บทที่ 5 เขาก็เคยดีกว่านี้
5 ปีก่อนหน้า...
เยาวภาไม่ลงรอยกับธารารัตน์มานาน หลังจากพินัยกรรมถูกเปิดและสามีของเธอระบุว่ายกทุกอย่างให้เธอจัดการเยาวภาก็หนีมาอยู่คนเดียวที่เชียงใหม่ และจ้างพยาบาลมาดูแลใกล้ชิดเพราะไม่ไว้ใจลูกสะใภ้ นั่นคือจุดเริ่มต้นระหว่างเยาวภากับเอื้องดาว
“ไม่เจอกันตั้งหลายปี ไม่คิดว่าจะมาหาย่าอีกแล้ว”
“คุณย่า...ผมเพิ่งจะว่าง ผมคิดถึงย่าจะตายไป”
“3 ปีเลยนะธีร์ ไม่มีเวลามาเจอย่าตั้ง 3 ปี แล้วปีนี้อะไรหอบหลานชายของย่ามาถึงนี่ได้ล่ะ”
“คุณย่าผมมาเพราะคิดถึงคุณย่าจริงๆ หนีมาอยู่คนเดียวตั้ง 3 ปีไม่รู้เป็นอยู่อย่างไรบ้าง คุณพ่อเป็นห่วงมากนะครับ”
“ห่วง? เป็นห่วงเหรอ วันนี้มันมาด้วยหรือเปล่าล่ะ?” ธีรชลนั่งเงียบ เพราะคนที่มาในวันนี้มีเพียงเขาเท่านั้น
“เอาเถอะไม่ต้องตอบหรอก ย่ารู้อยู่แล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกย่ามีคนดูแลอย่างดี นั่นไง...พูดถึงก็มาพอดีเลย”
“เอื้องไม่ทราบว่าคุณท่านมีแขก เอื้องแค่จะเอายามาให้ค่ะ”
“นี่แหละคนที่คอยดูแลย่าอย่างดี เอื้องนี่ธีร์หลานย่าเอง”
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ”
“นี่เอื้องดาวพยาบาลที่ดูแลย่าตอนที่ย่าเข้าโรงพยาบาล พอดีว่าถูกชะตาก็เลยจ้างออกมาดูแลส่วนตัว นี่ก็ผ่านมา 3 ปีแล้วเอื้องดาวก็ยังดูแลย่าอย่างดีไม่เคยเปลี่ยน”
“ขอบคุณคุณเอื้องมากนะครับที่ช่วยดูแลคุณย่าเป็นอย่างดี”
“เอื้องดูแลคุณท่านตามหน้าที่ คุณท่านเมตตาเอื้องมาก เอื้องรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากเลยค่ะที่ได้ดูแลคุณท่าน”
“คุณเอื้องคงจะเหนื่อยมากแล้ว คุณย่าของผมน่ะเอาใจยากจะตายไป คุณเอื้องอยู่ดูแลมาได้ตั้งนานถึง 3 ปี”
“ตาธีร์!!!”
“ล้อคุณย่าเล่นน่ะครับ”
“แล้วนี่แค่จะมาดูใช่มั้ยว่าย่าใกล้ตายหรือยัง แม่ของแกคงอยากจะรู้แย่แล้วสินะ กลับไปบอกมันด้วยว่าย่ายังแข็งแรงดี”
“ใครจะไปคิดแบบนั้นกัน พ่อกับแม่เป็นห่วงคุณย่ากันทั้งนั้น”
“ห่วงแต่ปาก ห่วงย่าหรือห่วงมรดกกันแย่” เอื้องดาวเห็นว่าบทสนทนาเริ่มรุนแรงขึ้น เธอจึงไม่อยากจะอยู่ฟังต่อไป
“เอื้องขอตัวก่อนนะคะ” ธีรชลมองตามพยาบาลสาวไปจนเธอลับตา ไม่ใช่เพราะถูกตาต้องใจเธอ แต่เพราะอยากแน่ใจว่าเธอออกไปแล้วจริงๆ
“มองตามขนาดนี้ ให้ย่าเรียกกลับมาดีมั้ยล่ะ”
“ก็แค่แปลกใจว่าทำไมย่าถึงถูกชะตากับเขาขนาดนั้นต่างหาก ปกติย่าเคยถูกใจใครซะที่ไหน”
“ก็นั่นน่ะสิ จะเจอคนที่ถูกใจสักคนไม่ง่ายเลย หลานชายก็มีแค่คนเดียว คงจะดีไม่น้อยถ้าได้เอื้องดาวเขามาเป็นหลานสะใภ้”
“คุณย่า!!!”
“ทำไม เอื้องเขาก็หน้าตาสะสวย การศึกษาก็ดี นิสัยยิ่งไม่ต้องพูดถึงถ้าไม่ดีไม่มีทางอยู่กับย่ามาได้นานขนาดนี้หรอก แล้วแบบนี้จะมีเหตุผลอะไรอีกที่จะปฏิเสธ”
“ผมมีแฟนแล้ว ถ้าโสดก็อาจจะทำตามที่คุณย่าต้องการได้อยู่หรอก”
“ก็แค่แฟนไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”
“ย่า...”
นับตั้งแต่นั้นมาเยาวภาก็เอาแต่พูดเรื่องแต่งงานกับธีรชลมาตลอด หนักเข้าก็ยกเอาเรื่องมรดกมาขู่อ้าง บีบให้หลานชายแต่งงานกับเอื้องดาว แต่คำขู่จะไม่เกิดผลเลยหากไม่ใช่เพราะธีรชลเป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอการแต่งงานปลอมๆ เพื่อเอาใจเยาวภา
ค่ำคืนเข้าหอผ่านไปอย่างรวดเร็ว แม้จะอยู่ในห้องเดียวกันแต่เอื้องดาวกับธีรชลก็ต่างคนต่างอยู่ เขาเอาแต่โทรหาจิรนิษฐ์ทั้งคืน ส่วนเอื้องดาวก็เหนื่อยจนนอนหลับไปไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น
“เมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง นอนหลับสบายดีหรือเปล่า” มื้อเช้าเยาวภาตั้งตารอพูดคุยกับหลานชายและหลานสะใภ้ที่เธอเลือกเอง แต่พอเห็นสีหน้าของทั้งคู่ ก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“นอนกับคนแปลหน้าก็ต้องอึดอัดอยู่แล้ว” ธีรชลพูดขึ้น
“คนแปลกหน้าอะไรธีร์กับเอื้องแต่งงานกันแล้ว”
“ถ้าคุณย่าคิดแบบนั้นใครจะไปขัดได้”
“เอื้องล่ะเป็นยังไงบ้าง”
“นอนหลับได้ปกติค่ะ”
“ต่างคนต่างนอนเหรอ แต่งงานกันแล้วก็ต้องรีบมีทายาทให้ย่าสิ ย่าแก่แล้ว อยากอุ้มเหลนก่อนตาย” เยาวภาพูดด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด ธีรชลทำหน้ากระอักกระอ่วน
“คุณย่าครับ... เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา”
“ช้าได้ยังไง! เอื้องย่าบอกกับเอื้องตลอดว่าย่าอยากมีเหลน เอื้องรู้ดีกว่าใครว่าย่าอยากมีเหลนแล้วทำไม...” ย่าหันไปกดดันเอื้องดาว เอื้องดาวรู้สึกเหมือนถูกบีบ
“เอ่อ...คุณธีร์เขาอาจจะยังไม่พร้อมค่ะ”
“คุณธีร์เหรอ? ทำไมถึงได้พูดจาห่างเหินกันขนาดนั้น เรียกพี่ธีร์ก็ได้มั้ง” ธีรชลมองเอื้องดาวด้วยสายตาที่ข่มขู่ เขาไม่อยากให้เธอเรียกเขาแบบนั้น
“เรียกแบบนี้ดีแล้วค่ะ เอื้องชินแล้ว”
“ย่าไม่ชอบ” เยาวภาหันมองหน้าหลานชายของตัวเอง
“ย่าให้เรียกแบบไหนก็เรียกแบบนั้นเถอะ เดี๋ยวจะพานทำให้ย่าหงุดหงิดเปล่าๆ” ความกดดันถูกเทไปที่เอื้องดาวเพียงคนเดียว เรียกแบบไหนก็จะไม่ถูกใจอีกฝ่ายทั้งสองทาง
“เจ้าบ่าวเจ้าสาวตื่นเช้ากันจังเลยนะคะ ดูท่าทางจะนอนหลับกันเต็มอิ่มทั้งคืน” ธารารัตน์เดินออกมาพร้อมกับธนพัฒน์ พอเห็นว่าทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวต่างก็นั่งอยู่กันพร้อมหน้า มันก็อดจะพูดจิกกัดแม่สามีไม่ไหว
“นั่นสินะ เจ้าบ่าวเจ้าสาวตื่นกันตั้งแต่เช้าแล้ว พ่อแม่เจ้าบ่าวเพิ่งจะลุกออกจากที่นอนกันได้” เยาวภาสวนกลับอย่างไม่ยอม
“พอดีเข้าไปช่วยเก็บของในห้องให้ตาธีร์น่ะค่ะ นึกว่าพอมีเมียแล้วเมียจะช่วยจัดการ สุดท้ายก็ไม่พ้นคนเป็นแม่” คนพูดมองค้อนไปหาเอื้องดาว
“เก็บของ? เก็บทำไม? เก็บไปไหน?” เยาวภาถามอย่างไม่เข้าใจ
“ตาธีร์ต้องกลับไปทำงานนะคะ คุณแม่ลืมไปแล้วหรือไง”
“งั้นก็พาเอื้องไปด้วย”
