บทที่ 3 บทที่1.จุดกำเนิดของเรื่อง 2

วราพิชชาอาปากค้างทันทีที่เงยหน้าขึ้นมอง เธอกำลังเก็บเศษแก้วอยู่แท้ๆ ผู้ชายตัวสูงใหญ่หุ่นล่ำมีกล้ามนิดหน่อยไม่ถึงกับเทอะทะ เขานุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาวอย่างหมิ่นเหม่ มองดูแล้วน่าหวาดเสียว เพราะกลัวว่าผ้าผืนนั้นจะหลุดออกจากกัน ถ้าเขาขยับตัวแรงๆ ผมของชายหนุ่มมีสีน้ำตาลแดงยักโศกและยุ่งเหยิง ตาสีฟ้าน้ำทะเลเป็นประกาย จมูกโด่งเป็นสัน เมื่อรวมกับปากบางเฉียบได้รูป จึงทำให้รูปหน้าน่ามองยิ่งขึ้น ผิวเขาขาวๆมาก ขาวเสียจนจนสีผิวของวราพิชชาดำไปเลย ถ้าเทียบกับชายร่างใหญ่ที่ยืนโดดเด่นอยู่กลางห้อง เขาเป็นผู้ชายที่จัดอยู่ในกลุ่มหน้าตาดีมากๆ ถ้าตอนนี้นิสาได้เห็น คงต้องร้องกรี๊ดกราดอย่างสุดปลื้มใจแน่นอน

วราพิชชาคิดถึงสีหน้าของนิสาหากเผชิญหน้ากับชายหนุ่มผู้นี้ เธอจึงเสก้มหน้าอมยิ้ม โดยลืมไปว่าเธอต้องรีบออกมาจากห้องเพื่อกลับบ้าน เมื่อใกล้ถึงเวลาเลิกงานเข้าไปทุกที

ปัง... เสียงประตูปิดตามหลัง ทันทีที่แซมเดินออกจากห้องไป เพื่อหายาแก้ปวดตามคำสั่งของเจ้านาย

“ใคร... เธอเป็นใคร แล้วเข้ามาทำไมในห้องฉัน” วราพิชชาสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เสียงตวาดกับวงหน้ากระด้างจนเจ้าตัวนึกขยาด

หนุ่มเจ้าของห้องกำลังมองมาที่วราพิชชาที่ยืนอยู่กลางห้อง

วราพิชชาจึงตอบออกไป แล้วก็รีบขยับตัวเตรียมออกจากห้องของเขาทันที

“ดิฉันแม่บ้านค่ะ...เข้ามาทำความสะอาด เรียบร้อยแล้วขออนุญาตกลับเลยนะคะ”

โดมินิคมองมาที่วราพิชชาอย่างสำรวจ ผู้หญิงคนนี้ตัวเล็กมากถ้าเทียบกับเขาเอง แต่อะไรในตัวไม่เล็กตามไปด้วยแฮะ...คะเนได้จากสายตาแล้วไม่น่าจะพลาด เมื่อเขากวาดตาสำรวจจนทั่วทั้งด้านบนและด้านล่าง ดูๆ แล้วหน้าอกน่าใจก็น่าจะซักประมาณสามหกอัพ ขนาดเกินตัวไปหน่อย แถมหน้าตายังดูเด็กมากๆถึงยี่สิบเหรอเปล่าก็ไม่รู้ได้ ปากแดงๆ ตาโตๆ โดมินิคเจอมาเยอะ ทั้งเนื้อนมไข่ แต่หากลองเด็กสาวอ่อนเยาว์ดูบ้างก็ไม่ติด เขาขี้เกียจเรียกแซม ดูแล้วลักษณะแล้วน่าจะสะอาดพอใช้ โดมินิคคิดพลาง เดินตรงเข้าไปยังจุดที่วราพิชชายืนอยู่อย่างสำรวม

“ต้องการเงินเท่าไร ถ้าเธอต้องค้างที่นี่คืนนี้ บอกแซมนะแล้วตามฉันเข้ามาในห้อง ฉันจะเข้าไปรออย่าให้นานล่ะ...ฉันไม่ชอบรออะไรนานๆ”

บอกจบโดมินิคก็หมุนตัวกลับเข้าไปในห้องนอนทันที เขาไม่เคยคิดว่าตนเองจะโดนปฏิเสธ

วราพิชชากำมือเรียวจนปลายเล็บจิกเข้าไปในเนื้ออุ้งมือ เธอกัดริมฝีปากล่างจนแน่น เพื่อข่มกลั้นความโกรธ ผู้ชายมักจะมองเพศหญิงเป็นที่ระบายอารมณ์ ผู้ชายคนนี้คงใช้ชีวิตแบบนี้มาตลอด ผู้หญิงที่เขาเจออาจจะเต็มใจสนองอารมณ์กลัดมันให้เขา แต่ไม่ใช่เธอ

เธอรีบเดินออกไปจากห้องทันทีอย่างฉุนเฉียว และอารมณ์โกรธที่เริ่มเดือดปุดๆ

ผ่านไปพักใหญ่ๆ ปัง… เสียงประตูเปิด ก่อนจะมีเสียงเดินย้ำเท้าเข้ามาหาเบาๆ

“ฉันคอยนานแล้วนะ เธอนั่งคำนวนเงินค่าจ้างนานไปนะ ถ้านานมากไปกว่านี้ ฉันก็ไม่ต้องการแล้วล่ะ”น้ำเสียงเย็นเฉียบตามอารมณ์กรุ่นๆ เขาเริ่มอารมณ์ไม่ดีที่สาวน้อยใช้เวลาคิดนานเกินควร

“ร้านขายยาปิดแล้วครับ เลยต้องวนรถหลายรอบ กว่าจะหาร้านขายยาที่ยังเปิดขายอยู่เจอ เลยใช้เวลานานไปหน่อยครับ” แซมรายงาน พร้อมทั้งยื่นถุงที่บรรจุยาแก้ปวดหัวให้ตามที่โดมินิคต้องการ

โดมินิคลืมตาขึ้นมอง พลางถามแซมคนสนิททันที

“ตอนเดินเข้ามาเห็น ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างนอกหรือเปล่าละ”

“...ไม่เห็นมีใครนี่ครับ”

“ฉิบ...” เสียงสบถดังรอดไรฟัน สีหน้าโดมินิคบึ้งตึงกว่าเก่า อาการปวดหัวก่อนหน้านี้หายเป็นปลิดทิ้ง เขาปวดข้างขมับ จนต้องรีบยกมือขึ้นคลึงไปมา

“แซม ผู้หญิงที่เข้ามาในห้องฉัน หล่อนทำงานอะไร ...อยู่ที่ไหน... กับใคร...” แซมขมวดคิ้วสีหน้างุนงงกับคำถามของเจ้านาย ที่ถามออกมารัวเร็วฟังแทบไม่ทัน เลยจำเป็นต้องถามย้ำกลับไป

“ผู้หญิงที่ไหนครับ?”

“ก็คนเมื่อกี้ไง คนที่อยู่ในห้องก่อนหน้านี้น่ะ”

“อ๋อ ...เธอเป็นแม่บ้านที่นี่ครับ”

“เธอฟังภาษาอังกฤษออกไหม...”

“น่าจะได้ครับ ผมก็พูดภาษาอังกฤษกับเธอนี่ครับ”

“แล้วทำไมเธอไม่ยอมอยู่วะ” เขาบ่นพึมพำ หลังฟังคำตอบของแซมจนจบ

“อะไรนะครับ”

แซมย้อนถามออกไป สีหน้ามึนๆ กับคำสั่ง แล้วก็รีบสังเกตอาการของเจ้านาย ก่อนจะเดินไปรินน้ำสะอาดใส่แก้ว พร้อมกับเดินมายื่นแก้วน้ำกับยาที่เตรียมไว้ให้แก่โดมินิค

“ยา... ครับ”

โดมินิครับยาแก้ปวดมาโยนเข้าปาก แล้วรีบดื่มน้ำตาม แล้วจึงหันไปกำชับแซมอีกครั้งหนึ่ง

“ข้อมูลทุกอย่างที่ฉันอยากรู้ เช้าฉันต้องได้รู้นะ และต้องรู้ทันทีที่ลืมตาตื่นด้วย”

เสียงปิดประตูดังปัง หลังจากที่โดมินิคเดินเข้าไปในห้องบ่งบอกอารมณ์ของเจ้าตัวเป็นอย่างดี

“เห้อ…” แซมถอนหายใจ

“เธอไปทำอะไรให้เจ้านายโกรธนะสาวน้อย” แซมรำพึงออกมาอย่างห่วงใยสาวน้อยที่ดูหน้าตาไม่มีพิษมีภัย จากนั้นแซมก็โทรสั่งการ์ดอีกที พร้อมทั้งกำชับว่า

“ข้อมูลทุกอย่างเช้าต้องได้ทันทีที่เจ้านายตื่นนะ ไม่อย่างนั้นตายทุกคน”

คำสั่งด่วน ปั่นป่วนบรรดาการ์ดไม่น้อย ให้ข้อมูลแม่บ้านคนหนึ่งตอนกลางคืน ไม่มีรายละเอียด เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร รู้แค่ผู้หญิงตัวเล็กผมยาว แถมยังต้องการรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนกับใคร ทำไมต้องถึงเร่งด่วนขนาดนั้น แต่ไม่มีใครกล้าถามกลับ พวกเขามองหน้ากัน แล้วก็แยกย้ายไปหาข้อมูล เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้า และต้องรีบให้ทันเวลา เนื่องจากรู้ถึงความใจร้อนของโดมินิคดี

โดมินิคนอนพลิกไปพลิกมากลางเตียง แม้จะอ่อนเพลียเพราะว่าการเดินทางไกล แถมทันทีที่มาถึงเมืองไทยก็เจอเพื่อนสนิทจัดงานเซอร์ไพรส์รอไว้ชุดใหญ่ จึงเสียพลังงานในการดื่มเหล้าเคล้านารีไปมากโข

โดมินิค โดนาแวนในวัยสามสิบสองปี เขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และเป็นที่กล่าวขวัญอย่างทั่วถึง เป็นคนหนุ่มมีวิสัยทัศน์ ฉลาดเฉียบคม ไหวพริบดี แก้ปัญหาเก่ง จนไม่มีสิ่งใดที่โดมินิคอยากได้แล้วจะไม่ได้ ทุกๆ สิ่งที่เขาต้องการมักจะมากองตรงหน้า แม้ต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมกลโกงมาก็ตาม

“ทำไมเธอไม่ยอมฉันวะ หรืออยากวโก่งค่าตัว... มีแต่คนต้องการฉัน...ให้ฟรีก็เยอะ ผู้หญิงทั่วโลกมีแต่คนอยากนอนกับฉันทั้งนั้น เธอเป็นใคร กล้าดียังไงถึงเดินหนีฉัน แถมยังกล้าปฏิเสธฉันอีก ถ้าฉันไม่ได้เธอมาครองไม่ต้องมาเรียกฉัน โดมินิค โดนาแวน ฉันต้องการสิ่งใดแล้วไม่เคยผิดหวังสักที เราจะได้เห็นดีกันแน่”

โดมินิคครุ่นคิดถึงวิธีการที่จะทำให้สาวน้อยนิรนามที่ไม่รู้จักคนนั้น ยอมสยบอยู่ตรงหน้า เมื่อคิดแผนการจัดการได้พอให้อารมณ์เย็นขึ้นมาบ้าง เขาจึงสามารถข่มตาหลับลง โดยไม่รู้ตัวเลยว่าสาวน้อยวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดเขาจนหลับ อย่างที่ยังไม่มีใครสามารถทำได้มาก่อน

“อีตาเศรษฐีบ้า คนอะไรไม่รู้ เห็นคนเป็นสิ่งของ เอะอะก็จะใช้เงินซื้อ อีตาบ้าหน้าตาก็ดีไม่น่านิสัยเสียเลย คนบ้า...” วราพิชชาบ่นไปตลอดทางอยากอารมณ์เสีย เมื่อเดินหนีออกมาจากห้องโดมินิคพ้น เธอไม่รู้เลยว่าอนาคตตนที่จะถึงต้องพัวพันกับชายผู้นี้อย่างไรบ้าง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป