บทที่ 8 บทที่ 8 จัดการอนุ
วันต่อมาฟางเมี่ยวตื่นสายไปเสียหน่อย เนื่องจากนางมัวแต่อ่านตำราจนถึงยามดึก ลู่ชิงที่เห็นว่านายตนตื่นแล้ว จึงเข้ามาปรนนิบัติล้างหน้า เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ฟางเมี่ยวจึงหันไปเอ่ยกับลู่ชิง
"ข้าจะไปกินอาหารเช้ากับท่านพ่อที่เรือนใหญ่"
"เอ่อ ปกติบ่าวเห็นว่าคุณหนูไม่ชอบกินอาหารร่วมกับผู้ใดนี่เจ้าคะ"
"ก็ตอนนี้ข้าชอบกินกับผู้อื่นแล้วอย่างไรเล่า เจ้าจะถามไปทำไมให้มากความกัน ปากเจ้านี่หัดเงียบบ้างจะได้หรือไม่!!!"
"บ่าวไม่กล้าเจ้าค่ะ"
ฟางเมี่ยวคร้านจะสนใจลู่ชิงอีก นางจึงมุ่งหน้าไปที่เรือนใหญ่ในทันที เมื่อมาถึงที่หน้าเรือนก็พบว่ามีเสียงหัวเราะหวานใสของสตรีหลายนางและเสียงหัวเราะของท่านพ่อดังแว่วมาจากในเรือนใหญ่
ฟางเมี่ยวยกยิ้มมุมปากคราหนึ่ง งานศพท่านแม่เพิ่งจะผ่านพ้นไปไม่นาน ท่านพ่อก็รื่นเริงเสียแล้ว
นางหันไปจ้องมองสาวใช้ที่เฝ้าหน้าประตูทางเข้าเป็นเชิงว่าห้ามส่งเสียง ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปด้านในทันที
"แหมๆๆๆ ท่านพ่อนี่ดูรื่นรมย์เสียจริงนะเจ้าคะ งานศพท่านแม่เพิ่งจะผ่านไปไม่นานเลยด้วยซ้ำ"
เสนาบดีฟางเหลียนสะดุ้งโหยงก่อนจะหันมามองฟางเมี่ยวคราหนึ่ง
บัดซบ!! บุตรสาวตัวดีของเขามาที่นี่ทำไมกัน ร้อยวันพันปีไม่เห็นนางจะมา!!
"ท่านพ่อ"
"เอ่อ เมี่ยวเอ๋อร์ลูกรัก เจ้ามาหาพ่อมีเรื่องใดหรือ?"
"การที่ลูกจะมาหาท่านพ่อ ต้องมีเรื่องด้วยหรือเจ้าคะ?"
"เอ่อ ไม่ๆ"
เขาเอ่ยก่อนจะหันไปส่งสายตาให้เหล่าอนุสามนางที่ปรนนิบัติเขากินอาหารให้สำรวมกิริยาเสีย
ให้ตายเถิด!! เขาสัญญากับฟางฮูหยินก่อนตายว่าจะไม่มีภรรยาใหม่ให้ฟางเจี๋ยและฟางเมี่ยวต้องได้รับความอยุติธรรม แต่ทว่าเขายังไม่แก่ เรื่องเช่นนี้ย่อมขาดไม่ได้!!
ฟางเมี่ยวปรายตามองอนุทั้งสามก่อนจะเอ่ย
"ข้าเคยบอกพวกเจ้าแล้ว ว่าห้ามเสนอหน้ามาที่เรือนของท่านแม่ข้า แม้ว่าท่านแม่จะตายจากไปแต่อย่างไรก็ยังได้ชื่อว่าเป็นฮูหยินใหญ่ของจวนนี้ หรือว่าพวกเจ้าคิดจะมาแทนที่ท่านแม่ของข้า หวังจะปรนนิบัติให้ท่านพ่อพอใจ แล้วคิดวางแผนตั้งครรภ์บุตรชายเพื่อมาแย่งสมบัติของข้ากับพี่ใหญ่!!!"
เหล่าอนุทั้งสามนางรีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน ใบหน้าของพวกนางซีดเผือดเป็นอย่างยิ่ง
เสนาบดีฟางเหลียนที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยปรามบุตรสาวตนทันที
"เมี่ยวเอ๋อร์ เหลวไหลไปกันใหญ่แล้ว!!!"
ฟางเมี่ยวไม่สนใจคำพูดของผู้เป็นบิดา นางหันไปเอ่ยถามแม่นมหลิ่วที่ยืนอยู่ทันที
"แม่นมหลิ่วรายงานเรื่องที่ท่านรู้ให้ข้าฟัง"
แม่นมหลิ่วก้าวเข้ามาตรงหน้า ก่อนจะเอ่ย
"หลายวันก่อน บ่าวเห็นว่าอนุไป๋แอบเทน้ำแกงคุมกำเนิดทิ้งเจ้าค่ะ"
"เจ้าพูดจาเหลวไหล!!!"
อนุไป๋รีบปฏิเสธทันที แต่ทว่าเมื่อเห็นสายตาเย็นชาที่มองมาของฟางเมี่ยวนางก็แทบจะร้องไห้แล้ว
ผู้ใดจะรู้ว่าสตรีที่วันๆ ไม่สนใจสิ่งใดแม้แต่มารดาตนเอง วันหนึ่งกลับลุกขึ้นมาหาเรื่องนาง!!!
"อนุไป๋ เจ้าเทน้ำแกงคุมกำเนิดทิ้งอย่างนั้นหรือ?"
"เอ่อ..."
"ลากนางไปโบยสิบไม้และขับออกจากจวน!!"
"เมี่ยวเอ๋อร์!!!"
"ท่านพ่อ เดิมทีท่านเคยรับปากว่าเรื่องในจวนนับจากนี้จะให้ลูกเป็นคนจัดการ ลูกก็จัดการมิให้พวกนางเหิมเกริม ลูกเป็นสตรีเห็นแก่ตัวท่านพ่อก็รู้ ลูกจะไม่ยอมให้พวกนางตั้งครรภ์ ลูกไม่อยากมีน้องสาวหรือว่าน้องชาย ลูกไม่แบ่งสมบัติให้ผู้ใดทั้งนั้นนอกจากพี่ใหญ่ และจะไม่ยอมให้พวกนางมากดหัวลูกเหมือนที่เคยทำกับท่านแม่อีก ลูกผิดหรือเจ้าคะ หรือว่าท่านพ่อรักอนุมากกว่าลูก ไม่อยากมีลูกเป็นบุตรสาวแล้ว!!!"
"เมี่ยวเอ๋อร์ ไม่ใช่!! เฮ้อ ลากนางไปโบยเสีย!!!"
"นายท่าน!! ฮืออ นายท่าน!!!"
เสนาบดีฟางเหลียนทำได้เพียงปล่อยไป เพราะเขาเองก็รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้มารดาของฟางเมี่ยวต้องตาย
"พวกเจ้าสองคน หากอยากชูคอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ก็อย่าคิดมาตีตนเสมอท่านแม่ของข้า!!"
ฟางเมี่ยวเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา อนุเหล่านี้ในชาติที่แล้วรังแกมารดาของนางจนล้มป่วย นางจำได้ไม่ลืม!
นับว่านางเมตตามากแล้ว นางไม่อยากมีน้องสาวหรือน้องชายที่เกิดจากอนุมาสร้างความรำคาญใจให้นางอีก!!
"เมี่ยวเอ๋อร์ ตกลงเจ้ามาหาพ่อด้วยเรื่องใดหรือ?"
ฟางเมี่ยวทิ้งกายนั่งลงที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะเอ่ย
"ลูกอยากมากินอาหารกับท่านพ่อเจ้าค่ะ นับแต่นี้เวลาอาหารเช้าและเย็นลูกจะมากินกับท่านพ่อทุกมื้อ"
เสนาบดีฟางเหลียนที่ได้ยินเช่นนั้นความไม่พอใจในคราแรกก็หายไปจนหมดสิ้น เขายิ้มให้ฟางเมี่ยวก่อนจะเอ่ย
"ได้สิ เมี่ยวเอ๋อร์ของพ่อเติบโตขึ้นมากแล้ว"
ฟางเมี่ยวยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย
"ข้าหิวแล้ว ลู่ชิงมาทำความสะอาดโต๊ะแล้วจัดสำรับมาให้ข้ากับท่านพ่อใหม่ ส่วนผู้ใดที่ไม่เกี่ยวก็ไสหัวไป อย่าเสนอหน้ามาทำให้ข้ารำคาญใจอีก"
เหล่าอนุทั้งสองรีบจากไปทันที แม้จะไม่พอใจเพียงใดแต่ก็ไม่กล้าปริปาก เสนาบดีฟางเหลียนรักใคร่บุตรสาวผู้นี้มาก พวกนางคงทำได้เพียงจำยอมแล้ว
หลังจากที่รับสำรับเก็บเรียบร้อยแล้ว เสนาบดีฟางเหลียนจึงหันมาเอ่ยกับฟางเมี่ยว
"นี่เมี่ยวเอ๋อร์ อีกสองวันจวนตระกูลหลี่จะจัดงานเลี้ยงที่จวน พ่อจะพาเจ้าไปร่วมด้วย"
ฟางเมี่ยวที่ได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อย
นางจำได้ว่าหลังจากที่หลี่เยี่ยนเฉินและบิดาของเขากลับมาที่ต้าอู๋ จวนตระกูลหลี่ก็จัดงานเลี้ยงที่หลี่เยี่ยนเฉินได้เลื่อนขั้นเป็นรองแม่ทัพ ผู้คนต่างไปร่วมงานอย่างครึกครื้น
ในงานเลี้ยงครั้งนี้เองที่หลี่เยี่ยนเฉินสารภาพรักกับนาง
"เมี่ยวเอ๋อร์ ข้าชอบเจ้า เจ้าจะยินดีหรือไม่หากว่าข้าจะไปสู่ขอเจ้าที่จวน"
"เช่นนั้นเจ้าก็ไปบอกกับท่านพ่อข้าเถิด ท่านพ่อว่าอย่างไรข้าก็ว่าตามนั้น"
นางยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน แต่ทว่าในใจกลับครุ่นคิด
ข้าจะใช้เจ้าเป็นสะพานเพื่อข้ามไปหาเย่จิ้นหยาง พอเจ้าหมดประโยชน์ข้าก็จะไม่สนใจเจ้าอีก แต่งงานอันใดกัน ข้าไม่แต่งกับคนเช่นเจ้าหรอก!!
นางเสแสร้งทำเป็นทำอาหารและขนมไปส่งให้หลี่เยี่ยนเฉิน เขาไม่เคยสงสัยในจุดประสงค์แอบแฝงของนางเลยแม้แต่น้อย นางเสแสร้งแกล้งทำดีกับเขาเพื่อหวังใช้เขาเป็นบันไดไต่ไปหาเย่จิ้นหยาง
เมื่อบรรลุวัตถุประสงค์นางก็ถีบหัวส่งเขาจริงๆ
"ไหนเจ้าบอกว่าจะแต่งงานกับข้า!!"
"ข้าเคยรับปากเจ้าเมื่อใดกัน?"
"ฟางเมี่ยว!! เจ้าบอกให้ข้าไปสู่ขอเจ้ากับท่านพ่อเจ้า"
"แต่ข้ามิได้รู้เรื่องด้วยนี่!!"
"ฟางเมี่ยว เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเจ็บปวดเพียงใด ข้ารักเจ้า เจ้าก็รู้!! เจ้าเป็นคนพูดเองว่าเจ้ายินดีที่จะแต่งกับข้า"
"แต่ข้าไม่เคยรักเจ้า แล้วข้าเคยพูดเมื่อใดว่ายินดีแต่งกับเจ้า ข้าเพียงให้เจ้าไปลองถามท่านพ่อดู เจ้าคิดไปเองทั้งนั้น ข้าไม่แต่ง หากเจ้าทุกข์ใจมาก ก็ไปตายเสียสิ!!"
ฟางเมี่ยวหลับตาลง ความรู้สึกผิดเอ่อท่วมท้นในจิตใจของนางอย่างไม่อาจหลีกพ้น
เขาทำเพื่อนางทุ่มเทเพื่อนางทุกอย่าง แต่สุดท้ายนางกลับเห็นเขาเป็นเพียงบันไดปูทางตอบสนองความต้องการในใจของตนเอง
นางยังจำใบหน้าที่ดีใจอย่างลิงโลดของเขายามที่นางบอกว่าให้เขาไปสู่ขอนางกับบิดาของนางได้ไม่ลืม
รอยยิ้มที่บริสุทธิ์และอ่อนโยนเช่นนั้น ไม่ได้ทำให้ความเลวร้ายและมืดบอดในจิตใจของนางมลายหายไปได้เลยแม้แต่น้อย
สมควรแล้วที่นางต้องพบกับจุดจบเช่นนั้น!!
นางไม่รู้ว่าชาติก่อนเขาตายเช่นไร หลังจากปล่อยนางตกหน้าผาตายไปแล้ว เขาก็คงจะแต่งงานใหม่กับสตรีที่ดีพร้อมและมีบุตรหลานเต็มจวนสินะ
หลี่เยี่ยนเฉิน ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้วจริงๆ!!
