บทที่ 4 ตอนที่ 4
หลังออกจากสุสานที่ฝังศพของบิดาและมารดา แม็กซิมัสก็ขอให้ลีโอนาโดพาเขามายังอีกที่หนึ่ง
“นายมาที่นี่ทำไมวะแม็ก”
ลีโอนาโดหมุนตัวมองไปรอบๆ สิ่งที่ได้เห็นก็คือสวนสาธารณะเล็กๆ ที่เครื่องเล่นเก่าและเสื่อมโทรมแทบผุพัง ต้นไม้ประดับที่ถูกปลูกไว้รอบๆ รกเลื้อยเพราะไร้การดูแลเอาใจใส่
“เมื่อก่อนฉันชอบมานั่งที่นี่น่ะ”
คนฟังยืนกอดอกมองผู้ชายตัวโต ผิวสีแทน ที่นั่งบนชิงช้าสนิมเกรอะแล้วถอนหายใจ
“มานั่งรำลึกความหลังที่ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายรังแกว่างั้นเถอะ”
แม็กซิมัสระบายยิ้มน้อยๆ พร้อมกับส่ายศีรษะ
“ฉันมานั่งนึกถึงนางฟ้าต่างหาก”
“นางฟ้า?”
“อืม นางฟ้าของฉัน”
“ใคร? ฉันเคยเห็นหรือเปล่า ว่าแต่นางฟ้าอะไรจะมาอยู่ในสวนหญ้าแบบนี้วะ”
“นางฟ้าที่ฉันรักน่ะสิ”
ยิ่งฟังลีโอนาโดก็ยิ่งไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่อยากขัดคอเพื่อนรัก
“โอเค ฉันจะให้เวลานายได้นั่งรำลึกความหลังถึงนางฟ้าของนายสักครึ่งชั่วโมงนะ ฉันจะไปรอที่รถ”
“ฉันขอแค่สิบนาทีเท่านั้นแหละลีโอ”
ลีโอนาโดพยักหน้ารับน้อยๆ
“โอเค ตามนั้นเพื่อน”
แม็กซิมัสมองตามลีโอนาโดไปจนลับตา ก่อนจะระบายยิ้มออกมาอย่างชื่นชม
ลีโอนาโดเป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่พอๆ กับเขาเลยทีเดียว ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาตามแบบของหนุ่มอิตาเลียน และเพราะทั้งหล่อทั้งรวยสุดเพอร์เฟกต์แบบนี้ไง ถึงมีผู้หญิงมาให้เลือกเยอะแยะมากมาย ซึ่งหมอนี่ก็อ้าแขนรับเอาขึ้นเตียงเสียทุกคนไม่มีปฏิเสธเลย
หลังจากมองเพื่อนรักจนลับตาไป ชายหนุ่มก็อดนั่งเหม่อลอยคิดถึงเรื่องราวในอดีตไม่ได้
ตอนนั้นเขาอายุสิบเจ็ดสิบแปด ถูกพ่อกับเจนสุดาดุด่าจึงหนีออกมานั่งที่นี่ และก็ได้เจอกับนางฟ้าตัวน้อย ผู้เป็นเจ้าของรอยยิ้มสดใส ความทุกข์ของเขาค่อยๆ จางลง เมื่อแม่นางฟ้าชวนพูดคุยเรื่องขบขัน
“เมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีกครั้งนะ แม่นางฟ้า” คนตัวโตมองเหม่อไปรอบๆ
“เธอคงลืมพี่ไปแล้วสินะเดือนกันยา”
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นจากชิงช้า เขาหมุนตัวมองไปรอบๆ สวนสาธารณะตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจมุ่งหน้าตรงไปยังรถสปอร์ตหรูที่ลีโอนาโดนั่งรออยู่
“ว่าไงเพื่อน เจอนางฟ้าไหมล่ะ”
ลีโอนาโดแซวเพื่อนรัก
แม็กซิมัสไม่ตอบ ก้าวขึ้นมานั่งข้างๆ
“ฉันว่าคงกลับขึ้นสวรรค์ไปแล้วล่ะ”
ลีโอนาโดเอ่ยแซวอีก ก่อนจะเลี้ยวรถแล้วขับออกไปจากสวนสาธารณะ ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เดือนกันยาหอบไม้กวาด และกรรไกรตัดกิ่งไม้เดินสวนมาพอดี แต่แม็กซิมัสที่หลับตาอยู่ในรถด้วยความอ่อนล้าไม่ทันได้เห็น
“เหนื่อยก็งีบเถอะแม็ก เดี๋ยวฉันจะพาไปเจอนางฟ้าตัวเป็นๆ แบบจับต้องได้เลยล่ะ”
แม็กซิมัสแค่นยิ้มน้อยๆ แต่ยังไม่ยอมลืมตา
“นายยังเจ้าชู้ไม่เปลี่ยนเลยนะลีโอ”
“ของมันดีอยู่แล้วจะเปลี่ยนไปทำไมล่ะ ว่าแต่นายเถอะ จะกลับไปที่บ้านหรือเปล่า”
คราวนี้คนที่หลับตาอยู่ลืมตาขึ้นทันที
“ยังไม่ใช่ตอนนี้”
“ก็ตามใจ ฉันคิดว่าตอนนี้แม่เลี้ยงกับน้องเลี้ยงของนายยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายออกมาจากคุกแล้ว”
ดวงตาของแม็กซิมัสเย็นชา “แต่อีกไม่นานพวกเขาจะต้องรู้ว่าฉันออกมาแล้ว”
“นายคิดจะแก้แค้นหรือเปล่า” ลีโอนาโดอดถามหยั่งเชิงเพื่อนรักไม่ได้
“ผู้หญิงคนนั้นปล่อยให้พ่อตายอย่างใจดำ ฉันติดคุกเลยไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้กราบท่านเป็นครั้งสุดท้าย”
น้ำเสียงของแม็กซิมัสสั่นเครืออย่างไม่อาจควบคุมได้ นัยน์ตาแดงก่ำด้วยความเจ็บปวด
“ยังไงเจนสุดาก็ต้องชดใช้ให้ฉัน”
“นายจะทำอะไรหรือแม็ก”
“พวกนั้นจะต้องเสียใจ แบบที่ฉันเคยเป็น”
“ฉันจะช่วยนายเอง”
“ขอบใจลีโอ แต่ฉันจัดการเองได้ ไม่รบกวนเวลาสนุกของนายหรอก”
ลีโอนาโดหัวเราะก๊าก
“แหม นายก็พูดเกินไป เวลาของฉันสละเพื่อเพื่อนรักอย่างนายได้เสมอ ไม่เหมือนเจ้าเคียร์สหรอก ไม่ยอมบินกลับมาต้อนรับนายตอนออกจากคุก”
“เจ้าเคียร์สมันอยู่ไกล นายอย่าไปว่ามันเลย”
“นายก็แก้ตัวแทนมันตลอด”
ลีโอนาโดไหวไหล่กว้างเล็กน้อย ก่อนจะเหยียบคันเร่งมากขึ้นเพื่อเพิ่มความเร็วของรถหรู
“ว่าแต่นายจะพาฉันไปสวรรค์ชั้นไหนลีโอ”
“ชั้นเจ็ด” คนตอบหัวเราะ “รับรอง นายจะได้กินของดีๆ ต้อนรับการออกจากคุก แม็กซิมัสเพื่อนรัก”
แม็กซิมัสระบายยิ้มน้อยๆ หลับตาลงอีกครั้ง ปล่อยให้ลีโอนาโดพาเขาไปขึ้นสวรรค์อย่างไม่คิดจะขัดข้อง
“มานี่เร็วนังเดือน คุณจักรินมาหาน่ะ”
เมื่อเห็นเดือนกันยาเดินกลับเข้ามาในบ้าน อำภาพรก็รีบไปฉุดกระชากลากถูทันที
“เดือน...ไม่ว่างน่ะจ้ะแม่”
เดือนกันยาไม่ได้รักไม่ได้ชอบพอจักรินเลย แต่เพราะถูกแม่กับพ่อยัดเยียดให้เสมอ ทำให้หล่อนเต็มไปด้วยความอึดอัด
“ไม่ต้องมาไม่วงไม่ว่างเลย”
คนเป็นแม่กระชากไม้กวาดและกรรไกรตัดหญ้าไปจากมือลูกสาว ก่อนจะเอ็ดตะโรเสียงดัง
“ดูสภาพสิ มอมแมมราวกับลูกหมา แล้วไอ้ไม้กวาดกับกรรไกรตัดหญ้าเนี่ย เอาไปไหนมา ไปรับจ้างทำสวนมาหรือไงยะ”
เดือนกันยาหน้าเจื่อน น้ำตารื้น
“เปล่าจ้ะ ฉันไม่ได้ไปรับจ้างทำสวน”
“แล้วแกไปไหนมานังเดือน”
“เดือนไป...”
อำภาพรจ้องหน้าบุตรสาวเขม็ง
“อย่าบอกนะว่าแก...”
