บทที่ 2 2

“นี่มันอะไร...แกซื้ออะไรมาให้น้องกิน”

นาราทำหน้าเหมือนถูกผีหลอก เมื่อคืนเธอ เห็นชัดๆ ว่ามันเป็นอาหารแมว เธอจำได้ดีว่า เมื่อวาน มารดาย้ำนักย้ำหนาให้ซื้ออาหารแมวมาให้ ‘น้องถ้วยฟู’ แมวจรที่มีคนใจร้ายจับมันใส่ลังกระดาษขนาด 2B มาวางทิ้งที่สวนสาธารณะหน้าบ้าน และคุณนายทองอยู่ที่ชอบวิ่งออกกำลังกายยามเช้า สลับกับรำไทเก๊กกับเพื่อนๆ ในหมู่บ้านบังเอิญไปพบเข้า แล้วเก็บแมวน้อยมาเลี้ยงเป็นลูกสาวอีกคน

หลังจากนั้น น้องถ้วยฟู ผู้สะบักสะบอม ดูเป็นแมวใกล้ตาย ก็ถูกคุณนายทองอยู่ฟูมฟัก จนเวลานี้ มันดูเป็นแมวคุณหนู และดูเหมือนจะกลายเป็นลูกสาวอันดับหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากคุณนายแม่ พร้อมเขี่ยลูกสาวมนุษย์คนเดียวอย่างเธอลงไปอยู่อันดับสองซะอย่างนั้น

“แกถ่างตาดูดีๆ สิ นี่มันอาหารแมวหรืออาหารแก”

คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน จำได้ว่าเมื่อคืนถึงจะดื่มไปจนไม่รู้ว่ากลับมาถึงบ้านอย่างไร แต่ก็จำได้ดีว่าเธอแวะร้านสะดวกซื้อที่เปิดบริการยี่สิบสี่ชั่วโมง แล้วตรงดิ่งไปที่เชลฟ์วางอาหารสัตว์และหยิบอาหารแมวขนาดห้าร้อยกรัมติดมือมา

แต่พอคุณนายทองอยู่ยัดเยียดถุงอาหารสัตว์มาให้ นาราก็เลยรับมาพลิกหน้าพลิกหลัง แล้วดวงตากลมโตก็ต้องเบิกกว้าง พร้อมกับร้องวี้ดอยู่ในใจ ตาไม่ฝาด แต่ประหลาดใจ

‘ซวยแล้ว นี่มันอาหารหมานี่หว่า’

ภาพสุนัขสายพันธุ์เยอรมันเชฟเฟิร์ดเป็นพรีเซนเตอร์อยู่ที่หน้าถุง แม้ว่าเธอจะขยี้ตาแรงๆ มองแล้ว ถ่างตาดูอีกก็ตาม

‘ทำไมเมื่อคืนเห็นเป็นหน้าแมววะ’

‘หรือเมื่อคืนจะเมาจริง’

ยังคิดไม่ตกว่าเมื่อคืนหยิบผิดหรือว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์กลั่นแกล้งจนทำให้มารดาของขึ้นแต่เช้า เพราะนังลูกสาวคนโปรดคงกินไม่ได้ ไม่ทันขาดคำ มันก็เดินสี่ขาเข้ามาออดอ้อนคุณนายแม่จนหญิงสาวหมั่นไส้ แอบเบะปากใส่ไปทีหนึ่ง

“เรื่องเยอะนะเรา กินไปเถอะ ใครจะไปรู้ อาหารหมาอาจอร่อยกว่าอาหารแมวก็ได้”

ยังไม่ทันพูดจบก็ต้องร้อง “โอ๊ย” มือบางรีบยกมือลูบป้อยๆ ที่หน้าผากเพราะถูกมารดายื่นมือมาดีดหน้าผาก

“ถ้าอร่อย แกก็กินให้น้องถ้วยฟูดูก่อนสิ”

ก่อนที่แม่ใจร้ายเห็นแมวดีกว่าลูกสาวแท้ๆ จะหันไปโอบอุ้มคุณหนูถ้วยฟูขึ้นมาแล้วลูบหัวมันเบาๆ

“เดี๋ยวแม่ไล่นางทาสมันออกไปซื้อมาให้ใหม่ รอหน่อยนะลูก”

“เหมียว เหมียว”

นาราจิ้มนิ้วเข้าหาตัว “หนูเป็นนางทาส” แล้วมองนังเหมียวตัวขาวฟูที่มารดาอุ้มอย่างหวงแหนราวกับทารกแรกเกิดที่ทำหน้าบ้องแบ๊วใส่มารดา แต่หันมาเหลือบมองเธอด้วยสีหน้าที่เห็นได้ชัดว่า นังเหมียวที่มารดาเรียกติดปากว่า ‘น้องถ้วยฟู’  มันกำลังเชิดใส่เธอ

“หนอย นี่จะมากไปแล้วนะนัง...”

“อย่าเรียกน้องว่านัง...” เสียงคุณนายทองอยู่เอ็ดใส่ทันควัน

ถูกมารดาต่อว่าจนนาราต้องครวญในอก ลูกรักของมารดายังเอียงคอมองเธอ ถ้ามันพูดภาษามนุษย์ได้คงพูดออกมาแล้วว่า

‘มองอะไรเหรอนุด มีปัญหาเหรอ’

“หนอย ทำมามองหน้า แล้วยังเชิดใส่ นี่ถ้าเป็นคนได้ ‘ไฟต์’ กันแล้ว”

“แกนั่นแหละ มัวแต่ยืนจ้องมองหน้าหาเรื่องน้องอยู่ได้ รีบไปเลย รีบไปซื้อมาใหม่ น้องหิวจะแย่แล้ว”

คำพูดของมารดาทำให้นาราถอนใจ สรุปว่ามนุษย์แม่ลำเอียงเข้าข้างแมวตัวโปรดอีกแล้ว นาราได้แต่หันไปส่งสายตาคาดโทษลูกสาวคนโปรดของมารดาเอาไว้

‘ฝากไว้ก่อน’

‘แม่เผลอเดี๋ยวเจอกัน’

เหมือนคุณนายทองอยู่จะเห็นแววตานั้น แล้วจะจับกระแสความไม่พอใจของลูกมนุษยฺได้ รีบขู่ขึ้น “ถ้าน้องหายออกจากบ้านนี้ ฉันจะสงสัยแกเป็นผู้ร้ายเอาน้องไปทิ้งคนแรกเลย”

ทำเอาลูกสาวอันดับสองโอดครวญประท้วง มองมารดาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ “โธ่ แม่!”

ปกติแล้ว คุณนายทองอยู่ให้ร้านขายอาหารสัตว์นำอาหารแมวมาส่งเป็นแบบกระสอบ แต่อาหารแมวเกิดหมดพอดีโดยที่มารดาบังเกิดเกล้าไม่รู้ว่าเฮียเจ้าของร้านอาหารสัตว์ปิดร้านไปงานศพญาติผู้ใหญ่หลายวัน

“เมี้ยว เมี้ยว” เสียงของมันดูน่ารักเหมือนทารกน้อยๆ กำลังอ้อนแม่ ใช่ แม่ของเธอ เอ๊ะ หรือแม่ของมัน สายตาของมันกำลังอ้อนคุณนายทองอยู่ราวกับทารกกำลังหิวนม

“เหมียว เหมียว”

คุณนายทองอยู่ก้มมองเจ้าเหมียวน้อยด้วยแววตาเอ็นดู

“น้องหิวแล้วเหรอลูก รอเดี๋ยวนะลูกสาวแม่” แล้วหันมาเอ็ดลูกมนุษย์ ที่ยังไม่ยอมขยับตัว “รีบไปสิ จะยืนมองอะไรน้องหิวแล้วเข้าใจไหม อ้อ ไหนๆ ก็จะออกไปข้างนอกแล้ว ช่วยเอาข้าวต้มมัดที่แม่ทำเอาใส่ถุงไว้ในครัวไปให้เพื่อนบ้านที่ย้ายมาอยู่ใหม่ติดกับบ้านเราด้วยนะ เพื่อนบ้านกัน รู้จักกันเอาไว้ มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน”

นารารู้ว่าภรรยาเศรษฐีชาวเยอรมันที่มารดาเอ่ยถึงย้ายตามสามีไปต่างประเทศได้หลายเดือนแล้ว และประกาศขายบ้านหลังสวยซึ่งติดกับบ้านของเธอ แต่ไม่รู้ว่ามีคนซื้อและย้ายเข้ามาอยู่ใหม่เรียบร้อยแล้วด้วยนี่สิ

“แม่ก็เอาไปให้เขาเองสิ ข้าวต้มมัดของแม่ ให้นาราเอาไปให้ทำไม”

“เอ๊ะ! ลูกคนนี้ใช้ยากใช้เย็น หรือจะให้ขุดเรื่องที่แกกลับดึกเมื่อคืนขึ้นมาจัดการ หัดว่าง่ายๆ ทำตัวน่ารักเหมือนน้องถ้วยฟูบ้างสิ”

“โห แม่เปรียบนารากับแมวนี่นะ” หญิงสาวโอดประท้วง

“ไม่เปรียบกับหมาก็ดีเท่าไหร่แล้ว ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังหัวเน่า”

“โธ่! แม่ก็...” คนสวยชักสีหน้าน้อยอกน้อยใจ กระเง้ากระงอด แต่คุณนายทองอยู่หันไปอุ้มเอาใจเจ้าเหมียวแทน

“เหมียว เหมียว” แมวน้อยหน้าบ้องแบ๊ว ตัวขาวฟูยังส่งเสียงทำคะแนนกับคุณนายแม่อยู่ไม่หยุด จนนาราได้แต่ชำเลืองมองมันด้วยความหมั่นไส้เบาๆ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป