บทที่ 1 1
“นารา นารา นารา แกลงมาหาแม่เดี๋ยวนี้เลย มาดูผลงานของแกซะ เร็วๆ”
เสียงเรียกดังมาจากชั้นล่างของบ้านสองชั้นขนาดเจ็ดสิบแปดตารางวาซึ่งมีเพียงสองแม่ลูกอาศัยอยู่กันเพียงลำพัง เสียงนั้นจึงเป็นของใครไม่ได้นอกจาก ‘คุณนายทองอยู่’ มารดาบังเกิดเกล้าของคนที่เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ ด้วยอาการงัวเงีย
เพราะเมื่อคืน เธอถูกเพื่อนลากตัวไปแฮงก์เอาต์กันที่ผับดัง แล้วกลับมาถึงบ้านในเวลาตีสองเศษๆ โดยการแอบเข้าทางประตูหลังบ้าน เพราะรู้ดีว่าการกลับบ้านดึกขนาดนั้น แม้ชีวิตจะก้าวผ่านรั้วมหาวิทยาลัยมาแล้วก็ไม่ได้ทำให้คุณนายทองอยู่เห็นว่าการกลับบ้านเกินสี่ทุ่ม ไม่รับสายบุพการีที่กระหน่ำโทร.ตามนับสิบสายทั้งที่โทรศัพท์ของเธอแบตฯ หมดเป็นเรื่องปกติ นาราก็เดาได้ว่าเช้านี้จะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง
“คุณนายทองอยู่เกรี้ยวกราด เอะอะอะไรแต่เช้า” มือเรียวยกขึ้นปิดปากที่หาวหวอด ร่างสวยบิดไล่ความเมื่อยล้าให้หลุดพ้นไปจากตัว
แม้ว่ายังอยากทิ้งตัวนอนลงบนเตียงกว้าง แต่ดวงตาที่ฉ่ำปรือก็แทบจะสว่างหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง เมื่อได้ยินเสียงขู่สลับกับฝีเท้าของคุณนายทองอยู่ที่กำลังเดินขึ้นบันไดมา ก่อนจะเคาะห้องแรงๆ โดยลืมเรื่องมารยาทไปเลย เพราะความเป็นแม่นั้นได้รับการยกเว้น
ปังๆ ๆ!!
“นารา ถ้าแกยังไม่โผล่หัวออกมาจากห้องในหนึ่งนาทีนี้ งั้นสิ้นเดือนนี้จ่ายเงินคืนแม่มาทั้งต้นทั้งดอกให้ครบ”
นาราถอนหายใจยาว แล้วลุกพรวดจากที่นอน พร้อมกับพาร่างอ้อนแอ้นที่ยังรู้สึกเพลียๆ ปนมึนเล็กน้อย เพราะเพิ่งนอนไปได้ไม่กี่ชั่วโมง เดินไปเปิดประตู พร้อมกับพูดเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นสีหน้าถมึงทึงของเจ้าแม่เงินกู้รายใหญ่ที่ยืนอยู่เกือบเต็มกรอบประตู
ทว่าไม่ได้ทำให้หญิงสาวกลัว กลับรู้สึกขำขันมากกว่า ว่าเรื่องอะไรทำให้แม่หงุดหงิด ตีหน้ายักษ์ใส่ลูกสาวที่น่ารักอย่างเธอตั้งแต่ไก่โห่
“แม่ปลุกนาราตั้งแต่เช้า มีอะไรเหรอคะ”
“เช้าบ้านแกสิ นี่มันจวนจะสิบโมงแล้วย่ะแม่คุณนายตื่นสาย”
นาราหันไปมองนาฬิกาที่ฝาผนังห้องนอน เข็มบนหน้าปัดบอกว่าสิบโมง สิบนาที คราวนี้ คนตื่นสายได้แต่ยิ้มอ่อน
“เมื่อคืน เจอไอ้เมย์ ไอ้แพร มัน...”
“แกไม่ต้องมาอ้างอะไรทั้งนั้น แกจะกลับตีอะไรก็เรื่องของแก แต่แกคงจะเมามากสิท่า” คนเป็นแม่จ้องหน้าลูกเขม็ง
“ไม่เมา เมื่อคืนจิบๆ ไปแค่สองเอง...”
คุณนายทองอยู่มองร่างสวยของลูกสาวที่สูงประมาณร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร แม้ว่าผมยาวละเอียดสีน้ำตาลที่ล้อมรอบหน้าหวานจะดูไม่เป็นทรงเพราะเพิ่งตื่น ทว่าก็เผยให้เห็นวงหน้ารูปไข่ที่สวยหวานปานนางในวรรณคดี
“ที่แกกลับมาตั้งตีสอง จิบไปแค่จิบสองแก้วเองเหรอ...”
นารายิ้มแห้งๆ “เปล่าแม่ สองกลม”
คนเป็นแม่ยกมือทาบอก “นารา! ตอนเกิดมา ทำไมฉันไม่ตั้งชื่อแกว่า ‘เมรี’ ให้รู้แล้วรู้รอดไปนะ แกกลับดึกแล้วเมากลับมาแบบนั้น ไม่คิดเหรอว่าเพื่อนบ้านเขาจะมองแกยังไง”
“โอย...ตอนหนูกลับมา เพื่อนบ้านหลับหมดแล้ว ไม่เห็นหรอก” คนมีความผิดอ้อมแอ้มบอก
คุณนายทองอยู่ยิ่งเสียงเขียวใหญ่ “นารา!”
“ก็เรื่องของเพื่อนบ้านเขาสิแม่ นี่มันยุคไหนแล้ว ผู้หญิงกินเหล้าก็ใช่ว่าจะเป็นคนดีไม่ได้ เขาเรียกว่ากุลสตรีที่รู้จักวิธีผ่อนคลาย ไม่เคยได้ยินหรือไงคะแม่ขา”
ไวเท่าความคิด เท่านั้น ฝ่ามืออวบๆ ของคุณนายทองอยู่ก็ฟาดที่ต้นแขนของคนที่ออกตัวว่าเป็นกุลสตรี แค่หาวิธีผ่อนคลายกับสุราดัง เผียะ!!
“โอ๊ย...นาราเจ็บนะแม่”
“ก็ดูแกทำตัวเข้าสิ แบบนี้ไง พี่หมอเอกเขาถึงขอเลิกกับแก”
ประโยคนี้ทำเอาเจ้าของร่างสวยสร่างเมาเป็นปลิดทิ้ง ได้แต่ยิ้มแบ่งรับแบ่งสู้ ทั้งที่ภายในใจเจ็บจี๊ดไปถึงทรวง จะไม่ให้เจ็บได้อย่างไร ถ้าพี่หมอเอกเลิกรากับเธอเพราะไปสนใจผู้หญิงคนใหม่ เธอคงไม่เจ็บเท่า ถูกแฟนเก่าสลัดรักไปคบกับผู้ชายคนใหม่ ให้ตายดิ้น รู้ถึงไหนอายถึงนั่น
‘รักแท้ไม่ได้แพ้แค่ความใกล้ชิด’
‘รักแท้ แพ้ผู้ชายในบาร์โฮสต์ด้วย!’
ความรู้สึกเจ็บบาดลึก เลยต้องปรามคุณนายทองอยู่ “พอเถอะแม่ นาราเบื่อจะฟังเรื่องนี้แล้ว สวยๆ แบบนารา มีผู้ชายต่อแถวให้เลือกเยอะแยะ...”
“เฮ้อ แต่ผู้ชายดีๆ แบบหมอเอกน่าเสียดาย จะมีผู้ชายดีๆ แบบนี้หลงมาจีบแกอีกหรือเปล่านารา” คนเป็นแม่เอาแต่ต่อว่าลูกสาว ทว่า สายตาเต็มไปด้วยความห่วงใย
แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้ก็ยังไม่ใช่ประเด็นที่เช้านี้ทำให้คุณนายทองอยู่เกิดอารมณ์เกรี้ยวกราด เพียงชั่วครู่ สายตาของมารดาก็เปลี่ยนไป เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
“เอ้อ! ไม่ใช่เรื่องนี้ นี่! แกมานี่เลยนารา” นารายังไม่ทันตอบ มืออวบอูมก็คว้าแขนเรียวบอบบางให้ตามนางไปที่หน้าบ้าน
“อะ อะไร...แม่”
หญิงสาวหน้าเหวอ อ้าปากค้าง ตามอารมณ์คุณนายเจ้าหนี้ไม่ค่อยจะทัน แต่ก็ต้องก้าวตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก่อนที่ถุงอาหารสัตว์ขนาดห้าร้อยกรัมจะถูกยื่นมาตรงหน้า
