บทที่ 6 บทที่ 6 โลหิตหลั่งราดรดปฐพี
ด้านจ้าวฝูหมิงนั้นเดินทางเข้าวังหลวงทั้งที่กลิ่นสุรายังคละคลุ้งอยู่ทั่วทั้งกาย แต่เขาไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น ในหัวเขาคิดเพียงแค่ว่า ข้าจะดื่ม ใครจะทำไม?
"ถวายพระพรฝ่าบาท เอิ๊ก!!!"
จ้าวฝูหมิงส่งเสียงเรอออกมาจนดังก้องไปทั้งตำหนักมังกร จ้าวฝูหรงกำลังนั่งตรวจฎีกาบนโต๊ะทรงอักษรได้เห็นเช่นนั้นก็เบ้หน้าขมวดคิ้วมุ่นทันที กลิ่นสุราที่น้องรองเรอออกมาช่างน่าเวียนหัวยิ่งนัก
เขามิชมชอบการดื่มสุราเท่าไรนัก แต่ทว่าน้องรองกลับชมชอบมันเป็นชีวิตจิตใจ
"ไม่ต้องมากพิธี ลุกขึ้นเถิด"
"ขอบพระทัยฝ่าบาท"
จ้าวฝูหมิงเอ่ยพลางทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ บนโต๊ะมีชาหลงจิ่งชั้นดีวางเอาไว้ เขายกชาร้อนขึ้นมาจิบเพียงเล็กน้อยก่อนจะวางมันลง
"ท่านพี่ได้รับหัวของฉีอ๋องแล้วหรือยัง?"
"ได้รับแล้ว น้องรองคราวหลังเจ้าก็ไม่ต้องส่งมาเช่นนี้ก็ได้ เหล่าขุนนางในราชสำนักได้เห็นถึงกับอกสั่นขวัญหาย เจ้ารู้หรือไม่?"
"ไม่รู้ ข้าเพียงทำหน้าที่สำเร็จลุล่วงด้วยดี เหล่าขุนนางขวัญอ่อนพวกนั้นจะหวาดกลัวหรือไม่หวาดกลัว ข้าไม่สน"
จ้าวฝูหรงถอนหายใจเล็กน้อย พลางจ้องมองจ้าวฝูหมิงที่ยกขาทั้งสองข้างขึ้นมาพาดเอาไว้บนโต๊ะอย่างไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย
เฮ้อ!!! นิสัยน้องรองก็เป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร
"พี่จะเขียนราชโองการยกดินแดนแคว้นฉีให้เจ้าปกครอง เจ้าเห็นเป็นเช่นไร?"
"ก็ดี อนุของข้าก็เป็นสตรีแคว้นฉี"
ได้ยินจ้าวฝูหมิงเอ่ยมาเช่นนี้ จ้าวฝูหรงจึงเอ่ยถามขึ้นมาทันที
"ได้ยินว่าเจ้าแต่งอนุหรือ น้องรอง เช่นนั้นเจ้าควรตบแต่งพระชายาเสียที"
"ข้าไม่แต่ง ข้ายังไม่อยากแต่ง ไว้ข้าอยากเมื่อไหร่ข้าจะแต่งเอง ท่านพี่เข้าใจหรือไม่?"
"เข้าใจ ๆ พี่จะไม่ถามอีกแล้ว"
ให้ตายเถิด!!! จ้องเขม็งเช่นนี้ เจ้าไม่กินหัวข้าไปเลยเล่าน้องรอง
"ยามนี้แคว้นฉีสงบแล้ว แต่อีกสามแคว้นข้ายังไม่มั่นใจเท่าใดนัก ท่านพี่จงระวังเอาไว้ให้ดี"
"เข้าใจแล้ว"
เมืองเสียนหยางโอบล้อมไปด้วยแคว้นทั้งสี่ แคว้นฉีตั้งอยู่ทางทิศใต้ แคว้นจ้าวตั้งอยู่ทางทิศเหนือ แคว้นฉู่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก และสุดท้ายแคว้นเว่ยตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก
แม้ภายนอกจะดูเหมือนทั้งสี่แคว้นยอมสวามิภักดิ์ต่อเสียนหยาง แต่ใครจะรู้เล่า สงครามอาจจะปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อ
"ทูลฝ่าบาท องค์หญิงขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ"
"ให้นางเข้ามา"
เสียงของขันทีดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาของพวกเขาทั้งสอง ไม่นานนักก็ปรากฏร่างของสตรีผู้หนึ่งกำลังเดินนวยนาดเข้ามาในตำหนักอย่างไม่รีบไม่ร้อน นางสวมชุดแพรไหมชั้นดี บนศีรษะประดับด้วยปิ่นทองคำสวยงาม
"จ้าวซือซือ"
"ถวายพระพรเสด็จพี่ คารวะพี่รอง"
จ้าวฝูหมิงพยักหน้าอย่างขอไปที จ้าวซือซือเป็นฝาแฝดของเขา นางเป็นสตรีที่งดงาม และมีใบหน้าละม้ายคล้ายเขาเป็นอย่างมาก
แฝดนรก!!! เหตุใดสวรรค์ต้องส่งนางลงมาเป็นฝาแฝดของเขาด้วย
"จ้องข้าเช่นนี้ แอบด่าข้าในใจหรือพี่รอง?"
"คนอย่างเจ้า ด่าเท่าใดก็ไม่เข้าสมอง!!!"
"ขอบพระทัยที่ชมเพคะ"
จ้าวฝูหรงรู้สึกปวดหัวกับน้องทั้งสองคนของเขาเป็นอย่างมาก จ้าวฝูหมิงมิสนสิ่งใดในใต้หล้า แต่ทว่าจ้าวซือซือกลับอาการหนักยิ่งกว่า
เขาเคยหาบุรุษที่เหมาะสมให้อภิเษกสมรสกับนาง แต่ทว่าเจ้าบ่าวกลับถูกทุบตีในคืนเข้าหอ เขามารู้อีกคราว่าแท้จริงแล้ว จ้าวซือซือมีใจรักใคร่ชอบพอในสตรีเหมือนกัน
นางมิชอบบุรุษ
ทุกวันนี้นางจึงครองตนไร้คู่ครอง หึ!!! ไร้คู่ครองเช่นนั้นหรือ ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่านางกำนัลในตำหนักอิงฮวาล้วนตกเป็นของนางจนหมดสิ้น
นี่ยังมิรวมเรื่องที่เหล่านางสนมมาทูลร้องเรียนแก่เขาว่าถูกองค์หญิงเล็กแทะโลมทุกวัน!
แม้แต่สนมของข้านางก็ไม่ยอมละเว้น!!!
จ้าวซือซือนั่งลงตรงข้ามกับจ้าวฝูหมิงก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นมาจิบเพียงเล็กน้อย
"ได้ยินมาว่าพี่รองแต่งอนุเข้ามา"
"อย่ายุ่งกับผู้หญิงของข้า!!!"
"แหมมม ข้าก็แค่อยากรู้จักกับพี่สะใภ้คนใหม่ก็เท่านั้น"
"หึ!!! หากเตือนไม่ฟังข้าถีบร่วงเก้าอี้แน่!!!"
ผัวะ!!!
"ซือซือ!!!"
จ้าวซือซือฟาดฝ่ามือลงไปกลางศีรษะของจ้าวฝูหมิงเต็มแรง หึ!!! พี่ชั่ว เกิดหลังข้าแค่ไม่กี่เค่อ ทำมาวางท่าหรือ?
"อย่ามาหาเรื่องข้าฝูหมิง!!!"
"เจ้าสิหาเรื่องข้า!!!"
บัดซบ!!! ตบจนข้าเวียนหัวเลย
จ้าวฝูหมิงคร้านจะใส่ใจนางแล้ว เขาจึงขอตัวลากลับ ก่อนจะกลับเขาเพียงแวะไปเยี่ยมเยือนเสด็จแม่ที่แก่ชรา ซึ่งก็คือไทเฮาในตอนนี้ แต่ทว่าเสด็จแม่กลับเอ่ยถามแต่เรื่องที่เขาไม่อยากฟัง เขาจึงเดินหนีออกมาทันที
จ้าวฝูหมิงกลับมาถึงจวนในเวลาค่ำแล้ว เมื่อมาถึงก็พบกับหลิงหลิงที่นั่งร้องไห้คร่ำครวญปานจะขาดใจอยู่ที่หน้าเรือนของเขา
"เกิดสิ่งใดขึ้น?"
"ท่านอ๋องเพคะ ฮือออ โปรดเมตตาหม่อมฉันด้วย หม่อมฉันถูกอนุไป๋รังแกเพคะ ฮืออ!'
จ้าวฝูหมิงขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะสั่งคนให้ไปตามไป๋มู่หลันมาพบ
ไป๋มู่หลันเองเตรียมใจเอาไว้แล้ว นางเดินไปหาเขาที่เรือนใหญ่ทันที เมื่อไปถึงก็พบกับหลิงหลิงที่กำลังร้องไห้คร่ำครวญกอดขาจ้าวฝูหมิงอยู่ ไป๋มู่หลันรู้สึกสมเพชนางยิ่งนัก ยามนี้ใบหน้าของนางเป็นรอยเล็บของโม่ฉือเต็มไปหมด
"ไป๋มู่หลัน หลิงหลิงบอกว่าเจ้าทำร้ายนางหรือ?"
"เพคะ หม่อมฉันใช้กระทะฟาดหน้านางเพคะ"
"เจ้าทำนางทำไมกัน?"
"นางมาผลักหม่อมฉันก่อนเพคะ"
หลิงหลิงที่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยขึ้นมาทันที
"ฮืออ ท่านอ๋อง ไม่จริงนะ...."
"หุบปาก!!! ข้ายังไม่ได้ถาม หากเจ้ากล้าสอดปากขึ้นมาอีก ข้าจะดึงลิ้นเจ้าออกมาให้กากินเสีย!!!"
หลิงหลิงเงียบปากทันที นางทำได้เพียงปรายตามองไป๋มู่หลันด้วยความเกลียดชัง
"นางผลักเจ้าหรือ?"
"เพคะ หม่อมฉันจึงต่อสู้เพื่อปกป้องตนเอง เอ่อ แล้วนางก็ถูกท่านอ๋องน้อยโม่ฉือข่วนเพคะ"
จ้าวฝูหมิงก้มลงมองหลิงหลิงคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดในใจ
โม่ฉือลูกพ่อ เจ้าทำได้ดี!!!
เมี้ยววว!!!
เสียงร้องออดอ้อนของโม่ฉือดังขึ้นมา จ้าวฝูหมิงยกนิ้วขึ้นดีดเสียงดังเปาะ โม่ฉือก็กระโดดเข้ามาซุกกายอยู่บนตักของเขาทันที
จ้าวฝูหมิงใช้มือลูบศีรษะของมันด้วยความรักใคร่ ก่อนจะช้อนตัวอุ้มมันขึ้นมาและหอมมันที่แก้มทั้งสองข้างอย่างทะนุถนอม
ไป๋มู่หลันจ้องมองการกระทำของเขาอย่างไม่ลดละ มุมอ่อนโยนของเขาก็มีนี่นา แต่ไม่ใช้กับคน!!!
"หลิงหลิง"
"เพคะท่านอ๋อง"
"โม่ฉือข่วนหน้าเจ้าหรือ?"
"เอ่อ เพคะ"
หลิงหลิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก แต่ไหนแต่ไรมานางก็ไม่ชอบเจ้าแมวผีตัวนี้อยู่แล้ว มันเห็นนางทีไรเป็นต้องกางเล็บแยกเขี้ยว จ้องจะข่วนนางอยู่ตลอดเวลา
น่าจับมาทำซุปแมวยิ่งนัก!!!
เมี้ยว!!!
โม่ฉือจ้องหน้าหลิงหลิงเขม็ง ก่อนจะขู่คำรามใส่นางอย่างไม่ยอมแพ้ เท้ามังคุดในยามนี้เริ่มมีกรงเล็บแหลมคมโผล่ออกมา หลิงหลิงที่ได้เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกหวาดผวายิ่งนัก
แมวบ้า!!!
"โม่ฉือลูกพ่อ เจ้าไม่ชอบหลิงหลิงหรือ?"
"เมี้ยวววว!!!"
"โอ๋ ๆ ๆ ลูกรักของพ่อ เช่นนั้นพ่อจะให้นางไสหัวไปไกล ๆ สายตาเจ้าเสียดีหรือไม่?"
"เมี้ยวววว!!!"
ไป๋มู่หลันอดขบขันไม่ได้ เขาคุยกับแมวรู้เรื่องด้วย น่ารักดีนี่!!!
"หลิงหลิงเจ้าไสหัวไปซะ"
"ท่านอ๋อง แต่หม่อมฉัน!!!"
"หากเจ้าไม่ไป ข้าคงห้ามโม่ฉือไม่ไหว หน้าเจ้าคงได้แหกยับเยินอีกคราเป็นแน่"
"แต่ท่านอ๋องน้อยข่วนหม่อมฉันนะเพคะ"
"เจ้ากล้าต่อว่าบุตรชายของข้าหรือ!!!"
หลิงหลิงก้มหน้างุด มิกล้าเอ่ยวาจา นางทำได้เพียงกล้ำกลืนความอัปยศนี้ลงท้องไปเสีย
"บุตรชายข้าจิตใจสะอาดบริสุทธิ์ เขาอ่อนโยนเหมือนข้า หากเจ้ากล้าต่อว่าเขาอีก ข้าจะขายเจ้าทิ้ง ไสหัวไป!!!"
"เพคะ"
หลิงหลิงรีบวิ่งออกไปจากเรือนใหญ่ทันที ยามนี้จึงเหลือเพียงจ้าวฝูหมิงและไป๋มู่หลันเพียงสองคน เขาลอบมองนางด้วยสายตาที่ล้ำลึก คงเพราะนางรีบมาพบเขาจึงสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์มิเรียบร้อยเท่าใดนัก เนินอกอวบอิ่มจึงล้นทะลักออกมาจากเสื้อของนาง จ้าวฝูหมิงแลบลิ้นเลียริมฝีปากเล็กน้อย
"เจ้าดื่มยาตามที่ท่านหมอสั่งหรือไม่?"
"ดื่มเพคะ"
"ดี ข้าหิวแล้ว มาปรนนิบัติข้ากินข้าว"
"เพคะ"
ไป๋มู่หลันจัดแจงให้สาวใช้ในจวนยกสำรับเย็นมาให้เขาอย่างไม่รอช้า นางยืนใกล้ ๆ เขาคอยคีบเนื้อปลานึ่งให้เขาอย่างใส่ใจ
"ท่านอ๋องเพคะ นี่คือปลาดอกกุ้ยฮวาเพคะ"
ไป๋มู่หลันโน้มกายคีบเนื้อปลามาวางไว้ให้เขา จ้าวฝูหมิงที่หันไปมองถึงกับสำลักข้าวทันที
"แค่กแค่ก!!!"
"ท่านอ๋อง เนื้อปลาติดคอหรือเพคะ เสวยน้ำเสียหน่อยเถิดเพคะ"
"อืม"
เขารับน้ำจากนางมาดื่มลงคออึกหนึ่ง ข้าไม่ได้สำลักอาหาร!!! ข้าสำลักนมเจ้าต่างหาก
นางคีบปลาให้เขาและอยู่ใกล้เขามาก ยามที่เขาหันไป หน้าอกหน้าใจของนางจึงอยู่ใกล้ ๆ ใบหน้าของเขาจนแทบจะแนบชิด
เกือบตายเพราะนมของนางเสียแล้ว เหตุใดจึงใหญ่ปานนี้!!!
หลังจากที่ปรนนิบัติเขารับสำรับมื้อค่ำเรียบร้อยแล้ว ไป๋มู่หลันจึงกลับมาที่เรือนของตนเอง ยามนี้นางยังมิได้อาบน้ำเลย รู้สึกเหนียวตามร่างกายไปหมดแล้ว
เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงเดินเข้าไปอาบน้ำในอ่างน้ำที่เตรียมไว้ใกล้ ๆ กับเรือนนอน จ้าวฝูหมิงแอบตามนางมาอย่างเงียบ ๆ เขาเดินลัดเลาะเข้าไปในเรือนนอนของนาง ก่อนจะพบว่านางกำลังอาบน้ำอยู่
บัดซบ!!! เหตุใดเจ้าจึงไม่ลงกลอนประตูเล่า
เรือนกายสาวที่แสนผุดผ่อง ขาวนวลเนียนราวกับหยกชั้นดี เรือนร่างที่บางคอด มีส่วนเว้าส่วนโค้งที่น่ามอง หน้าอกหน้าใจของนางใหญ่เสียจนเขาอยากจะยื่นมือไปสัมผัส
จ้าวฝูหมิงแอบหลบอยู่ข้าง ๆ นางอย่างเงียบ ๆ เฝ้ามองทุกการกระทำของนางอย่างไม่ลดละ
ไป๋มู่หลันขัดถูตามเรือนกายของตนเองอย่างไม่รีบไม่ร้อน จ้าวฝูหมิงจ้องมองเนินสวาทที่มีขนเพียงเล็กน้อยของนางด้วยสายตาหลงใหล
นี่น่ะหรือยังไม่โต นางโตไปหมดทุกส่วนแล้ว!!!
สายตาก็จ้องมองนางอย่างไม่ลดละ มือหนาใหญ่ก็กอบกุมลำแท่งเอ็นร้อน สาวชักขึ้นลงอย่างถี่เร่า
บัดซบ!!! ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว
น้ำกามไหลหลั่งออกมาเปรอะเปื้อนมือของเขาจนเต็มไปหมด เป็นจังหวะที่ไป๋มู่หลันอาบน้ำเสร็จพอดี
จ้าวฝูหมิงรีบหลบลี้กายออกมาทางหน้าต่างของนางทันที ให้ตายเถิด!!! ร่างกายของนางช่างเย้ายวนใจเขายิ่งนัก
"ท่านอ๋อง ออกมาเดินรับลมหรือพ่ะย่ะค่ะ"
บ่าวในจวนผู้หนึ่งเอ่ยถามเขาขึ้นมาด้วยแววตาสงสัย เขาเพียงตอบรับไปคำหนึ่ง แต่บ่าวผู้นั้นยังคงจ้องเขาไม่ลดละ
"มองสิ่งใดกัน!!! ไม่มีงานให้ไปทำหรือ!!!"
"ท่านอ๋อง เหตุใดจึงมีโลหิตออกมาจากจมูกของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ!!!"
จ้าวฝูหมิงรีบยกมือขึ้นลูบจมูกของตนทันที แล้วจึงพบว่ามีเลือดไหลออกมาจริง ๆ
ฉิบหายแล้ว!!! เขาดูนางอาบน้ำนานเกินไปโลหิตจึงไหลออกมามากเช่นนี้!!!
คิดได้เช่นนั้นจึงรีบเดินกลับเรือนทันที ไป๋มู่หลันเองเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมเอ่ยถามว่าเขาอยากเสวยสิ่งใดในเช้าวันรุ่งขึ้น จึงรีบเดินตรงไปที่เรือนใหญ่ทันที เมื่อไปถึงก็พบว่าใบหน้าของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตดูน่าตกใจไม่น้อย
"ท่านอ๋อง โอ๊ะ!!! เหตุใดโลหิตจึงเต็มใบหน้าเช่นนั้น"
"ไสหัวไป"
"ไม่ได้เพคะ!!! หม่อมฉันขอดูหน่อยเถิด"
ไป๋มู่หลันรีบพุ่งเข้าไปหาเขาทันที นางโน้มกายลงมาจ้องมองเขาด้วยแววตาที่ตื่นตระหนก แต่ทว่าจ้าวฝูหมิงกลับเห็นร่องอกอวบสวยที่บดเบียดกันไปมาของนาง ยิ่งทำให้เลือดกำเดาของเขาไหลทะลักออกมามากกว่าเดิม จนมันหยดลงไปตามพื้นเรือน
"ท่านอ๋อง!!! โลหิตไหลออกมามากเช่นนี้ ตามหมอหลวงเถิดเพคะ"
"ไม่ต้อง เจ้าไสหัวไปก่อน"
"ท่านอ๋อง!!!"
"ไสหัวไป๊!!!"
ไสหัวไปเถิด!!! ได้โปรด เอานมของเจ้าไปให้พ้นสายตาข้าเถิด เลือดข้าจะหมดกายแล้ว
