บทที่ 4 แผนรับมือ2/2

“ชุดดำหรือเจ้าคะ” ฉุยฉุยเอ่ยถาม

“ดูจากที่เจ้าไม่รู้เรื่องแสดงว่าพวกเขายังไม่ผ่านไป เช่นนั้นก็ดีพวกเราจะได้มีเวลามากขึ้นอีกหน่อย” จ้าวฉือลี่ระบายลมหายใจออกมาก่อนจะเอ่ยถึงแผนการให้คนทั้งสองตรงหน้าฟัง

“เสวี่ยเฟิงเจ้าเอาตราพยัคฆ์กลับไปที่จวนของชินอ๋อง แล้วเอาตราพยัคฆ์ไปแอบไว้แถว ๆ เรือนนอนของบ่าวรับใช้ ยามนี้กำลังคนที่รักษาจวนชินอ๋องอยู่น่าจะน้อยลงมาก เพราะชินอ๋องนำคนออกมาตามหาข้าและตราพยัคฆ์ ด้วยฝีมือเจ้าน่าจะลอบเข้าไปได้ไม่ยาก หลังจากนั้นเจ้ารีบไปจวนตระกูลเผยเอารถม้าและตามคนมาบอกว่ามีคนดักทำร้ายข้า หลังจากนั้นก็แสร้งตามหาข้าตรงทางสามแยกข้างหน้าสักหนึ่งเค่อ แล้วค่อยไปแจ้งชินอ๋องว่าข้าหายตัวไป เจ้าทำได้หรือไม่”

“ทำได้ขอรับ แล้วคุณหนูจะทำอันใดต่อขอรับ” เสวี่ยเฟิงถามด้วยความเป็นห่วง เพราะหากเขาไปแล้วมีคนของเว่ยเหวินเซียนหรือเว่ยหลิงเฮ่อมา เพียงลำพังฉุยฉุยคงไม่อาจรับมือได้

“เจ้าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวข้ากับฉุยฉุยจะไปหลบอยู่ในป่าไผ่แถว ๆ สามแยก หากชินอ๋องมาเจอข้าก็จะบอกว่ามีคนดักทำร้ายข้า และเพราะข้าได้รับบาดเจ็บจึงซ่อนตัวอยู่ตรงนั้น แล้วให้เจ้าไปตามคนมาช่วย จำเอาไว้ไม่ว่าจะถูกคาดคั้นมากเท่าใดก็บอกเพียงเท่านี้ก็พอ นอกนั้นข้าจะจัดการเอง”

เมื่อคนทั้งคู่ตรงหน้าพยักหน้ารับรู้นางก็ล้วงเข้าไปในแขนเสื้อหยิบตราพยัคฆ์ออกมาให้เสวี่ยเฟิง ขณะนั้นเองชายชุดดำก็ขี่ม้าผ่านไปพอดี ฉุยฉุยกับเสวี่ยเฟิงถึงกับดวงตาเบิกโตเพราะทั้งคู่ไม่รู้ว่าเหตุใดคุณหนูถึงรู้ว่าจะมีบุรุษชุดดำขี่ม้าผ่านมา

“ไปได้แล้วอย่ามัวชักช้า เวลาของพวกเราเหลือไม่มากแล้ว” จ้าวฉือลี่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าทั้งคู่นั้นมัวแต่เหม่อลอย

“เสวี่ยเฟิงอย่าใช้เส้นทางเดิมที่นั่งรถม้ามา ให้เจ้าใช้เส้นทางอื่น” จ้าวฉือลี่เกือบลืมบอกไปแล้ว โชคดีที่นางนั้นนึกขึ้นมาได้ทัน ไม่เช่นนั้นเสวี่ยเฟิงต้องไปเจอกับคนของเว่ยเหวินเซียนแน่นอน

เสวี่ยเฟิงที่กำลังจะก้าวเท้าไป หันหน้ามาพยักหน้ารับรู้ทันที ก่อนจะรีบไปทำตามคำสั่งของผู้เป็นนาย ส่วนฉุยฉุยกับจ้าวฉือลี่ก็รีบเดินไปยังทางสามแยกอย่างรวดเร็ว ยามนี้นางนั้นหวังเพียงว่าขอให้เป็นไปตามที่นิยายเขียนเอาไว้ ที่จิ่งหลินนั้นบอกกับเว่ยเหวินเซียนว่าพวกนางโดนคนร้ายดักทำร้าย โดยไม่ทราบว่าคนเหล่านั้นเป็นใคร

จ้าวฉือลี่กับฉุยฉุยเดินเลยสามแยกที่แยกไปจวนชินอ๋องกับจวนตระกูลเผย ส่วนอีกเส้นทางคือทางที่พวกนางไปยังเรือนที่ใช้นัดพบกับเว่ยหลิงเฮ่อ เมื่อพวกนางมาถึงก็มิได้เดินต่อ นางเพียงหากอไผ่ขนาดใหญ่เพื่อซ่อนตัว ถึงนางจะรู้ว่าเว่ยเหวินเซียนจะต้องหาตัวนางเจอก็ตาม

พวกนางอยู่ในจุดที่ใช้ซ่อนตัวไม่ถึงครึ่งเค่อ เสียงฝีเท้าม้าและเสียงคนจำนวนมากก็ดังเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ หัวใจของจ้าวฉือลี่เต้นรัวเร็วและแรงเสียจนแทบจะทะลุออกมาจากอก เพราะนางนั้นไม่แน่ใจว่าจะสามารถโกหกเว่ยเหวินเซียนได้อย่างแนบเนียนหรือไม่ เพราะอย่างไรเขาก็เป็นพวกขึ้นชื่อเรื่องความฉลาดและมีความสามารถไม่เป็นรองใคร นางจึงกลัวว่าเขาจะจับผิดนางได้

ฉุยฉุยเอื้อมมือมาจับมือคุณหนูของนางเมื่อเห็นว่าสีหน้าและแววตานั้นฉายแววหวาดกลัววิตกกังวลจนชัดเจน มือขาวเนียนนุ่มของเผยตั้นเยี่ยนเย็นเฉียบ ฉุยฉุยถูมือให้คุณหนูของนางเพื่อทำให้อุ่น พร้อมกับเอ่ยเพื่อให้คุณหนูของนางสบายใจ

“คุณหนูเจ้าคะ อย่ากังวลเลยเจ้าค่ะ ฮูหยินที่อยู่บนสวรรค์จะต้องคุ้มครองคุณหนูให้ปลอดภัยอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”

จ้าวฉือลี่หันไปมองฉุยฉุยพร้อมกับยิ้มแห้ง ๆ ‘เรื่องโกหกทั้งนั้น ถ้าคนตายคุ้มครองได้จริง พ่อแม่ของฉันที่ตายไปก็คงไม่ปล่อยให้ฉันหนีพวกทวงหนี้จนพลัดตกหน้าผาลงมาตายเช่นนี้หรอก’

“อย่าฝากความหวังไว้กับคนตายเลย เจ้าหาท่อนไม้มาถือเอาไว้ดีกว่า หากมีคนเข้ามาไม่ว่าใครก็ตีได้เลย แต่ไม่ต้องเผยวรยุทธ์ให้พวกเขารู้” จ้าวฉือลี่เอ่ยเสียงเบา ๆ ราวกับกระซิบ เพราะคนถือคบเพลิงใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว

เรื่องที่คนรับใช้ทั้งสามของเผยตั้นเยี่ยนมีวรยุทธ์นั้นมิมีผู้ใดรู้ นอกจากเผยตั้นเยี่ยนกับคหบดีหลิว หลิวชิงเยี่ยนท่านตาของนางเท่านั้น แต่จ้าวฉือลี่เคยอ่านนิยายเรื่องนี้มามีหรือนางจะไม่รู้

ทั้งสามคนล้วนเป็นคนที่หลิวชิงเยี่ยนคัดเลือกมาด้วยตนเองก่อนจะส่งมาเพื่อคอยดูแลเผยตั้นเยี่ยน หลังจากที่หลิวชิงเยี่ยนนั้นสืบทราบสาเหตุการตายที่แท้จริงของบุตรสาวตนเองได้ว่าที่จริงแล้วนางนั้นมิได้ตายเพราะร่างกายอ่อนแอ แต่ทว่าตายเพราะถูกวางยา แต่หลิวชิงเยี่ยนยังไม่รู้ว่าใครคือคนวางยาบุตรสาวของตนจึงส่งคนมาอารักขาหลานสาวเอาไว้ก่อน

อย่าว่าแต่หลิวชิงเยี่ยนเลยที่ไม่รู้ตัวคนร้าย แม้แต่จ้าวฉือลี่เองก็ยังไม่รู้ว่าใครคือคนวางยา เพราะนักเขียนเทนิยายไปเสียก่อน

เพียงไม่นานนักแสงไฟจากคบเพลิงก็เข้ามาใกล้จุดที่พวกนางซ่อนตัวอยู่ เมื่อฉุยฉุยเห็นว่าระยะห่างจากแสงไฟนั้นเข้ามาใกล้ไม่ถึง5ก้าวแล้ว นางก็พุ่งตัวออกมาจากที่ซ่อนเพื่อตีคนที่มาเยือนตามที่คุณหนูของนางสั่ง

เมื่อทหารของเว่ยเหวินเซียนโดนฉุยฉุยที่เป็นเพียงสาวใช้โจมตีมีหรือจะหลบไม่ได้ ทหารผู้นั้นทิ้งคบเพลิงในมือแล้วรีบคว้าท่อนไม้เอาไว้ ก่อนจะจับแขนทั้งสองข้างของฉุยฉุยไขว้ไปทางข้างหลัง

“เจอตัวสาวใช้ของคุณหนูเผยแล้ว พวกเจ้าไปทูลท่านอ๋องที”

ทหารผู้นั้นรีบตะโกนบอกสหายที่อยู่ใกล้ ๆ ให้ไปแจ้งผู้เป็นนาย แต่ว่าเว่ยเหวินเซียนกลับได้ยินโดยที่ไม่ต้องให้ผู้ใดมาแจ้ง เขากระโดดลงจากหลังม้าเข้ามาในป่าไผ่แล้วเดินไปตามเสียงของนายทหารผู้นั้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อได้ยินเสียงของทหารจ้าวฉือลี่ที่ซ่อนตัวอยู่หลังกอไผ่ใหญ่ก็แสร้งเดินออกมาแบบไม่มั่นใจว่าผู้ที่มาเยือนคือใคร พร้อมเอ่ยกับทหารผู้นั้นด้วยท่าทางหวั่นกลัว แต่ท่าทางที่กำลังหวาดกลัวนี้นางนั้นหาได้แสดงไม่ เพราะมันออกมาจากใจจริงของนางในยามนี้

“เจ้าคือทหารของชินอ๋องอย่างนั้นหรือ” น้ำเสียงสั่นเล็กน้อย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป