บทที่ 1 ตอนที่1

“พี่สาว…ไม่สนใจจะคบผู้ชายที่อายุน้อยกว่าเป็นกิ๊กเหรอครับ…”

“เขาว่ากินเด็ก…จะเพิ่มความสวยขึ้นเหมือนสาวพันปีเลยนะครับ^^”

“หึ…ฉันไม่ชอบผู้ชายอายุน้อยกว่า…”

“เพราะมันงี่เง่า…และง้องแง้งเข้าใจป่ะ..”

“ฉันชอบผู้ชายที่มีความเป็นผู้นำ…”

“และดูแลฉันได้…”

“ว้า…ถ้าอย่างงั้น…ผมคงไม่มีสิทธิ์…”

นางเอกเรื่องนี้ของเรา นางไม่ชอบผู้ชายเด็กกว่านะคะ

และพระเอกของเราก็น่ารักคิกขุๆมากๆค่ะ

ฝากติดตามนิยายของไรท์ด้วยนะคะ

แนะนำตัวละคร

ชื่อเล่น เคนโซ(เคน)

ชื่อจริง นาย คิณภพ ณรงค์เดช อายุ19ปี

เด็กสถาบันนักเรียนช่างกลปีสุดท้าย

หัวโจกประจำสถาบันที่มีหน้าตาหล่อเหลามีผู้หญิงรุ่นพี่รุ่นน้องรายล้อมรอบๆตัวแต่เขาก็มองพวกเธอเป็นแค่ของเล่นคั้นเวลาเท่านั้น

เจ้าชู้ตัวพ่อ

“พี่สาว….ไม่สนใจที่จะมีแฟนเป็นรุ่นน้องบ้างเหรอครับ^^”

“ถึงผมจะไม่รวย…แต่ผมหล่อไงครับ…ถึงแรด

ได้^^”

“เรียกพี่สาวไม่ถนัด…ขอเรียกเมียแทนได้หรือเปล่าครับ?”

ชื่อเล่น ขวัญเอย

ชื่อจริง นางสาว กมลวรรณ ลิ้มเกียร์ อายุ22ปี

คุณหนูผู้สวยสง่า สถานะทางบ้านค่อนข้างรวย

แต่เธอกลับต้องหันหลังให้บ้านหลังใหญ่ที่เคยอบอุ่นที่เธอเคยอาศัยอยู่ตั้งแต่เด็กเพียงเพราะแม่ของเธอลุ่มหลงสามีเด็ก

นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจปีสาม

มหาลั

ยQA

“ฉันไม่ชอบผู้ชายที่อายุน้อยกว่า…!!”

คฤหาสน์ ลิ้มเกียรติ

ขวัญเอย กมลวรรณ….

09:00น.

พรึบ

“น้ำส้มคั้นสดๆค่ะ…คุณหนูเอย^^”เสียงนุ่มละมุนอย่างใจดีพร้อมกับแก้วน้ำส้มคั้นสีส้มสดเข้มสวยถูกวางลงบนที่รองแก้วตรงหน้าฉัน ทำให้ฉันละสายตาหน้าจอไอแพดสิบนิ้วขึ้นไปมองหน้าป้าแพรป้าแม่บ้านประจำบ้านฉันด้วยแววตาสดใส

“ขอบคุณนะคะป้าแพร^^”ฉันเอ่ยขอบคุณป้าแพรไปและยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำส้มขึ้นมาดื่ม

“อร่อยไหมคะ?”ป้าแพรเอ่ยถามฉันในขณะที่ฉันดื่มน้ำส้มไปอึกใหญ่แล้ว สีหน้าของท่านมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าลุ้นๆกับคำตอบของฉันที่กำลังจะตอบท่าน

“อร่อยมากค่ะ^^”ฉันตอบท่านไปพร้อมกับวางแก้วน้ำส้มกลับไปที่เดิมและหันมาให้ความสนใจหน้าจอไอแพดของฉันต่อ เพื่อจะทำงานในไอแพดของฉันเพื่อรอพี่คีรีแฟนของฉันมารับฉันไปมหาลัยน่ะ^^

“คุณหนูต้องการอะไรเพิ่มอีกไหมคะ?”

“อ้อ…ไม่แล้วค่ะหนูอิ่มมากเลย^^”

“ขอบคุณป้าแพรนะคะ^^”

“ค่ะ…งั้นป้าขอตัวไปดูในครัวก่อนนะคะ^^”

“ค่ะ..ตามสบายค่ะ^^”ฉันยิ้มหวานเป็นเชิงอนุญาตให้ป้าแพร

“เอ่อ…ป้าแพรคะ?”ฉันรีบท้วงป้าแพรไว้ก่อนอย่างคนที่เพิ่งนึกขึ้นได้ ป้าแพรที่กำลังจะออกเดินไปจากตรงนี้ต้องหยุดชะงักฝีเท้าลงและหันกลับมามองหน้าฉัน

“คะ?คุณหนูจะรับอะไรเพิ่มเหรอคะ?”ป้าแพรเอ่ยถามฉันด้วยสายตาอ่อนโยนอย่างใจดี ฉันก็ยิ้มบางๆให้ท่าน

“คุณแม่…ตื่นรึยังคะ?”ฉันเอ่ยถามป้าแพรไปอย่างสงสัยเพราะสองสามวันมานี้ฉันไม่เจอหน้าคุณแม่ของฉันเลย

“เอ่อ..คือ…”ป้าแพรทำหน้าอ้ำๆอึ้งๆด้วยสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“คุณแม่ยังไม่ตื่นเหรอคะ?”

“เปล่าหรอกค่ะ…แต่คุณผู้หญิงยังไม่ได้กลับบ้านเลยตั้งแต่เมื่อวานค่ะ…”ป้าแพรก้มหน้าต่ำลงไม่มองสบตาฉันพร้อมกับเอ่ยตอบคำถามที่ฉันถามเธอไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

“ยังไม่กลับเหรอคะ?”

“คุณแม่ไปไหน?”ฉันเอ่ยออกมาอย่างสงสัยใบหน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นมาหางคิ้วข้างขวากระตุกบ่งบอกถึงสิ่งที่ฉันกลัว

ตึกๆๆๆ

“คุณผู้หญิงกลับมาแล้วจ๊ะป้าแพร!”เสียงฝีเท้าที่วิ่งมาจากทางหน้าบ้านและเสียงตื่นเต้นและร้อนรนใจของผินเด็กรับใช้หลานสาวของป้าแพรเอ่ยตะโกนลั่นมาแต่ไกลทำให้ป้าแพรหันไปจ้องมองหน้าผินด้วยแววตาดุๆ

พรึบ

“ขอโทษค่ะ..คุณหนู”ผินที่โดนป้าแพรดุทางสายตาก็หันมามองหน้าฉันที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทานอาหารถึงกับหน้าเสียเอามือกุมกันไว้ด้านหน้าหน้าตาซีดเชียวอย่างเห็นได้ชัด

“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ…คุณแม่กลับมาแล้วเหรอ?”ฉันเอ่ยบอกผินไปและเอ่ยถามถึงคุณแมา

“ค่ะ…คุณผู้หญิงกลับมาแล้วค่ะ…”

“ป้าแพร!…นังผิน!”เสียงที่คุ้นหูของฉันเอ่ยดังมาจากหน้าประตูทางเข้าห้องอาหารพร้อมกับร่างสูงสวยสง่าของคุณผู้หญิงของบ้านนี้กำลังเดินตรงดิ่งเข้ามาในห้องอาหารแห่งนี้

“ขาาาคุณผู้หญิง”ผินเด็กสาวสิบเจ็ดเอ่ยขานรับคุณแม่ของฉัน เธอยังคงอยู่ในชุดนักเรียนของมหาวิทยาลัยเทคนิคสายอาชีพที่อยู่ติดกับมหาลัยของฉัน

“ยัยเอย?”

“คุณแม่^^”ฉันเอ่ยเรียกคุณแม่ไปด้วยสีหน้าและนำ้เสียงดีใจที่สายตาของเราทั้งคู่สบกัน คุณแม่ของฉันยิ้มให้ฉันก่อนจะเดินตรงดิ่งมาหาฉันที่โต๊ะอาหารใหญ่ ท่านนั่งลงตรงหัวโต๊ะด้านข้างของฉัน ฉันก็มองหน้าท่านและยิ้มให้ท่าน

“เอากาแฟให้ฉันแก้วหนึ่ง”คุณแม่ละสายตาจากฉันและหันไปสั่งผิน

“ค่ะ…คุณผู้หญิง^^”ผินก้มศีรษะลงเล็กน้อยพร้อมตอบรับคำสั่งของคุณแม่ฉันและเดินออกไปจากห้องอาหารแห่งนี้ และคุณแม่ก็หันกลับมามองหน้าฉันเหมือนเดิม

“ลูกยังไม่ไปเรียนอีกเหรอจ๊ะ?”

“รอพี่คีรีมารับนะคะ^^”ฉันตอบคุณแม่ไปและยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำส้มคั้นของฉันมาดื่ม

“แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับหนูนะจ๊ะ”

“เรื่องอะไรเหรอคะ?”ฉันวางแก้วน้ำส้มลงและหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาซับไปที่ริมฝีปากของฉันแทน คุณแม่มีสีหน้าที่ดูเป็นกังวลอยู่นิดหน่อย ทำให้ฉันอยากจะรู้เรื่องที่คุณแม่จะบอกฉันซะเหลือเกิน

พรึบ

คุณแม่หันไปเปิดกระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นดังและหยิบซองสีชมพูออกมาจากกระเป๋าและยื่นมันมาให้ฉัน ฉันก็ยิ้มบางๆให้คุณแม่ของฉันสลับกับมองซองจดหมายสีชมพูนี้ด้วยแววตาสงสัย

“อะไรคะ?”

“เดี๋ยวนี้จะให้เงินเดือนหนูเป็นซองสีชมพูแบบนี้เลยเหรอคะ?”ฉันพูดเชิงเล่นเชิงจริงใส่คุณแม่ไป แต่สีหน้าของท่านก็ไม่ได้เล่นขำไปกับคำพูดของฉันเลยสักนิด

พรึบ

ฉันที่เห็นคุณแม่ทำสีหน้าเคร่งเครียดจึงยื่นมือไปรับซองจดหมายสีชมพูมาจากมือของท่านแทน ฉันมองหน้าคุณแม่ของฉันอีกครั้งก่อนจะเปิดซองจดหมายดูเนื้อหาข้างใน

พรึบ

บทถัดไป