมันก็ชัดเจนขึ้นมาว่าทำไมฉันถึงไม่เคยตั้งท้องได้เลย ทั้งๆ ที่มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันหลายครั้งต่อสัปดาห์มาเป็นปีๆ มันชัดเจนกระทั่งว่าทำไมฉันถึงมีจำนวนไข่เหมือนคนอายุ 45 ถ้าไอ้แฟนชั่วของฉันแอบเอายาคุมกำเนิดฉุกเฉินให้ฉันกินทุกวัน – ไม่รู้เลยว่ามันจะสร้างความเสียหายอะไรอื่นอีกบ้างกับระบบสืบพันธุ์ของฉัน
ก่อนที่ฉันจะทันได้ยั้งคิด ฉันก็ดึงสัญญาณเตือนควันไฟที่ผนัง ฉันอยากจะขู่ให้ตกใจและลงโทษคนทั้งคู่ในห้องนอนอย่างสาสม จนกลัวว่าตัวเองอาจจะเข้าไปทำร้ายพวกเขาตอนที่ออกมา น้ำพุ่งกระจายลงมาจากระบบสปริงเกลอร์ที่ติดอยู่บนเพดานทันที พร้อมกับเสียงไซเรนแหลมแสบแก้วหูดังลั่นไปทั่ว และฉันก็ได้ยินเสียงไมค์กับเคทร้องออกมาด้วยความตกใจ
ครู่ต่อมา พวกเขาก็วิ่งพรวดพราดออกมาจากห้องนอน หยุดกึกเมื่อเห็นฉันยืนทะมึนขวางประตูอยู่ ตาของไมค์เบิกกว้างอย่างน่าขัน “เธอกลับมาทำอะไรเร็วนัก?” ไอ้งูพิษนั่นยังกล้าทำน้ำเสียงเหมือนขุ่นเคืองที่ฉันทำให้เขาตกใจ ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองนั่นแหละที่ลอบทำอะไรลับหลังฉันมานานแค่ไหนก็ไม่รู้ เขาดูเหมือนจะรู้ตัวว่ามันน่าสงสัยแค่ไหนที่เขากับเคทมายืนอยู่ในชุดชั้นใน และรีบพูดเสริมว่า “เคทมาหาฉัน เรากำลังจะวางแผนเซอร์ไพรส์วันเกิดให้เธอ แต่แล้วเราก็ทำกาแฟหกใส่เสื้อผ้าหมดเลย เลยต้องเปลี่ยนชุด”
เปลวไฟแห่งความโกรธลุกท่วมในอกฉัน เขาคงเชื่อจริงๆ ว่าฉันโง่เง่าเต็มประดา หากหวังว่าฉันจะเชื่อข้อแก้ตัวปัญญาอ่อนพรรค์นั้น
มันเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าพวกเขาดูถูกฉันมากแค่ไหนถึงได้หลงเชื่อละครที่ฉันเล่น และฉันสาบานว่าจะต้องแก้แค้นให้ได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันเสียเวลาไปตั้งหลายปี – ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต – ไปกับไอ้คนทุเรศนั่น แล้วตอนนี้เขาก็อาจจะทำลายอนาคตของฉันไปด้วย ทันทีที่ความคิดนั้นแวบเข้ามาในหัว ฉันก็รู้ว่าฉันจะเสียเวลากับไมค์อีกต่อไปไม่ได้แล้ว ฉันมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องจัดการ
ฉันหาข้ออ้างแล้วรีบข้ามเมืองเป็นครั้งที่สองในบ่ายวันนั้น วิ่งตรงไปยังอ้อมแขนอันอบอุ่นของคอร่า พี่สาวที่ฉันรักเหมือนพี่แท้ๆ ไม่เพียงแต่เราจะโตมาด้วยกันในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่เธอยังเป็นสูตินรีแพทย์และตอนนี้ก็ทำงานให้กับธนาคารสเปิร์มที่เอ็กซ์คลูซีฟที่สุดในเมือง ฉันไม่เคยไปหาเธอมาก่อนเลยเพราะฉันคิดมาตลอดว่าในที่สุดฉันกับไมค์จะตั้งท้องด้วยวิธีธรรมชาติ แต่นั่นมันไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไปแล้วอย่างเห็นได้ชัด
ถึงแม้ว่าฉันจะหาผู้ชายที่เต็มใจจะมีลูกกับฉันได้ทันเวลา ฉันก็ไม่อยากจะไว้ใจใครอีกแล้วหลังจากการทรยศของไมค์ ฉันจะต้องทำเรื่องนี้ด้วยตัวเองคนเดียว และฉันรู้ว่าคอร่าช่วยฉันได้ ฉันมีเงินไม่มากนัก แต่ก็มีเงินเก็บพอที่จะจ่ายค่าผสมเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฉันมีโอกาสแค่ครั้งเดียวจริงๆ
เมื่อฉันไปถึง แผนทั้งหมดที่วางไว้ว่าจะอธิบายสถานการณ์ให้คอร่าฟังอย่างชัดเจนและรวบรัดก็พังทลายลง เพราะทันทีที่ฉันเห็นหน้าพี่สาว ฉันก็ปล่อยโฮออกมา เธอกอดและจูบฉันจนกระทั่งน้ำตาเริ่มซา ค่อยๆ ถามไถ่เรื่องราวจากฉันทีละเล็กทีละน้อย พอเธอได้ยินเรื่องไมค์กับเคท เธอก็สบถออกมาเป็นชุด แต่นั่นยังเทียบไม่ได้กับปฏิกิริยาของเธอตอนที่ฉันอธิบายเรื่องภาวะเจริญพันธุ์ของฉัน
“ไอ้สารเลวนั่น! พี่จะฆ่ามัน!” เธอพูดอย่างหัวเสีย มองฉันด้วยสีหน้าเป็นห่วง “เอลล่า ถ้าหมอของเธอพูดถูก นั่นหมายความว่าเธอมีโอกาสตั้งท้องแค่ครั้งเดียวนะ”
“ฉันรู้ค่ะ” ฉันสูดน้ำมูก “และถ้าเด็กคนนี้จะเป็นลูกคนเดียวของฉัน ฉันก็ไม่อยากเสี่ยงอะไรทั้งนั้น ฉันต้องการผู้บริจาคที่ดีที่สุดที่เราจะหาได้”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงเลย” คอร่ารับรองกับฉัน “เรามีสเปิร์มบริจาคจากทั้งนักแสดง นายแบบ นักวิทยาศาสตร์ – ที่นี่มีแต่ระดับหัวกะทิทั้งนั้น” เธอชำเลืองมองไปที่ประตูแล้วลดเสียงลง “ถือซะว่าพี่ไม่ได้พูดนะ แต่แม้แต่โดมินิก ซินแคลร์ ก็ยังส่งตัวอย่างของเขามาตรวจที่นี่เลย”
“โดมินิก ซินแคลร์?” ฉันทวนคำ “มหาเศรษฐีคนนั้นน่ะเหรอคะ?” ฉันเคยเห็นเขาตามที่ต่างๆ ในเมือง แต่เราไม่ได้อยู่ในแวดวงเดียวกันเลย เขาอาศัยอยู่ในย่านเดียวกับนายจ้างผู้ร่ำรวยของฉัน และมักจะทักทายเด็กๆ ที่ฉันเป็นพี่เลี้ยงอยู่บ่อยๆ แต่เขามักจะมีบอดี้การ์ดล้อมรอบเสมอ และดูน่าเกรงขามจนฉันขนลุกทุกครั้งที่คิดถึงเขา
“ตายจริง!” คอร่าเอามือปิดปากตัวเอง “พี่ไม่ควรบอกเธอเรื่องนี้เลย! ไม่รู้คิดอะไรอยู่เหมือนกัน ดูเหมือนว่าเขาก็มีปัญหาเรื่องการมีลูกยากอยู่บ้าง และเขาก็ไว้ใจให้เราจัดการเชื้อของเขามากกว่าแล็บอื่นๆ ทั้งประเทศ ตอนนี้พี่มีสเปิร์มของเขาอยู่ในห้องโน้นเลยนะ” เธอกระสับกระส่าย “แต่เอลล่า เธอห้ามบอกใครนะ ต้องสัญญากับพี่”
“แน่นอนค่ะ!” ฉันตอบตกลงทันที “ฉันรู้ว่าการรักษาความลับสำคัญแค่ไหนสำหรับที่นี่”
“ขอบใจจ้ะ” คอร่าถอนหายใจอย่างโล่งอก “เอาล่ะ พี่จะเอาแฟ้มข้อมูลผู้บริจาคของเรามาให้เธอเลือก และเมื่อเธอเลือกได้แล้ว เราจะจัดการให้เธอตั้งท้องได้ในพริบตาเดียวเลย”
มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย แต่ในที่สุดฉันก็เลือกศัลยแพทย์หนุ่มหล่อคนหนึ่งซึ่งรูปถ่ายของเขาทำเอาฉันแทบใจละลาย คอร่าออกจากห้องไปเพียงครู่เดียวเพื่อเตรียมตัวอย่าง และถึงแม้ว่าตอนเธอกลับมาจะดูมีท่าทีแปลกๆ เล็กน้อย เธอก็ทำการผสมเทียมให้เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็วและเป็นมืออาชีพ พร้อมทั้งจับมือฉันไว้เมื่อขั้นตอนทุกอย่างเสร็จสิ้น “ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนะเอลล่า” เธอสัญญา “อีกสิบวันค่อยกลับมาดูผลนะว่าสำเร็จไหม”
สิบวัน ฉันคิดอย่างเหม่อลอย สิบวันที่จะตัดสินอนาคตทั้งชีวิตของฉัน
หากเพียงแต่ฉันจะรู้ว่าเมื่อสิบวันนั้นผ่านพ้นไป อนาคตของฉันจะไม่ได้เป็นของฉันอีกต่อไป – แต่เป็นของโดมินิก ซินแคลร์ ผู้นั้นต่างหาก

















































































































































































































































































































































































































































































































