บทที่ 8 จำไม่ได้

และการที่หลิวหลียืนอยู่คนเดียวตรงกลางลานกว้างยิ่งทำให้จูหยวนจางพินิจพิจารณานางได้ง่ายยิ่งขึ้น

ยามเมื่อนางอยู่ท่ามกลางเหล่าทหารนางช่างกลมกลืนได้อย่างน่าอัศจรรย์ทำให้เขาไม่สามารถวิเคราะห์นางได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน

แต่ยามนี้

นางยืนเด่นอยู่ตรงนั้น

เขาจะทำอย่างไรกับนางดี

ทำอย่างไรดี...

จูหยวนจางคิดอยู่อย่างนั้นพลางจ้องมองภรรยาของตนในคราบของบุรุษอย่างไม่วางตา

"เป็นอย่างไรบ้าง เหนื่อยหรือไม่ อาหลิ่ว อ่ะ กินน้ำก่อน" เสียงอาต้วนยังคงเอ่ยขึ้นอย่างใส่ใจในตัวสหายอย่างหลิวหลีหลังจากนางได้กลับเข้ามายังกลุ่มทหาร แม้นางจะมิได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใดแก่เขาเลย แต่เขาก็ยังดูแลเอาใจใส่นางเป็นอย่างดี

อาต้วนผู้นี้ช่างมีน้ำใจ นางคิดพลางยิ้มส่งให้อาต้วนอย่างจริงใจขณะรับน้ำมาดื่มกินตามคำ  ทั้งสองนั่งพักอยู่ด้วยกันไม่ไกลจากสายตาของใครบางคน ท่าทางสนิทสนมนั่นทำใครบางคนจ้องมองอย่างสังเกต

จูหยวนจางยังคงนั่งมองภรรยาของเขาที่อยู่ในคราบบุรุษอยู่อย่างไม่วางตา

เสียงครวญครางหวานใสพลันดังขึ้นมาในโสตประสาทของเขา  ชายหนุ่มรีบสลัดเสียงในมโนสำนึกนั้นออกไป  อยู่ค่ายทหารอย่างนี้เขาจะทำสิ่งใดได้กัน ต่อให้นางแสดงตัวตนที่แท้จริงกับเขาก็ตามที

"ท่านรองแม่ทัพจู  สนามประลองพร้อมแล้วขอรับ" เสียงของหัวหน้าหน่วยดังขึ้นดึงสติและสายตาของจูหยวนจางให้ออกมาจากร่างของบุรุษผู้หนึ่ง  เขาเพียงพยักหน้าน้อยๆด้วยสีหน้าเคร่งขรึมตลอดเวลา

รอบบ่ายนี้การแสดงฝีมือของทหารใหม่แต่ละคนนั้นจะเป็นการประลองฝีมือการต่อสู้ตามที่แต่ละคนถนัด แม้ใครที่ต่อสู้ไม่เก่งก็ไม่เป็นไรเพราะแค่ต้องการประเมินพื้นฐานของแต่ละคนเพียงเท่านั้น

การต่อสู้ของแต่ละคู่ผ่านพ้นไปเป็นอย่างดี  ในที่สุดก็มาถึงคู่ต่อสู้ที่จูหยวนจางรอชม นั่นก็คือบุรุษผู้หนึ่งที่เขามั่นใจว่าเป็นภรรยาพระราชทานของเขาปลอมตัวมา

จูหยวนจางนั่งอยู่บนตั่งไม้เหนือกลุ่มของทหารที่ล้อมวงกันให้กำลังใจแต่ละคู่ที่เข้ามาตรงกลางวงเพื่อแสดงฝีมือ  สีหน้าของชายหนุ่มยังคงไร้อารมณ์ใดๆมีเพียงสายตาที่บ่งบอกได้ว่าอยากรู้ถึงใครบางคนว่าจะทำอย่างไรในสถานการณ์ยามนี้

"เริ่มได้" เสียงดังฟังชัดของหัวหน้าหน่วยตะโกนขึ้นเป็นสัญญาณให้การต่อสู้ของคู่หลิวหลีในคราบของอาหลิ่วได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน

คู่ต่อสู้ของหลิวหลีนั้นทั้งตัวโตกว่าหลิวหลี ทั้งแข็งแกร่งกว่าหลิวหลี เมื่อเขาเหวี่ยงแขนมาแต่ละที หลิวหลีต้องใช้สมองอันน้อยนิดของนางประมวลผลระหว่างหลบเลี่ยงกับรับแรงปะทะแล้วส่งกลับ แต่เวลาไม่ได้มีมากพอที่จะให้เสียเวลาคิด สัญชาตญาณของนางจึงทำให้นางกระโดดโหยงหลบไปไกล

เขาวิ่งเข้าหาหลิวหลีหวังเหวี่ยงแขนฟาดฝ่ามือมาอีก หลิวหลีก็กระโดดหนีอีก เขาตามมาอีกหลิวหลีก็หมุนตัวหลบอีก เขาเข้ามาหลิวหลีหลบ เขาตามหลิวหลีหนี ภายในวงก็แคบเหลือเกินหนีไปหนีมาก็จนมุม สุดท้ายเมื่อคู่ต่อสู้ทำท่าขยับแขนขยับขาเข้าใส่หลิวหลี หญิงสาวจึงตัดสินใจฝ่าฝูงชนวิ่งหนีออกไปนอกกลุ่มอย่างไม่คิดชีวิต

นางวิ่งไปไกลลิบไม่สนใจกฎกติกาใดๆ สร้างความขบขันให้บรรดาทหารคนอื่นที่นั่งชมเป็นอย่างมาก

จูหยวนจางที่ตั้งใจรอชมฝีมือของนางถึงกับกลั้นยิ้มเอาไว้สุดชีวิตด้วยใบหน้าเรียบเฉยท่าทางเคร่งขรึม เขามิได้แปลกใจแต่อย่างใด  ดีที่นางปลอมตัวได้อย่างแนบเนียนมิเช่นนั้นคงมีคนสงสัยในตัวนางเป็นแน่กับวิธีการต่อสู้อย่างนั้น

"เจ้าจะวิ่งไปไหน กลับมาเดี๋ยวนี้!" หัวหน้าหน่วยตะโกนอย่างไม่ลดละไปทางหลิวหลีที่หนีไปตั้งท่าเสียไกล หญิงสาวในคราบอาหลิ่วทำได้เพียงก้มหน้างุดๆเดินกลับเข้ามายังกลุ่มตามเดิม

อายก็อายแต่ยังดีกว่าโดนหมัดเจ้าตัวโตนั่น นางคิดในใจ

"เจ้าชื่ออะไร" หัวหน้าหน่วยคำรามใส่หน้าหลิวหลีทันทีที่หญิงสาวเดินเข้ามายังกลุ่ม

เงียบ

ไม่มีคำตอบ

หลิวหลีไม่อยากเอ่ยคำใดออกมาด้วยเกรงว่าน้ำเสียงหวานใสของนางจะสะดุดหูใครบางคนที่นั่งอยู่บนตั่งไม้ไม่ไกลนั่น

"เจ้าชื่ออะไร ตอบ!" เสียงแหกปากตะเบ็งใส่หูหลิวหลีจนหญิงสาวต้องห่อไหล่เอียงหน้าย้ายหูหนี ด้วยเกรงว่าพลังของเสียงนั้นจะทำร้ายใบหูของนาง

อาต้วนที่นั่งชมอยู่นอกวงไม่ไกลเห็นอาการห่อไหล่เอียงหัวหลบอย่างนั้นของสหายจึงตะโกนตอบแทน "อาหลิ่วขอรับ  เขาชื่ออาหลิ่ว เขามีปัญหาเกี่ยวกับการพูดขอรับท่านหัวหน้า"

"หือ! อย่างนั้นรึ" หัวหน้าหน่วยได้ยินดังนั้นจึงเบาเสียงลงก่อนแสดงความเห็นใจบุรุษตรงหน้าพลางเอ่ย "อา...ช่างเถอะ  เจ้าห้ามวิ่งหนีออกไปนอกกลุ่มอีก รักษากฎกติกาให้ดี มันสำคัญมาก เข้าใจหรือไม่"

จบคำของหัวหน้าหน่วยหลิวหลีรีบพยักหน้าหงึกๆก่อนจะรีบกลับหลังหันเพื่อเดินกลับไปรวมตัวกับกลุ่มทหารที่นั่งล้อมวงอยู่ในทันที

ในขณะที่หลิวหลีกำลังเดินเข้าไปยังกลุ่มเพื่อนทหารอย่างโล่งใจ เสียงเข้มของผู้หนึ่งพลันดังขึ้น

"หยุด!"

หลิวหลีชะงักเท้าทันที  นั่นเสียงของจูหยวนจาง!

"เจ้าชื่ออาหลิ่วรึ" เสียงทุ้มต่ำเนิบนาบของจูหยวนจางเอ่ยขึ้นขณะลุกขึ้นจากตั่งไม้แล้วเดินอย่างสุขุมเข้ามาใกล้หลิวหลีในรูปโฉมของอาหลิ่ว

หญิงสาวค่อยๆหันหน้ากลับไปหาเขาอย่างเก็บข่มอาการระแวดระวังระหวาดระแวงเอาไว้อย่างที่สุด

"มีปัญหาเรื่องการพูดด้วย" เสียงทุ้มต่ำเรียบเรื่อยของจูหยวนจางยังคงเอ่ยขึ้นเมื่อมาหยุดยืนตรงด้านหน้าของหลิวหลี

สายตาคมปลาบจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวนิ่งๆอย่างหยั่งเชิงและวิเคราะห์

สีผิวเข้มขึ้น หนวดนี่ก็เหมือนมาก ช่วงไหล่บึกบึน หน้าอกหายไป  แต่กลิ่นกายนาง...

บทก่อนหน้า
บทถัดไป