บทที่ 3 ตอนที่ 3

“แกจะออกไปไหน จักริน”

จักริน อนันต์ทรัพย์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเจนสุดา อนันต์ทรัพย์ ชะงักเท้า เมื่อเสียงแหลมชวนปวดหัวของมารดาดังออกมาจากห้องรับแขก

“ผมจะออกไปหาน้องเดือนครับ”

เจนสุดาถอนหายใจแรงๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

“แกเข้ามาคุยกับแม่ก่อน”

จักรินไม่มีทางเลือก จำต้องเดินไปทรุดนั่งบนโซฟาตรงกันข้ามกับมารดาด้วยความเบื่อหน่าย

“แม่มีอะไรจะคุยกับผมหรือครับ”

“ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้วว่าให้เลิกยุ่งกับนังเดือนกันยาอะไรนั่น ทำไมแกไม่ฟังฉัน หูแกมีเอาไว้กั้นสมองเท่านั้นหรือไงตาจัก”

จักรินเป็นผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง เขาไม่ถึงขั้นหล่อเหลา แต่ก็จัดว่าเป็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งเลยทีเดียว

“แม่ก็รู้ว่าผมชอบน้องเดือน”

“แต่ฉันไม่ต้องการได้นังเดือนมาเป็นลูกสะใภ้ หนูพราวนู่นที่เหมาะสมคู่ควรกับทายาทเพียงคนเดียวของอนันต์ทรัพย์อย่างแก”

“นี่แม่ลืมพี่แม็กไปแล้วหรือครับ”

คำเตือนของลูกชายทำให้เจนสุดาหงุดหงิด

“มันติดคุกหัวโตไปแล้ว แกจะไปพูดถึงมันอีกทำไม”

“แต่สักวันพี่แม็กก็ต้องกลับออกมา”

เจนสุดายิ้มเยาะ “กลับออกมาแล้วจะทำอะไรได้ ในเมื่อพ่อมันก็ตายไปแล้ว ทรัพย์สมบัติทุกอย่างของอนันต์ทรัพย์ก็เป็นของเราสองแม่ลูก”

“แต่เรายังหาพินัยกรรมของพ่อไม่เจอนะครับ บางทีพ่ออาจจะยกสมบัติทั้งหมดให้พี่แม็กก็ได้”

“ไม่มีทาง!”

เจนสุดาเค้นเสียงกร้าว

“แล้วถ้ามันเป็นแบบที่ผมพูดล่ะครับ คุณแม่จะทำยังไง”

คนฟังยิ้มเลือดเย็น

“ฉันมีวิธีจัดการก็แล้วกันน่ะ ว่าแต่แกเถอะ เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับนังเดือนสักที”

“แม่วกมาเรื่องน้องเดือนอีกแล้ว ผมไม่พูดด้วยแล้ว ขอตัวครับ”

“ตาจัก...!”

จักรินที่จะเดินหนีออกไปชะงัก ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย

“ถ้าผมได้ฟันแล้ว ผมจะรีบเขี่ยทิ้งให้เร็วที่สุดก็แล้วกันครับ”

เจนสุดาลุกขึ้นยืน เดินไปหยุดตรงหน้าบุตรชาย

“แกก็รู้อยู่เต็มอกนี่ว่านังเดือนมันเล่นตัวขนาดไหน และแม่ของมันก็ฉลาดเป็นกรด ถ้าไม่มีงานแต่ง แกก็ไม่มีทางได้มันเป็นเมียหรอก”

คนเป็นลูกไหวไหล่น้อยๆ “ผมยอมจัดงานแต่ง เพื่อที่จะให้ได้น้องเดือนเป็นเมียครับ”

“ตาจัก!”

“ผมพูดจริงๆ นะครับแม่ ผมยินดีแต่งงาน ถ้ามันเป็นทางเดียวที่ผมจะได้ตัวน้องเดือน”

ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์

“และหลังจากที่ผมเบื่อน้องเดือน ผมก็จะเขี่ยทิ้งทันที”

เจนสุดาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย

“ฉันล่ะแปลกใจจริงๆ นังเดือนมันก็ไม่ได้สวยจัดมากมายอะไรเลย นังประกายดาวพี่สาวมันสวยกว่าอีก ทำไมแกจะต้องไปลุ่มหลงมันด้วย ผู้หญิงสวยๆ ตั้งมากมายรอให้แกลากขึ้นเตียงกลับไม่ยอมสนใจ”

“แม่เคยได้ยินคำว่าช้างเผือกไหมครับ น้องเดือนคือช้างเผือกของผม ถึงเธอจะไม่ได้สวยฉูดฉาด แต่เธอยิ่งมองยิ่งสวยครับ เพราะอย่างนี้ไงผมถึงได้อยากเป็นเจ้าของเธอ” จักรินอมยิ้ม นัยน์ตาเป็นประกายหมายมาด “ผมขอตัวก่อนนะครับ แล้วจะรีบกลับครับ”

“จะไปไหนก็ไปเถอะ หรือรีบๆ ไปฟันนังเดือนมันซะ แกจะได้เลิกบ้ามันสักที”

“รับทราบครับผม”

ลูกชายเดินผิวปากลับตาไปนานแล้ว แต่เจนสุดากลับยังถอนหายใจไม่หยุด จนแม่บ้านคนสนิทอดพูดขึ้นไม่ได้

“ถ้าเป็นแบบนี้ สงสัยคุณหญิงได้คนจนเป็นลูกสะใภ้แหงๆ เลยค่ะ”

“หุบปากไปเลยนังพุด ฉันไม่มีทางรับเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาเป็นลูกสะใภ้หรอก ถึงแม้ว่ามันจะเป็นลูกของคนที่ฉันเคยรู้จักก็ตาม”

เจนสุดากับอำภาพรเคยรู้จักกันและคบหากันในฐานะเพื่อนมาก่อน ก่อนที่เจนสุดาจะเขยิบฐานะขึ้นมาเป็นเมียของมาโนช อนันต์ทรัพย์ บิดาของแม็กซิมัส

“แต่ดูท่าทางคุณจักจะลุ่มหลงเด็กคนนี้มากเลยนะคะ”

“ความลุ่มหลงมันอยู่ไม่นานหรอกนังพุด พอสมใจแล้วมันก็จะจืดจางไปเองนั่นแหละ”

“ก็เหมือนกับที่คุณผู้ชายเคยลุ่มหลงคุณผู้หญิงใช่ไหมคะ”

“นังพุด! ไปให้ไกลๆ เลยไป เดี๋ยวเขวี้ยงด้วยถ้วยกาแฟเลย”

“ไปแล้วค่ะ ไปแล้ว”

พุดจีบรีบคลานออกไปด้วยความหวาดกลัว

เจนสุดามองตามไปด้วยสายตาดุดัน ความหงุดหงิดครอบงำจิตใจอีกครั้ง

“คุณโนช คุณเคยรักฉันบ้างไหมคะ”

หญิงวัยกลางคนมองจ้องไปที่รูปถ่ายครอบครัวที่มีมาโนชอยู่ในนั้น ความคั่งแค้นระเบิดในใจ รอยอดีตค่อยๆ ย้อนกลับมาอีกครั้ง

เมื่อหลายสิบปีก่อน หล่อนตกหลุมรักมาโนชตั้งแต่แรกเห็น แต่เขากลับไปมอบความรักให้กับโดโรธีย์เพื่อนรักของหล่อน หล่อนต้องหน้าชื่นอกตรม มองดูทั้งคู่มอบความรักให้กัน ต้องแอบร้องไห้คนเดียว เสียใจเพียงลำพังโดยที่ไม่มีใครหน้าไหนเห็นใจ

ไม่ช้าโดโรธีย์กับมาโนชก็แต่งงานกัน ทั้งคู่มีความสุข ในขณะที่หล่อนจมอยู่กับความทุกข์ทรมาน หล่อนหลบหน้าหลบตาสองคนนี้ไปหลายปีจนกระทั่งแม็กซิมัสอายุครบห้าขวบ หล่อนจึงได้กลับมาหาสองคนนี้อีกครั้งพร้อมด้วยแผนการร้าย

หล่อนให้ท่ามาโนช จนกระทั่งเขาติดบ่วงของหล่อน เขากับหล่อนเล่นชู้กันเกือบปีโดโรธีย์ก็จับได้ มาโนชพยายามจะเลิกกับหล่อน แต่หล่อนขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย ทำให้มาโนชจำใจต้องมาอยู่กับหล่อนแทนการอยู่กับโดโรธีย์

ระหว่างที่มาโนชมาอยู่ด้วย หล่อนก็มักจะโทรไปเล่าความสัมพันธ์ให้โดโรธีย์ฟัง หล่อนปั่นหัวด้วยการสาดความสุขของตนเองใส่อดีตเพื่อนที่เคยรักจนอีกฝ่ายตั้งรับไม่ไหว สุดท้ายโดโรธีย์ก็รถคว่ำตายไปในที่สุด ซึ่งมันก็เข้าทางหล่อนพอดี เพราะสุดท้ายแล้วทั้งมาโนชและสมบัติของอนันต์ทรัพย์ก็ตกมาเป็นของหล่อน

“ไอ้แม็ก แกจะไม่มีวันได้สมบัติของฉันแม้แต่ชิ้นเดียว”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป