บทที่ 1 เด็กขี้มูกโป่ง

Chapter 1

“ผู้ใหญ่สิงห์ครับ เอ่อ ผม…” ปณตทำท่าทางกระอักกระอ่วน มองชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ราคาแพง ใบหน้าของผู้ใหญ่สิงห์เรียบนิ่ง สีหน้ายากคาดเดา ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“อะไรของมึงไอ้ปณต?” ผู้ใหญ่สิงห์แห่งโคกกระบือแดงชักสีหน้าสีหงุดหงิด

“ผม…” ปณตอึกอัก ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับคนตรงหน้าอย่างไรดี จะพูดอะไรก็กลัวคนตรงหน้าไม่พอใจ ผู้ใหญ่สิงห์เป็นคนห่าม ๆ อารมณ์ร้อน ไม่พอใจได้กินปลาตีนเป็นแน่

“ผมอะไร? มึงจะพูดอะไร ทำไมไม่พูด” สีหน้าแววตาคาดคั้นให้พูดออกมา

“ผม…เอ่อ…ผม ผมยังไม่มีเงินใช้หนี้ผู้ใหญ่เลย” สิ้นประโยคคนตรงหน้า ผู้ใหญ่สิงห์ก็มองหน้าอย่างไม่พอใจ

“มึงเลื่อนกูมาหลายครั้งแล้วนะไอ้ปณต มึงควรจ่ายกูให้ตรงสิ!”

“แต่ผมไม่มีเงินจริง ๆ ปีนี้พายุถล่มกะหล่ำปลีเสียหายหมด ผมไม่รู้ว่าผมจะหาเงินที่ไหนมาให้ผู้ใหญ่” ปณตพูดอย่างจนใจ

“อันนั้นมันคือเหตุผลของมึง ไม่ใช่เหตุผลของกู กูให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว ถ้ามึงหาเงินมาจ่ายกูไม่ได้ ที่ดินที่มึงเอามาจำกับกู กูจะยึดเป็นของกู”

“ผู้ใหญ่ครับ” ปณตหน้าเครียด ที่จริงผู้ใหญ่สิงห์ก็บอกอยู่แล้ว ถ้าหาเงินที่กู้ยืมมาคืนไม่ได้ ที่ดินที่เคยเอาไปจำนองกับผู้ใหญ่สิงห์ จะโดนยึดไป

ที่ผ่านมาผู้ใหญ่สิงห์ก็ให้โอกาสเขามาตลอด เขาเองก็ผลัดมาหลายครั้ง ไม่เคยมีเงินมาจ่ายทั้งต้นทั้งดอก ผู้ใหญ่สิงห์ไม่เคยคิดดอกแพง แต่เป็นเขาเองที่ชักหน้าไม่ถึงหลัง

“ไป ๆ กูจะพักผ่อน อย่ามาพูดอะไรให้หงุดหงิด” ผู้ใหญ่สิงห์แห่งโคกกระบือแดงเอ่ย พลางสะบัดมือไปมาไล่แขกที่มาขอพบ

ที่จริงเขาไม่ใช่คนใจดำอะไรมากมาย เขาให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว แต่ปณตไม่เคยหาเงินที่กู้ยืมมาคืนได้ ที่สำคัญยังมาขอกู้เพิ่มหลายหน ถ้าเขามัวแต่ใจดี แล้วเมื่อไหร่ปณตจะมีความพยายาม หาเงินมาคืน

เงินเขาไม่ได้มีไว้ให้ใครฟรี ๆ ถ้าเอามาปล่อยให้คนกู้แล้วเก็บดอกเก็บต้นไม่ได้ ผัดผ่อนมาหลายหน ใครใจดีให้ผลัดผ่อนต่อ

ผู้ใหญ่สิงห์อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด มีคนนับหน้าถือตามากมาย เขาเป็นคนมีอิทธิพล เป็นคนมีหน้ามีตา ฐานะทางบ้านก็ร่ำรวย

เขากว้านซื้อที่จังหวัดทางภาคอีสานไว้ปลูกข้าว ปลูกยาง ปลูกผลไม้ต่าง ๆ ผลไม้ของเขามีคุณภาพ เขามีผลผลิตจากผลไม้หลายอย่าง เป็นที่ต้องการมาก แต่ล่ะปีมีกำไรมหาศาล จากการทำผลไม้สด ผลไม้แปรรูปส่งออกต่างประเทศ

“ผู้ใหญ่ครับ”

“กูจะไม่ใจดีกับมึงแล้วไอ้ณต ที่มึงแค่4ไร่ ขายไปยังไม่พอใช้หนี้ที่มึงกู้ยืมกูเลย”

“โธ่ผู้ใหญ่ เห็นใจกันหน่อยสิครับ”

“เห็นใจเหี้ยอะไรวะ! เงินกี่แสนที่มึงกู้กูไป มันไม่ใช่น้อย ๆ นะไอ้เวร!”

“แต่ผมไม่มีจริง ๆ นะครับ”

“ไม่มีกูก็ยึดที่”

“ผม…” ปณตก้มหน้า “ลูกผมจะกินอะไรล่ะ ถ้าผู้ใหญ่ยึดที่ทำกินไป”

“ไม่รู้ล่ะ ถ้าไม่หามาจ่าย กูก็จะยึดที่มึง ไม่ต้องมาพูดอะไรให้กูต้องหงุดหงิดไปมากกว่านี้”

“ผู้ใหญ่ครับ ถ้าผู้ใหญ่จะกรุณา ผมขอให้ยืดเวลาให้ผมสักนิด”

“กูไม่ยืด”

“ผู้ใหญ่ครับ งั้น ผมจะขายลูกสาวให้ผู้ใหญ่ จะได้หมดหนี้หมดสินกัน” ปณตเอาลูกเข้าต่อรอง เพราะอับจนหนทาง

“เหี้ยอะไร มึงใช้ส้นตีนคิดหรือเปล่าวะ? นั่นลูกมึงนะ!”

“ผมไม่มีทางเลือกนิ นังบัวมันก็โตเป็นสาวแล้ว ผมว่า…”

“ขนาดสวยกว่าลูกมึง กูยังไม่เอาเลย เด็กขี้มูกโป่งสกปรก ซกมกแบบนั้นกูไม่เอา” ผู้ใหญ่สิงห์ปฏิเสธทันควัน ลูกสาวของปณตขี้เหร่จะตาย เขาเคยเห็นเด็กนั่น ร้องไห้ขี้มูกโป่ง กอดไอ้เน่าเปื้อนน้ำลาย เด็กคนนั้นซกมก สกปรก

“นังบัวมันไม่ใช่เด็กสกปรกเหมือนตอนเด็ก ๆ นะผู้ใหญ่” ปณตพูด เมื่อก่อนบัวชมพูสกปรกจริง ๆ เพราะเขาไม่ค่อยมีเวลาดูแล เมียทิ้งลูกติดเมียไว้ให้เลี้ยง แล้วหนีไปกับผู้ชายคนอื่น ส่วนเขาก็ต้องทำงานหาเงินตัวเป็นเกลียว หาเงินเลี้ยงลูก หาเงินมาจุนเจือครอบครัว จวบจนวันนี้ ยังไม่ได้ข่าวคราวของบัวบงกชเลย

“กูไม่อยากรู้ มึงน่ะ รีบไปให้พ้นหน้ากู!” ผู้ใหญ่สิงห์ชี้หน้า ปณตเห็นท่าไม่ดี ก็เลยรีบลนลานออกไป

บทถัดไป