บทที่ 8 Chapter 8
Chapter 8
“ฉันจะเริ่มแล้วนะ” เขมนัทต์พูดเหมือนให้เธอรู้ตัว “ลืมตาสิ ฉันอยากให้เธอเห็นความสวยงามของเซ็กซ์ เป็นภาพจำอันแสนวิเศษ ซึ่งฉันจะจดจำมันเช่นกัน”
เสียงเขานุ่มมาก บอกให้รู้ถึงความอ่อนโยนและอ่อนหวาน เป็นวาจาที่เอมิกาไม่เคยได้ยินจากปากเขามาก่อน ที่ผ่านมาจะเป็นเสียงไม่พอใจ ตะคอกบ้าง เสียงข่มใส่บ้าง เปลือกตาเอมิกาค่อยๆ เปิดทีละนิดอย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะเขาใช้ริมฝีปากคลอเคลียกลีบปากตนอยู่
“น่ารักจัง”
เขมนัทต์ชื่นชมเหนือเรียวปากอิ่ม วินาทีต่อมา จูบแรกในชีวิตเอมิกาก็ถูกช่วงชิงจากชายหนุ่มที่เธอหลงรักมาหลายปี เธอไม่อยากเชื่อเลยว่า ความฝัน ความหวังเล็กๆ ในหัวใจกลายเป็นจริง
เรียวปากหยักสวยของเขมนัทต์นวดกลีบปากอิ่มเบาๆ คล้ายกับว่ากำลังดึงความหวาดกลัว ประหม่าออกจากจิตใจเอมิกา ให้เธอคุ้นชินกับจุมพิตแรก
ทว่า...กลับไม่ใช่ตามเขาคิด หัวใจสาวเต้นกระหน่ำยิ่งกว่าพลทหารตีกลองศึก สร้างความฮึกเหิมให้เหล่าทหารกล้า ความรู้สึกนั้นยังคงประทับอยู่ในใจ แล้วดูเหมือนว่าทวีคูณทุกขณะจิต
เขมนัทต์ลงน้ำหนักการบดจูบมากขึ้น ช่วงวินาทีนี้เหมือนมีกระแสไฟอ่อนๆ โลมเลียผิวกาย ขนเส้นอ่อนลุกชัน คล้ายมีลมพัดโชยในหัวใจ ลมเย็นๆ หอบความสดชื่นมาด้วย เขาจุมพิตผู้หญิงมาหลายคน ทว่าไม่มีใครทำให้เขารู้สึกว่า ย้อนกลับไปวัยหนุ่ม ตื่นเต้นกับจูบแรก ยิ่งรู้ว่า เอมิกาเป็นสาวบริสุทธิ์ หัวใจเขาพองโต เอิบอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก
ความตื่นเต้นไม่ได้เกิดกับเขมนัทต์คนเดียว เอมิกาตื่นเต้นยิ่งกว่า วัฒนธรรมในประเทศที่เธออยู่ เรื่องการกอดจูบในที่สาธารณะถือเป็นเรื่องปกติ เธอเห็นจนชินตา ในทีวี ในภาพยนต์ก็เห็น เธอเคยถามตัวเองว่า รสชาติและความรู้สึกที่ได้จุมพิตเป็นอย่างไร เอมิกาหาคำตอบให้ตนเองไม่ได้ ทว่าเวลานี้หญิงสาวได้คำตอบที่อยากรู้มานานแล้ว
ลิ้นใหญ่แทรกเข้าไปในโพรงปากสาว ที่เขามั่นใจว่าอุดมไปด้วยกลิ่นหอมและความหวาน ซึ่งใช่เลย ตรงกับที่เขาคิดไว้ เป็นรสชาติจรุงใจมาก อธิบายยากว่าเป็นเช่นไร เป็นริมฝีปากที่พูดได้สนิทปากว่า เยี่ยมยอด เขมนัทต์เริ่มเสกมนต์ด้วยลิ้นที่ซอกซอนทุกซอกทุกมุมในปากเธอ ก่อนเกี่ยวรัดลิ้นสาวที่ไม่เป็นงาน ไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไร เขาไม่เกิดความรำคาญกับจูบไม่ได้เรื่องของเธอ ตรงกันข้าม เขาพอใจเพิ่มแรงกระตุ้นรสกามเป็นอย่างดี
สมองเอมิกาคล้ายถูกดึงออกจากหัว เติมเต็มด้วยหมอกแห่งความใคร่ เธอคิดอ่านอะไรไม่ออก รู้แค่เพียงว่า อุณภูมิในร่างกายสูงขึ้นทุกขณะ กระแสสวาทที่ไม่เคยสัมผัสถูกปลุกด้วยจุมพิตหวานระคนซาบซ่าน เร่าร้อนแต่มีความอ่อนโยนและนุ่มนวล เอมิกาเคลิบเคลิ้ม หัวใจโบยบินเสมือนนกตัวน้อยเพิ่งหัดใช้ปีก
“เป็นไงจูบแรก” เขมนัทต์ถอนจุมพิต คำถามดังเบาๆ เหนือริมฝีปากจิ้มลิ้ม ที่เขาไม่ได้ผละห่างเสียทีเดียว วนเวียนจูบแผ่วเบา กัดกลีบปากล่างเธออย่างหยอกล้อ “สำหรับฉัน...มันวิเศษมาก”
“ดะ...ดีค่ะ” น้ำเสียงติดสั่น ใบหน้าระบายความเขินอาย หลบสายตาเขาพัลวัน
“ฉันชอบตอนเธออายจัง หน้าชวนมองที่สุด” พูดจบก็ประทับจูบแช่นิ่ง “ฉันจะทำให้เธอรู้สึกมากกว่าคำว่าดี เธอจะใช้ว่ามันเยี่ยมมาก”
เอมิกาขนลุก แค่ถูกจูบเธอก็รู้สึกถึงคำว่าเยี่ยมมาก เธอไม่อยากคิดต่อเลยว่า บทต่อไปจะเป็นเช่นไร ความรู้สึกจะวาบหวิวแค่ไหน ในความกลัวประหม่า มีความอยากรู้ร่วมด้วย
เขมนัทต์ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปนาน เขาลงมือสานต่อเกมสวาท ปากได้รูปทับกลีบปากสีหวานที่มีแรงดึงดูดมากมาย บดเบียดอย่างมีชั้นเชิง ไม่นานนักลิ้นร้ายสอดแทรกเข้าไปควานหาความละมุนในปากเธอ จูบเธอดูดดื่ม แทบจะสูบวิญญาณเธอออกจากร่าง สมองเริ่มสั่งการช้าลง หัวใจเต้นเร้ารับเพลิงกามาที่เวลานี้ คืบคลานเข้าสู่ร่างกายต่อเนื่อง
ปากเขาไม่ได้ทำงานเพียงอย่างเดียว ฝ่ามือใหญ่ทำงานพร้อมเพรียง เคลื่อนไหวไปตามผิวกายสาว นำพาความร้อนชโลมผิวเธอไปด้วย ร่างกายคนถูกลูบไล้ติดสั่นเมื่อมือหนาวางลงบนดอกอุบล เขาออกแรงบีบเคล้นเบาๆ ราวกับกลัวว่า อวัยวะที่เขาจับต้องจะบุบสลาย อีกอึดใจต่อมาน้ำหนักมือแรงขึ้น ทว่าไม่เกิดความเจ็บ กลับเสียวสะท้านเนื่องจาก เขมนัทต์ใช้นิ้วมือหมุนเล่นตรงยอดถัน เธอสะดุ้งโหยงส่งเสียงครางในลำคอ เพราะปากสาวคงถูกเขาครอบครอง
แม้ว่าอยากจูบเอมิกาต่อ แต่เขาก็ต้องตัดใจเพื่อสานเกมสวาท เขมนัทต์ขยับใบหน้าไปตามผิวแก้ม แวะสูดดมผิวเนื้อนุ่มนิ่มไปตลอดทางจนถึงใบหู ขบเม้มติ่งหูเธอเบาๆ ลิ้นเลียไล้ตบท้าย ก่อนขยับลิ้นไล้ไปตามก้านหู
“อืม” เอมิกาเปล่งเสียงครางออกมาเบาๆ รับความสยิวที่ปกคลุมจิตใจมากขึ้น ทั้งมือและปากร่วมมือกันสานสวาทได้อย่างดีเยี่ยม ปลุกอารมณ์สาวทีละน้อย
เขมนัทต์ตั้งใจว่า จะค่อยเป็นค่อยไป อยากให้เอมิกาค่อยๆ เรียนรู้ ซึมซับเรื่องเซ็กซ์ที่ตนมอบให้ เพื่อสร้างความประทับใจ เธอจะได้จดจำและตราตรึงค่ำคืนนี้ไว้ในกล่องความทรงจำ ทว่ากลิ่นกายอันเย้ายั่วอารมณ์
