บทที่ 10 10
“อย่ามามองฉันด้วยสายตาทุเรศแบบนั้นนะ” เวทิกาทนไม่ได้ที่ตนเองกำลังถูกลวนลามด้วยสายตา แม้จะผิดคาดไปบ้างที่เสี่ยวาโยที่พวกมันพูดถึงไม่ได้เป็นตาแก่พุงพลุ้ย แต่กลับเป็นชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดี และน่าจะอายุราวๆ สามสิบปลายๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ดูดีจะมีพฤติกรรมที่น่ารังเกียจเช่นนี้
“หึ ปากดีเสียด้วย เอาละ สาวน้อย ฉันว่าเราคงมีเรื่องต้องคุยกันสักหน่อยแล้ว” เสี่ยวาโยพูดอย่างชอบใจ ยิ่งหญิงสาวตรงหน้าดื้อรั้นและหยิ่งยโสแค่ไหน เขาก็ยิ่งอยากได้เธอมากเท่านั้น
“เสี่ยคะ อย่าทำอะไรฉันกับลูกเลย ฉันขอเวลาเสี่ยกลับไปแก้มือที่บ่อน รับรองว่า…”
“มึงคิดว่ากูโง่หรือไง!”
“แม่!” เวทิกาและเบญจาร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ เสี่ยวาโยก็กระชากผมพิสมัยอย่างแรง จนร่างอวบถลาไปพร้อมกับแรงกระชาก
“โอ๊ย! ฉันขอโทษค่ะเสี่ย ให้ฉันทำอะไรก็ยอม แต่อย่าฆ่าฉันเลยนะคะ” พิสมัยแทบจะร้องไห้ออกมา นาทีนี้ไม่มีหนทางแม้แต่จะร้องขออะไรอีกแล้ว หากเสี่ยวาโยให้ทำอะไร นางก็ยอมทุกอย่าง
“กูให้โอกาสมึงมาหลายรอบ ให้มึงกู้เงินก็แล้ว แถมยังยอมให้มาถอนทุนคืนที่บ่อนกูทั้งที่คนอย่างมึงไม่ควรได้มีโอกาสเหยียบบ่อนของกูด้วยซ้ำ มึงมันโง่และหาที่ตายเอง” เสี่ยหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ เขาไม่เคยยอมอ่อนข้อให้ใคร และเรื่องเงิน เรื่องธุรกิจไม่ควรต้องมีคำว่าใจอ่อน
“ฮือๆ อย่าทำอะไรแม่ของเบียร์เลยนะคะเสี่ย” เบญจาก้มลงกราบพร้อมกับร้องไห้อ้อนวอนขอร้องเสี่ยวาโย หากชีวิตนี้ขาดแม่อย่างพิสมัยไป ก็คงไม่มีใครปกป้องดูแลเธอได้อีกแล้ว
“หึ รักแม่กันดีนี่ แล้วเธอล่ะ ไม่รักแม่เลยหรือไง ลองมาอ้อนวอนฉันดูสิ เผื่อฉันจะยอมปล่อยแม่เธอไป” เสี่ยวาโยหันไปพูดกับเวทิกาด้วยน้ำเสียงยั่วโมโห
“นังไวน์ รีบก้มกราบเสี่ยเดี๋ยวนี้!”
พิสมัยออกคำสั่งเสียงดังลั่น เวทิกาจึงยอมก้มลงกราบเสี่ยวาโยด้วยความจำใจ
“ฮ่าๆ ให้มันได้อย่างนี้สิ แต่คิดว่าเงินตั้งหนึ่งล้านบาทจะชดใช้ได้ด้วยการก้มกราบกันง่ายๆ แค่นี้น่ะเหรอ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ พร้อมกับหันไปมองเวทิกาอย่างหื่นกระหาย นาทีนั้น คนเป็นลูกหนี้รู้ได้ทันทีว่าเสี่ยวาโยกำลังต้องการอะไรอยู่!
“เสี่ยอยากได้อะไรบอกมาเลยค่ะ ฉันเต็มใจให้เสี่ยทุกอย่าง” พิสมัยรีบพูดขึ้นทันที หากเสี่ยอยากได้เวทิกา นางก็ไม่ขัดข้อง เพราะเวทิกาไม่ได้มีค่าอะไรมากมาย ต่างจากเบญจาที่เป็นลูกคนเดียวที่เธอรักและเป็นห่วง
“แน่ใจนะว่าทุกอย่าง ถ้าอย่างนั้น กูอยากได้ลูกสาวคนนี้ของมึงมาเป็นเมีย ตกลงไหม” เสี่ยวาโยพูดออกมาด้วยความพอใจ แม้มั่นใจว่าหญิงสาวที่เขาหมายปองจะต้องโวยวายและไม่ยอมแน่ๆ
“ได้ค่ะเสี่ย เอานังไวน์ไปเลยค่ะ นังนี่มันสวย รับรองถูกใจเสี่ยแน่นอน” พิสมัยพูดด้วยรอยยิ้ม เพราะไม่คิดว่าการใช้หนี้เงินหนึ่งล้านบาทจะง่ายดายเพียงนี้
“แม่บ้าไปแล้วเหรอ ไวน์ไม่ใช่ผู้หญิงขายตัวนะ ฉันไม่มีทางขายตัวให้แกเด็ดขาด!” เวทิกาหันไปจ้องหน้าเสี่ยหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัว แม้ลึกๆ จะหวั่นใจอยู่บ้าง หากเสี่ยวาโยฉุดกระชากไป เธอก็คงไม่สามารถต้านทานอำนาจของเขาได้
“นังไวน์ แกอย่ามาเล่นตัวนักเลย! เสี่ยคะ ลูกสาวฉันคนนี้ไม่ได้มีแค่ความสวยนะคะ แต่ยังสด ยังซิง รับรองเสี่ยไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ” พิสมัยรีบเข้าไปพูดด้วยน้ำเสียงประจบประแจงทันที เพราะหวังว่าเสี่ยวาโยอาจจะถูกใจเวทิกามากจนยอมเพิ่มเงินให้นางไปต่อทุนคืนที่บ่อนอีก
“ยังไม่เคยมีผัวอย่างนั้นเหรอ…” เสี่ยวาโยมองเป้าหมายด้วยสายตาแสดงออกถึงความต้องการอย่างไม่ปิดบัง ยิ่งได้รู้ว่าเวทิกาไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน ความปรารถนาที่จะได้ครอบครองสาวงามคนนี้ก็ยิ่งมากเป็นทวีคูณ
“ใช่ค่ะ ถ้าเสี่ยไม่เชื่อ เดี๋ยวฉันจะให้นังไวน์มันไปตรวจร่างกายเพื่อยืนยันว่ายังบริสุทธิ์มาให้เสี่ย แต่ว่า…เสี่ยอาจจะต้องมีรางวัลให้ฉันหน่อยนะคะ” หยิงร่างท้วมพูดอย่างหัวหมอ โดยมีเบญจาที่ยิ้มเยาะด้วยความสะใจอยู่ข้างๆ
“นี่มึงชักจะเอาใหญ่ละนะ กล้าต่อรองกับเสี่ยเหรอ” ลูกน้องพูดขึ้น แต่กลับถูกเสี่ยวาโยยกมือห้ามปรามเสียก่อน
“ไม่เป็นไร เงินแค่นี้สำหรับกูไม่ได้สำคัญนัก ถ้าเทียบกับการได้ชิมความบริสุทธิ์ของสาวน้อยคนนี้”
เสี่ยวาโยแทบไม่มองใครอื่นนอกจากเวทิกา ที่แม้ว่าตอนนี้เธอจะอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นปกติ แต่มันกลับดึงดูดและทำให้เขาอยากจะกระชากมันออกไปด้วยมือของเขาเอง
“ฝันไปเถอะ! แม่ ไวน์ไม่ทำนะ” เวทิกาหันไปพูดกับแม่ของตนด้วยดวงตาแดงก่ำ แม้รู้มาตลอดว่าพิสมัยไม่เคยรักเธอ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะเกลียดถึงขั้นกล้าขายให้กับเสี่ยชั่วแบบนี้
“หรือแกอยากให้ฉันตาย ฮะ!” พิสมัยพูดออกมาเสียงดังลั่น
“แต่ว่า…”
“ก็ลองไปคิดดู ฉันให้เวลาแค่หนึ่งวัน ถ้าไม่ขายตัวให้ฉันก็หาเงินมาคืนให้ได้ อ้อ! แล้วถ้ามีผลยืนยันว่าเธอบริสุทธิ์อยู่จริงๆ ละก็ ฉันยินดีจ่ายเพิ่มให้อีกห้าแสน คิดดูดีๆ ล่ะ เสียตัวแค่ครั้งเดียวแลกกับเงินล้านห้า คุ้มเสียยิ่งกว่าอะไร” เงินเท่านี้แทบจะเป็นเศษเงินเสียด้วยซ้ำ ดังนั้น เขาจึงไม่ลังเลใจแม้แต่น้อยที่จะซื้อความสุขจากหญิงสาวที่ตนเองถูกใจ
