บทที่ 4 บทที่ 4
ความสนิทสนมระหว่างกฤชเพชรกับพลอยพิมลดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้น เพราะทั้งสองได้เจอกันทุกครั้งในวันที่กฤชเพชรมาสอนนักศึกษา ความสัมพันธ์ดังกล่าวได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาในหมู่สาวๆ นักศึกษาและคณาจารย์ที่ไม่เคยเห็นกฤชเพชรให้ความสนิทสนมกับผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษมาก่อน
ตอนบ่ายหลังจากเรียนเสร็จพลอยพิมลมานั่งรอที่ใต้ตึกคณะเช่นเคย อาจารย์หนุ่มหล่อลงจากตึกหลังจากสอนเสร็จ เห็นว่าเพื่อนน้องสาวกำลังนั่งมองและส่งยิ้มมาให้ เขาจึงเดินตรงเข้าไปหา
“ยังไม่กลับอีกเหรอเรา พี่นึกว่ากลับไปแล้วซะอีก”
“ยังไม่กลับค่ะ วันนี้ผิงมาดักรอพี่เพชรเพื่อทวงสัญญาโดยเฉพาะเลย”
คำพูดของพลอยพิมลทำให้คิ้วเข้มต้องเลิกขึ้นอย่างงงงันเล็กน้อย “สัญญาอะไรเหรอยัยแสบ วันนี้พี่พาไปกินอะไรไม่ได้นะ พี่ต้องรีบกลับบ้าน”
“ผิงก็ไม่ได้จะให้พาไปไหน แต่ว่าผิงจะขอไปเที่ยวไร่ของพี่เพชรที่นครนายกต่างหาก พี่เพชรเคยบอกว่าถ้าผิงจะไปเที่ยวก็ไปได้ทุกเมื่อ จำได้หรือเปล่า” พลอยพิมลทวงสัญญาของตัวเองทันที
“แต่นี่มันบ่ายแล้วนะ ขับรถไปกลับคนเดียวมันอันตราย พี่เป็นห่วงยังไงซะเราก็...” กฤชเพชรยังพูดไม่ทันจบ เพื่อนน้องสาวของเขาก็แทรกขึ้น
“รู้หรอกน่าว่าเป็นห่วง แต่ใครบอกว่าผิงจะขับรถไปกลับเองล่ะคะ ผิงจะไปรถพี่เพชรต่างหาก และผิงก็เตรียมเสื้อผ้ามาแล้วด้วย กะว่าจะไปค้างสักคืนสองคืน สูดอากาศบริสุทธิ์ให้ฉ่ำปอดแล้วค่อยกลับค่ะ” หญิงสาวบอกถึงแผนตัวเองและทำหน้าสดชื่นรอ เมื่อนึกถึงบรรยากาศที่รายล้อมด้วยแมกไม้เขียวขจี เต็มไปด้วยฝูงม้า ทุ่งหญ้าและอากาศที่คงจะสดชื่นน่าดู
“แล้วที่บ้านเราว่ายังไง จะไปค้างอ้างแรมบ้านผู้ชายแบบนี้ เป็นพี่พี่จะตีให้ก้นลาย” กฤชเพชรทำเสียงดุเช่นเดียวกับที่เคยเข้มงวดกับแพรมุก
“โหพี่เพชร ผิงอายุยี่สิบห้าแล้วนะคะ รุ่นนี้แม่ไม่ว่าแล้ว กลัวแต่จะขายไม่ออกมากกว่า เอาเป็นว่าอนุญาตให้ผิงไปด้วยนะ อุตส่าห์เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋ามาแล้ว”
“ก็ได้...” กฤชเพชรยอมใจอ่อนเมื่อเห็นแววตาที่รอคอย “แต่พี่มีข้อแม้ว่า ผิงต้องขับรถกลับบ้าน แล้วพี่จะขับตามไปด้วย ไปบอกกล่าวพ่อแม่ของเราให้เรียบร้อย ท่านจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงว่าหายไปกับใคร และอนุญาตให้พักได้แค่หนึ่งคืน ตอนเช้าพี่จะขับรถมาส่งที่กรุงเทพฯ เอง”
คำพูดของกฤชเพชรทำให้หัวใจของสาวรุ่นน้องพองโต จากที่เคยนึกชื่นชม ตอนนี้ความรู้สึกดีๆ ก็นับวันจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะยิ่งได้ใกล้ชิดยิ่งรู้สึกได้ว่ากฤชเพชรเป็นผู้ชายที่ดีมากแค่ไหน
ร่างอรชรในชุดเสื้อแขนกุดสีขาวยัดชายเข้าในกางเกงขาสั้นผ้าโพลีเอสเตอร์พิมพ์ลายโซ่สีน้ำตาลกำลังยืนทอดมองความสวยงามของธรรมชาติอย่างชื่นชม บริเวณที่อนามิกายืนอยู่นั้นเป็นระเบียงที่ต่อเติมออกมาจากตัวบ้านซึ่งปลูกอยู่บนเนินหญ้า สามารถมองเห็นความสวยงามของอาณาจักรย่อมๆ แห่งนี้สุดลูกหูลูกตา จนนึกทึ่งคนที่ออกแบบและสร้างสรรค์ความงดงามที่กลมกลืนกับธรรมชาติแห่งนี้ขึ้นมา ครั้นพอมองไปยังโรงรถที่ปลูกไว้ไม่ห่างจากตัวบ้าน ก็เห็นว่ามีรถบิ๊กไบค์จอดอยู่หนึ่งคัน ส่วนอีกคันเป็นรถกระบะ และว่างอยู่อีกหนึ่งที่ ซึ่งตรงนั้นคงจะเป็นที่สำหรับจอดของรถอีกคันที่ยังอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นแน่
อนามิกาเบนสายตาหนี เพื่อจะได้ไม่ต้องคิดถึงคนที่เป็นเจ้าของรถเหล่านั้น เธอมาที่นี่ตามคำสั่งของพี่ชายเพื่อส่งดอกเบี้ยในฐานะลูกหนี้ ความจริงจะโอนผ่านธนาคารก็ได้ แต่น่านนทีอยากให้เธอมาด้วยตัวเองเพื่อเยี่ยมเยือนพิทยากับกฤชเพชร ทว่าเธอกลับเลือกมาที่นี่ในวันที่กฤชเพชรต้องไปสอนนักศึกษาที่กรุงเทพฯ เพราะถือว่าได้เจอกันแล้ว
ความตั้งใจแรกคือจะมาเพียงครู่เดียวก็กลับ แต่ความงดงามและความสดชื่นเย็นสบายดึงดูดให้เธออยู่ที่นี่นานกว่าที่ตัวเองวางแผนไว้
ลมเย็นๆ ที่พัดเอื่อยๆ เริ่มพัดแรงขึ้นจนกลายเป็นกรรโชก ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยเมฆสีดำทะมึน เสียงคำรามของอสนีดังขึ้นครืนๆ คล้ายกับเตือนให้คนที่ปล่อยตัวปล่อยใจล่องลอยไปกับความงามของธรรมชาติกลับสู่ห้วงความเป็นจริง
อนามิกายกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา เห็นว่าเป็นเวลาเกือบจะห้าโมงเย็นแล้ว จึงรีบกลับเข้าบ้านไปเพื่อเอากระเป๋าและร่ำลาเจ้าของบ้าน พอพ้นจากระเบียงไม่ทันไร ฟ้าก็แลบแปล๊บเป็นสายสีเหลืองพร้อมกับเกิดเสียงดังเปรี้ยง ก่อนที่ฝนจะเทกระหน่ำลงมาด้วยเม็ดหนาทึบ
“นิจจะกลับแล้วนะคะคุณลุง” เสียงหวานบอกกับพิทยาซึ่งยังคงนั่งรออยู่บนโซฟาในห้องรับแขกเช่นเดิม
“อย่าเพิ่งกลับเลยนะครับคุณนิจ ตอนนี้ข้างนอกลมแรงมาก พยากรณ์อากาศบอกว่าพายุฤดูร้อนเข้า คุณนิจขับรถกลับตอนนี้คงจะอันตรายน่าดู”
“กรุงเทพฯ ใกล้แค่นี้เอง คงไม่เป็นอะไรมั้งคะ”
“แต่ลมมันกรรโชกแรงมาก ถ้าขืนลุงปล่อยให้คุณนิจขับรถกลับแล้วคุณนิจมีอันตราย ลุงคงไม่มีหน้าไปบอกคุณน่านแน่ๆ รอให้ฝนหยุดก่อนค่อยกลับ เห็นแก่คนแก่เถอะนะครับคุณนิจ”
พิทยาขอร้องหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง พายุฤดูร้อนคราวนี้รุนแรงมาก เพราะอากาศที่ร้อนระอุติดต่อกันมาแรมเดือน เดาได้ไม่ยากเลยว่าต้นไม้และกิ่งไม้คงหักโค่นหลายต้น บ้านเรือนที่อยู่ในระหว่างทางผ่านของพายุคงจะเสียหายหลายหลัง ที่สำคัญท้องถนนคงไม่ปลอดภัยนักหากจะขับรถในยามที่ฟ้าฝนแรงเช่นนี้
