บทที่ 2 การตัดสินใจ

นับตั้งแต่นั้นมา ทุกครั้งที่ทำงานผมก็อยู่ในสภาพจิตใจเลื่อนลอย ไม่สามารถจดจ่อกับงานได้ ในหัวเอาแต่จินตนาการถึงฉากในบทความเกี่ยวกับพ่อสามีกับลูกสะใภ้มีสัมพันธ์สวาทกันซ้ำไปซ้ำมา หรือแม้กระทั่งตอนที่ภรรยากลับจากที่ทำงานมาบ้านแล้ว ผมก็ยังจินตนาการไปต่างๆ นานาว่าถ้าภรรยากับพ่อของผมอยู่กันตามลำพัง จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า ตัวผมเองตกอยู่ในสภาวะจิตใจที่ผิดปกติอย่างสมบูรณ์

หรือว่า... เราจะจัดฉากให้ภรรยากับพ่อมีอะไรกันตามเรื่องราวในบทความนั้นจริงๆ ดี?

ไม่ได้หรอก ฉากในบทความนั้นคือสามีเป็นฝ่ายเกลี้ยกล่อมภรรยา จนในที่สุดภรรยาก็ยอมตกลงและค่อยๆ ยั่วยวนพ่อสามีทีละขั้นจนสำเร็จ สำหรับผมแล้ว แค่ขั้นแรกก็ไม่มีทางสำเร็จได้ นิยายก็คือนิยาย จะเอามาเป็นจริงเป็นจังไม่ได้ ถ้าตอนนี้ผมไปเกลี้ยกล่อมให้หญิงไปยั่วยวนพ่อของผมให้มีอะไรกัน ผลลัพธ์ที่เบาที่สุดก็คงเป็นการถูกภรรยาด่าเปิง ดีไม่ดีอาจจะโดนเธอจับส่งโรงพยาบาลบ้าเอาได้

เย็นวันหนึ่งเมื่อผมกลับถึงบ้าน พ่อกำลังเล่นหยอกล้อกับนนท์ลูกชายของผมอยู่ บนโต๊ะมีอาหารเย็นวางเรียงราย ส่วนภรรยาที่สวมชุดนอนกระโปรงกำลังจัดเก็บบ้านช่องอยู่ เนื่องจากพ่ออาศัยอยู่กับเราด้วย แม้จะอยู่ที่บ้าน ภรรยาของผมก็ยังแต่งตัวค่อนข้างมิดชิดเสมอ ต่อให้ากาศจะร้อนแค่ไหนก็ตาม

แต่เพราะวันนี้เธอกำลังเก็บกวาดบ้านอยู่ บางครั้งภรรยาก็ต้องก้มตัวลงไปเช็ดฝุ่นใต้โซฟาหรือตู้ทีวี ถึงแม้ชุดนอนของเธอจะดูเรียบร้อย แต่คอเสื้อของชุดนอนที่เรียบร้อยที่สุดก็ยังกว้างกว่าเสื้อผ้าปกติอยู่ดี ทุกครั้งที่ภรรยาก้มตัวลง ผมจะเผลอเห็นหน้าอกขาวนวลและร่องอกลึกของเธอโผล่ออกมาจากคอเสื้อโดยไม่ตั้งใจอยู่เรื่อย เดิมทีหน้าอกของภรรยาก็ขนาด 34D อยู่แล้ว ถือว่าเป็นคนอวบอิ่มอย่างแท้จริง

เมื่อนึกถึงฉากในนิยายผู้ใหญ่เหล่านั้น ผมก็แอบสังเกตพ่อของผมอย่างลับๆ เพื่อดูว่าเขาจะแอบมองภาพวาบหวามที่เผยออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจของภรรยาผมหรือไม่

แต่ผมแอบสังเกตการณ์ขณะกินข้าวอยู่นานสองนาน ก็พบเพียงว่าหลังจากที่พ่อบังเอิญเห็นภาพนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจแวบหนึ่ง เขาก็รีบหันหลังให้ภรรยาทันทีแล้วหันไปเล่นกับหลานต่อ หลังจากนั้นก็ไม่เคยหันกลับมาหรือแอบมองอีกเลย

มันไม่เหมือนในนิยายเลยสักนิด แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ พ่อของผมเป็นเพียงชาวนาที่ซื่อสัตย์และจริงใจโดยเนื้อแท้ อุปนิสัยก็เรียบง่าย พูดน้อย แถมความคิดก็ยังหัวโบราณอีกต่างหาก ตามความคิดแบบดั้งเดิมแล้ว ลูกสะใภ้ก็เปรียบเสมือนคนในครอบครัว เป็นลูกสาวอีกคนหนึ่งของตัวเอง จะมีพ่อที่ไหนแอบดูลูกสาวตัวเองกันเล่า ยิ่งไปกว่านั้น การที่พ่อสามีแอบมองลูกสะใภ้ถือเป็นเรื่องต้องห้ามอย่างยิ่ง ดังนั้นเมื่อครู่ตอนที่เขาเห็นหน้าอกและร่องอกของหญิงลูกสะใภ้โดยบังเอิญ เขาจึงเลือกที่จะหลบสายตาทันทีโดยไม่ลังเล นี่คือปฏิกิริยาของคนแก่ปกติทั่วไป หากเขาทนไม่ไหวแอบมองจริงๆ มันก็จะทำให้เขารู้สึกผิดบาปในใจเท่านั้น

เฮ้อ ปวดหัวชะมัด ภรรยาก็หัวโบราณเกินกว่าจะยอมรับได้ พ่อก็หัวโบราณเกินกว่าจะยอมรับได้เช่นกัน นี่เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ไม่ยากเลย เนื่องจากผมทำงานด้านบริหารมานาน มักจะมีโทรศัพท์โทรเข้ามากลางดึกเป็นประจำ ทำให้ผมเป็นคนตื่นง่าย แค่มีเสียงอะไรนิดหน่อยผมก็จะตื่นทันที

คืนนั้น ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเตียงสั่นไหวเล็กน้อย ท่ามกลางความงัวเงีย อาศัยแสงจันทร์ ผมเห็นภรรยากำลังแอบช่วยตัวเองอีกแล้ว เธอกัดริมฝีปากล่างแน่น มือข้างหนึ่งลูบไล้หน้าอกของตัวเอง ส่วนอีกข้างยื่นลงไปด้านล่างและเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เธอหลับตาแน่น แต่สักพักเธอก็หยุดแล้วถอนหายใจออกมา การช่วยตัวเองไม่สามารถทำให้เธอไปถึงจุดสุดยอดได้เลย

ผมหรี่ตามองภรรยาที่หันหน้ามาทางผม เธอจ้องมองใบหน้าของผม แล้วใช้มือลูบไล้ใบหน้าของผมเบาๆ ช่างเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่ ผมกับภรรยาไม่เคยทะเลาะกันใหญ่โตเลย นานๆ ทีจะมีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่พอข้ามคืนไปเราทั้งคู่ก็ลืมมันไปหมดแล้ว สามีภรรยาที่ไหนจะโกรธกันข้ามคืน ดังนั้นความสัมพันธ์ของผมกับหญิงจึงดีมากมาโดยตลอด เรารักกันและกันอย่างสุดซึ้ง

ภรรยายังคงจ้องมองผมเงียบๆ ใบหน้าที่งดงามของเธอแดงระเรื่อ ผมรู้ว่าเธอมีอารมณ์แล้ว ผมไม่สามารถตอบสนองเธอได้ และการช่วยตัวเองก็ไม่สามารถทำให้เธอสมหวังได้เช่นกัน ผมเชื่อว่าถ้าไม่ใช่เพราะความรักที่เธอมีให้ผมอย่างสุดซึ้ง ความปรารถนาทางกายคงทำให้เธอทนไม่ไหวจนนอกใจไปแล้ว แต่เพราะความรักที่มีให้ผม เธอจึงไม่มีวันทรยศผมเด็ดขาด

มีคำกล่าวว่า ผู้หญิงอายุสามสิบจะเร่าร้อนดั่งหมาป่า สี่สิบดุจเสือ ห้าสิบนั้นสามารถสูบกินได้แม้กระทั่งดิน ภรรยาของผมเพิ่งจะอายุครบ 30 ปีเต็มวันนี้ พอดีกับช่วงที่ความต้องการทางเพศเริ่มสูงขึ้น ผมเข้าใจความต้องการทางเพศของภรรยาในตอนนี้ดี แต่เกลียดร่างกายของตัวเองเหลือเกิน สักพักภรรยาก็ค่อยๆ หลับไป ผมลืมตาขึ้นแล้วจุมพิตที่ใบหน้าของเธอเบาๆ

สุดสัปดาห์อีกครั้ง สุดสัปดาห์นี้ในที่สุดผมก็ไม่ต้องทำงานล่วงเวลาแล้ว สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่หนึ่งวัน พ่อนั่งเล่นกับลูกชายอยู่บนโซฟา ภรรยากำลังล้างผักเตรียมทำอาหาร วันนี้เป็นวันที่ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันยากนัก ภรรยาจึงตั้งใจจะทำอาหารมื้อใหญ่สักมื้อ ส่วนผม ถือโอกาสช่วงวันหยุดที่หาได้ยากนี้ช่วยภรรยาทำงานบ้านสักครั้ง กวาดพื้น ถูพื้น เอาขยะไปทิ้ง

หลังจากทำความสะอาดห้องนอนของผมเสร็จ ผมก็ไปทำความสะอาดห้องนอนของพ่อต่อ เพราะทั้งผมและภรรยาต่างก็ทำงานนอกบ้าน แทบจะไม่มีเวลาทำงานบ้านเลย ห้องนอนของพ่อและห้องนั่งเล่นจึงเป็นหน้าที่ของพ่อที่คอยทำความสะอาดทุกวัน ส่วนห้องนอนของผมกับภรรยาก็เป็นเราสองคนจัดการกันเอง พ่ออาจจะกลัวว่าการเข้าไปในห้องนอนของผมกับภรรยาจะทำให้รู้สึกไม่ดี เขาจึงไม่เคยเข้ามาทำความสะอาดห้องของเราเลย วันนี้เป็นวันหยุดที่หาได้ยาก ผมจึงตั้งใจจะทำความสะอาดทั้งห้องนอนของพ่อและห้องนั่งเล่นไปพร้อมกัน

หลังจากกวาดพื้นในห้องนอนของพ่อเสร็จ ผมก็เริ่มคุกเข่าลงบนพื้นแล้วค่อยๆ ถูพื้นทีละนิด ตอนที่ผมถูไปถึงข้างเตียงของพ่อ ผมบังเอิญพบคราบเล็กๆ บนพื้นข้างเตียงของเขา ผมมองออกว่ามันเป็นรอยของเหลวคล้ายหยดน้ำที่หยดลงบนพื้นไม้แล้วกระเซ็นออก เป็นคราบสีขาวขุ่นคล้ายไข่ขาว เพราะมันแห้งไปแล้วจึงไม่ได้กลิ่นอะไรเลย

ใจผมสั่นสะท้านขึ้นมาทันที หรือว่าจะเป็น... ขณะที่ผมกำลังสงสัย ผมก็เหลือบไปเห็นถังขยะใต้หัวเตียงของพ่อ ในนั้นมีกระดาษทิชชู่ที่ขยำเป็นก้อนอยู่สองสามก้อน ดูเหมือนจะห่ออะไรบางอย่างไว้ ผมค่อยๆหยิบก้อนกระดาษทิชชู่นั้นออกมาคลี่ดู ข้างในมีของเหลวเหนียวๆ คล้ายไข่ขาว กลิ่นที่โชยออกมานั้นคุ้นเคยมาก เป็นกลิ่นฮอร์โมนของผู้ชาย ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคืออะไร มันคือน้ำอสุจิของผู้ชาย

หรือว่าจะเป็นร่องรอยที่ภรรยากับพ่อแอบมีอะไรกันทิ้งไว้? เป็นไปไม่ได้ จากพฤติกรรมต่างๆ ในบ้าน ความสัมพันธ์ระหว่างภรรยากับพ่อเป็นปกติมาโดยตลอด อีกอย่าง จากสภาพความแห้งของน้ำอสุจิในกระดาษทิชชู่ ร่องรอยบนพื้นและในกระดาษทิชชู่น่าจะมาจากเมื่อคืนนี้ ซึ่งเมื่อคืนภรรยาก็นอนอยู่กับผมตลอดทั้งคืน ถ้าเธอแอบลุกออกไปกลางดึก ด้วยความที่ผมเป็นคนตื่นง่าย ผมต้องรู้สึกตัวแน่นอน

คำอธิบายเดียวที่เป็นไปได้ก็คือ พ่อของผมนั่งช่วยตัวเองอยู่ข้างเตียง ตอนที่ถึงจุดสุดยอด มีน้ำอสุจิสองสามหยดกระเด็นลงบนพื้นไม้ ส่วนที่เหลือพ่อใช้กระดาษทิชชู่เช็ดทำความสะอาดแล้วทิ้งลงในถังขยะ ถ้าไม่ใช่เพราะบังเอิญพบคราบบนพื้นไม้จนต้องสังเกตถังขยะ ผมคงไม่มีทางรู้เด็ดขาดว่าเมื่อคืนพ่อช่วยตัวเอง ผมคิดว่าตอนที่พ่อถึงจุดสุดยอด เขาก็คงไม่ทันสังเกตว่ามีน้ำอสุจิสองสามหยดกระเด็นลงบนพื้นไม้

แม้พ่อจะอายุ 54 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีความต้องการทางเพศอยู่ และแม่ก็เสียไป 4 ปีแล้ว ผมคิดว่าเขาคงต้องระบายความต้องการทางเพศด้วยการช่วยตัวเองมาตลอด เมื่อคิดถึงตรงนี้ ผมก็รู้สึกสงสารพ่อขึ้นมาจับใจ ท่านเลี้ยงดูผมมาจนเติบใหญ่ พอผมโตขึ้นจนสามารถให้ท่านได้อยู่อย่างสุขสบายแล้ว คู่ชีวิตของท่านกลับไม่อยู่เสียแล้ว ความสุขทางเพศในวัยชรากลับต้องพึ่งพามือของตัวเองเท่านั้น ผมสามารถให้เสื้อผ้า อาหาร ที่อยู่อาศัยแก่พ่อได้ แต่สิ่งเดียวที่ผมให้ท่านไม่ได้ในตอนนี้ก็คือความสุขทางเพศในวัยชรา

ความต้องการทางเพศของภรรยาไม่ได้รับการตอบสนองจนต้องช่วยตัวเองบ่อยๆ ชีวิตทางเพศของพ่อไม่มีใครมาเติมเต็มจนต้องช่วยตัวเองเป็นประจำ คนสองคนนี้ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันอะไรอย่างนี้ ทำไมถึงไม่ปล่อยให้ภรรยากับพ่อได้เติมเต็มซึ่งกันและกันล่ะ?? เมื่อคิดถึงตรงนี้ ผมกลับรู้สึกว่าในบ้านหลังนี้ ตัวเองต่างหากที่เป็นมือที่สาม

แต่เมื่อลองคิดดูดีๆ แล้ว วิธีนี้ก็ช่วยแก้ปัญหาความต้องการทางเพศของภรรยา และยังตอบสนองความสุขในวัยชราของพ่อได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การได้จินตนาการถึงฉากที่ภรรยาผู้แสนดีและงดงามของผมมีอะไรกับพ่อผู้ซื่อๆ ผิวคล้ำและเรียบง่าย ความตื่นเต้นนั้นคงจะหาที่เปรียบไม่ได้... แต่การจะทำให้ภรรยากับพ่อเกิดอะไรขึ้นมานั้น ตอนนี้กลับไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี

ในที่สุด ผมก็ทนต่อความปรารถนาที่ไม่อาจยับยั้งนั้นไม่ไหว ผมตัดสินใจว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ภรรยาและพ่อได้ใกล้ชิดสนิทสนมกัน ส่วนผมในฐานะสามี ก็ตัดสินใจที่จะกลายเป็นมือที่สาม เป็นพ่อสื่อชักนำให้ภรรยาและพ่อของผมได้สมหวังกัน...

บทก่อนหน้า
บทถัดไป