บทที่ 6 กอดส่ง (ส่ง)

“พาไปแล้วใครจะดูแลคุณแม่ละคะ ยิ่งหาคนที่ถูกใจยากๆ อยู่ด้วย”

“งั้นจะให้ผัวเมียเขาแยกกันอยู่หรือไง แบบนี้จะแต่งกันไปเพื่ออะไร”

“แล้วคุณแม่จะให้ทำยังไงละครับ ธีร์มันก็ต้องทำงานของมัน เอื้องเขาก็ต้องอยู่ดูแลคุณแม่ หรือว่าคุณแม่อยากจะย้ายกลับไปอยู่ที่กรุงเทพด้วยกัน” ธนพัฒน์พูดขึ้นบ้าง

“เอื้องว่ายังไงลูก ถ้าเอื้องไปย่าก็จะไป” เยาวภาหันไปถามความเห็นจากหลานสะใภ้ แต่นั่นก็ทำให้ทั้งธีรชล ธารารัตน์และธนพัฒน์ต่างก็แสดงสีหน้าว่าไม่พอใจ แทนที่จะถามความเห็นของคนในครอบครัว กลับเลือกไปถามคนอื่น

“เอื้องเขาคงไม่อยากไปหรอกค่ะคุณแม่ ครอบครัวเขาก็อยู่บ้านนอกกันหมด ถ้าย้ายไปอยู่กรุงเทพไม่รู้ว่าพ่อแม่เขาจะมีปัญญาไปหาลูกหรือเปล่า”

“ฉันไม่ได้ถามความเห็นหล่อนเลยนะรัตน์ ฉันถามหลานสะใภ้ของฉัน”

“ผมเห็นด้วยกับคุณแม่นะครับ ถ้า...เอื้องย้ายไปอยู่กรุงเทพ เขาก็จะต้องอยู่ไกลกับครอบครัว ยังไงผมจะพยายามกลับมาหาบ่อยๆ นะครับ คุณย่าแล้วก็เอื้องจะได้ไม่ต้องลำบาก” ธีรชลเสนอทางออกด้วยถ้อยคำที่สุภาพที่สุด

“เอื้องล่ะ เอื้องคิดยังไง” เยาวภายังคงยืนยันว่าอยากได้คำตอบจากเอื้องดาวที่สุด

“เอื้อง...เห็นด้วยกับพี่ธีร์ค่ะ คุณย่าเคยบอกเอื้องว่าชอบอากาศที่นี่มากกว่า อีกอย่างถ้าเอื้องอยู่ที่นี่เอื้องกับพ่อแม่ก็ไปมาหากันได้สะดวกกว่า”

“งั้นก็ตกลงตามนี้ ย่าจะอยู่ที่นี่กับเอื้องต่อไป แต่ธีร์ก็ต้องมาหาเอื้องบ่อยๆ ด้วยนะ ไม่งั้นจะมีเหลนให้ย่าได้ยังไง”

“แหม...เอื้องนี่เก่งจริงๆ เลยนะ พูดคำไหนคุณแม่ก็เชื่อหมดทุกคำจริงๆ”

“ใครทำดีกับฉัน ฉันก็รัก พวกที่ทำดีเพื่อจะเอาหน้า จะให้หลับหูหลับตารักเห็นทีว่าจะไม่ได้”

“คุณย่าครับ ยังไงวันนี้ผมก็ต้องกลับกรุงเทพก่อน ตั้งแต่ที่คุณย่าให้ลางานมาเตรียมตัวแต่งงาน ผมก็ไม่ได้แตะงานเลย ตอนนี้งานกองเป็นภูเขาแล้ว ผมต้องขอตัวจริงๆ ...”

“ไปเถอะ ไม่ต้องยกเหตุผลอะไรมาพูดแล้ว ย่าเข้าใจว่าธีร์มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ แต่ถึงยังไงก็ต้องแบ่งเวลาให้เอื้องด้วยนะ ไม่ได้มาหาก็ต้องโทรหาทุกวัน”

“ครับ”

“เอื้อง ถ้ามีโอกาสเราก็ไปหาธีร์ที่กรุงเทพกันบ้างดีไหม?” เอื้องดาวเหลือบมองธีรชลด้วยความลำบากใจก่อนจะตอบ

“ค่ะ ถ้าคุณย่าไปเอื้องก็จะไปด้วย เพราะยังไงเอื้องก็ต้องคอยดูแลคุณย่าอยู่แล้ว” เยาวภายิ้มออกมา มุมปากที่เคยนิ่งเฉยกลับยกขึ้นอย่างพอใจ

“เห็นไหมล่ะ พูดจาน่าฟัง มีเหตุผล คิดถึงคนแก่แบบย่ามากกว่าใครในบ้านนี้เสียอีก” คำพูดนั้นทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเช้าตึงเครียดกว่าเดิม ธารารัตน์กำมือแน่นใต้โต๊ะ ส่วนธนพัฒน์เพียงถอนหายใจเท่านั้น เพราะรู้ว่าถ้าปะทะกับเยาวภา รับรองได้มีระเบิดลูกใหญ่แน่

ธีรชลเหลือบมองเอื้องดาวเพียงเสี้ยววินาที ในสายตาคนอื่นอาจมองว่าเขาแค่ปรายตามอง แต่สำหรับเอื้องดาว เธอรู้ดีว่ามันคือสายตาแห่ง “คำเตือน” สายตาที่บอกว่า…อย่าทำอะไรให้ย่ารักมากไปกว่านี้อีก

“งั้นก็ตกลงตามนี้” เยาวภาพูดขึ้น ก่อนใช้ช้อนตักโจ๊กเข้าปาก

“ธีร์กลับกรุงเทพไปทำงาน ส่วนเอื้องอยู่ที่นี่กับย่า พอธีร์มีเวลาค่อยกลับมา… เข้าใจตรงกันนะ” ไม่มีใครกล้าขัด มีเพียงเสียงตอบรับแผ่วเบา ของทุกคนบนโต๊ะ แต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้ลุกจากที่ ธารารัตน์ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานแหลม

“แต่เอื้องดาว… พออยู่บ้านนี้แล้ว อย่าทำพลาดนะจ๊ะ บ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านเช่า อยู่กับผู้ใหญ่ก็ต้องรู้กาลเทศะ ทำอะไรให้ระวัง คนบางคนเขาไม่ชอบให้พยาบาลมาออกคำสั่งในบ้านใหญ่” เอื้องดาวก้มศีรษะเล็กน้อย

“เรื่องนั้นไม่ต้องสั่งสอนเอื้องเขาหรอก เอื้องไม่เคยทำตัวไม่ดี เขารู้ดีว่าต้องวางตัวยังไง” เยาวภารีบเถียงแทนทันที

“เอื้องรู้หน้าที่ดีค่ะ เอื้อง...” แต่ก่อนที่คำพูดนั้นจะจางไป ธีรชลก็วางช้อนลงบนจานดัง

กึก!

เสียงนั้นดังพอจะทำให้ทุกคนในโต๊ะหยุดพูด หยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง

เขาหันมามองเอื้องดาว ดวงตาคู่คมแข็งกร้าว มีประกายไม่พอใจเจืออยู่ชัดเจน เหมือนต้องการบอกว่า เลิกเสแสร้งเพื่อเอาใจย่าของเขาเสียที

“ผมกินเสร็จแล้ว จะกลับกรุงเทพ” เขาประกาศเสียงเรียบ

“เอื้อง ไปเตรียมของให้พี่ธีร์สิลูก”

“รัตน์จัดการหมดแล้วค่ะคุณแม่”

“แล้วเธอเสนอหน้าไปแย่งหน้าที่เมียเขาทำไม”

“ก็รัตน์เป็นแม่ของตาธีร์...”

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเอื้องไปช่วยดูความเรียบร้อยให้ เผื่อว่าลืมอะไรจะได้ไม่ต้องย้อนกลับไปกลับมา”

“งั้นธีร์ก็ไปช่วยเอื้องดูข้าวของของตัวเองเถอะ เดี๋ยวก็ต้องห่างกันแล้ว” เขาเพียงพยักหน้ารับ ก่อนจะตอบ

“ครับคุณย่า” ธีรชลลุกขึ้นแล้วเดินนำเอื้องดาวไปที่ห้อง หญิงสาวรู้สึกหนักใจมาก เธอแค่อยากจะลุกหนีออกมา ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับธีรชลที่ห้องอีก

“ไม่อยากทำก็ไม่ต้องมาก็ได้ อยากจะไปไหนก็ไป ตอนนี้ไม่ได้เป็นแค่พยาบาลดูแลคุณย่าแล้วนี่”

“เอื้องไม่เคยคิดว่าการแต่งงานมันเข้ามาเปลี่ยนแปลงอะไร หน้าที่ของเอื้องยังคงเป็นพยาบาลดูแลคุณท่าน”

“จำได้ก็ดี จำให้มันขึ้นใจด้วย”

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เอื้องขอไปช่วยงานในครัวนะคะ จะได้ไม่รกหูรกตาคุณ” เอื้องดาวเดินออกจากห้องแล้วเดินไปที่ครัวหลบความวุ่นวาย แต่เพียงไม่นานเมื่อธีรชลและครอบครัวของเขากำลังจะเดินทางกลับ เยาวภาก็ให้คนมาตามเอื้องดาวออกไปส่งเขา

“ถึงแล้วต้องโทรมาหาเอื้องด้วยนะ”

“รู้แล้วครับคุณย่า ถึงแล้วจะรีบโทรมาหาย่าทันทีเลย”

“ย่าบอกให้โทรหาเอื้อง จะมาโทรหาย่าทำไมกัน”

“โอ๊ย! จะโทรหาใครก็ค่อยว่ากันเถอะค่ะ เดี๋ยวก็ได้ตกเครื่องกันหมด” ธารารัตน์โวยขึ้น

“ผมไปแล้วนะครับคุณแม่ พ่อฝากดูแลคุณย่าด้วยนะเอื้อง” ธนพัฒน์หันไปบอกกับเอื้องดาว ถึงเขาจะไม่ได้เต็มใจรับเธอเป็นสะใภ้ แต่ก็มีท่าทางรังเกียจเธอน้อยกว่าธารารัตน์กับธีรชลมาก

“ธีร์...จะไม่กอดลาเมียสักหน่อยหรือไง” เมื่อเห็นว่าธีรชลทำท่าจะขึ้นรถ เยาวภาก็เอ่ยขึ้น

“ไม่เป็นไรค่ะคุณย่า...”

“ไม่เป็นได้ยังไง เดี๋ยวจะไม่ได้เจอกันอีกหลายวัน แบบนี้ก็คิดถึงแย่” ธีรชลถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด แต่ก็ยอมเดินกลับมาแล้วดึงเอื้องดาวไปกอดส่งๆ เพียงไม่กี่วินาที แล้วก็ผละเธอออก จากนั้นก็เดินขึ้นรถไปโดยไม่กล่าวอะไรอีก ก่อนที่ธารารัตน์กับธนพัฒน์จะตามขึ้นรถไป

บทก่อนหน้า
บทถัดไป