บทที่ 2 Chapter 2

จากการเฝ้าตามดูห่างๆ และหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เท่าที่จะทำได้ในยามที่คุณกอบเกื้อเจ็บป่วย เปมิศาเป็นผู้ปกครองที่ใช้ไม่ได้สักนิด เมื่อสามีเสียชีวิต แทนที่เธอจะดูแลกรณิการ์กลับแสวงหาผู้ชายกระเป๋าหนักมารับตัวลูกเลี้ยงไปอยู่ด้วย โดยใช้ข้ออ้างที่ว่า...แต่งงาน แท้จริงแทบเรียกได้ว่าเร่ขายลูกเลี้ยงสาวก็ไม่ปาน ใครกระเป๋าหนักทุ่มได้จุใจก็ได้สาวหน้าใสไปเชยชม

กรณิการ์เป็นเด็กน่ารักหัวอ่อน ต่างกับตรีนุชลิบลับแม้อายุเท่ากัน รายแรกนั้นเรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้ แต่รายหลังเปรียบดังผ้าที่ขยำๆ แล้วซุกซอกตู้ เพชรพญาละสายตาจากผ้ายับๆ ที่มักจะเรียกความขุ่นมัวให้เขาได้เสมอ เมื่อหางตาคมจับภาพจีระภากำลังเดินเข้ามาใกล้ เขาหันไปยิ้มให้เธอ มองเมินไม่สนใจเด็กสาวไร้ความคิดคนนั้นอีกต่อไป

เขาส่งกรณิการ์ไปไว้ในมือคนที่ไว้ใจได้และปกป้องคุ้มครองเธอได้แล้ว ในอาณาเขตของฟ้าครามคงไม่มีคงพาลคนไหนจะตามไปเอารัดเอาเปรียบรังแกเธอได้ เขาสบายใจแล้ว ไม่มีความจำเป็นใดต้องยุ่งเกี่ยวกับตรีนุชอีก แม้ว่าเปมิศาจะทำงานในบริษัทของเขาก็ตาม

ทว่า...โชคชะตามักเล่นตลกกับชีวิตคนเสมอ

บางคนยิ่งเกลียดกลับยิ่งต้องเจอ...

“ทำไมวันนี้เอ็งกลับเร็ววะนังสาม เรียนก็จบแล้วนี่หว่า พี่คิดว่าเอ็งจะเหมาคีบตุ๊กตาหมดตู้ซะอีก” ปู หญิงวัยสามสิบเศษๆ พนักงานของห้างที่มีหน้าที่ดูแลเครื่องเล่นเกมร้องทัก เธอคุ้นเคยกับตรีนุชและพิริยะเป็นอย่างดี ทั้งสองคนมาเล่นเกมบ่อยๆ นั่นเอง

“อยากเล่นต่อเหมือนกันพี่ปู แต่วันนี้เล่นไม่ได้ ต้องไปธุระต่ออะดิพี่” ตรีนุชร้องตอบอย่างเป็นกันเอง พลิกถุงนับตุ๊กตาก่อนจะใช้หนังยางรัดปากถุงไว้

“อาไร้... ตัวแค่นี้หัดมีธุระ”

“ยัยสามมันจะไปดูตัว พี่มันอยากให้เอาผัวน่ะพี่ปู” พิริยะส่งเสียงตอบพลางหัวเราะร่วนทำหน้าทะเล้นใส่เพื่อนสาว

“หา! จริงเรอะวะนังสาม เอ็งอายุเท่าไหร่จะเอาผัวแล้ว”

“โอ๊ย ใครอยากได้ล่ะพี่ แต่คุณเปรมน่ะสิ เฮ้อ...ไม่อยากพูด กลับก่อนนะพี่ปู ไปโว้ยไอ้ยะ”

“เออๆ แล้วอย่าลืมมาเล่าอัปเดตความคืบหน้าเรื่องว่าที่ผัวนะเอ็ง”

“พี่ปูก็ ใครจะเอาผัวเล่า...”

ปูหัวเราะร่วน มองสองเพื่อนซี้ที่เดินแบกถุงตุ๊กตาตามกันออกไปจากโซนเครื่องเล่นพลางส่ายหน้าแต่เป็นไปด้วยความเอ็นดู ทั้งสองมาเล่นเกมที่นี่ประจำแต่ไม่เคยโดดเรียนมาเล่นสักครั้ง จะพากันมาหลังเลิกเรียน หรือวันหยุด

ทางด้านสองเพื่อนซี้เดินออกมาหน้าห้าง เรียกรถตุ๊กๆ ได้แล้ว สาวจอมแก่นก็สั่งเพื่อนทันที

“ฝากเอาไปไว้บ้านแกก่อนนะยะ แล้วอย่าขโมย ฉันนับไว้แล้วกี่ตัวอะ”

“ยัยงกเอ๊ย แล้วนี่แกจะไปยังไง ไม่ให้ฉันไปเป็นเพื่อนแน่นา”

“แค่นี้เอง แกเอาขุมทรัพย์ของฉันไปเก็บให้ดีๆ แล้วกัน ฉันไปละ”

รถเมล์สายที่ต้องขึ้นวิ่งมาจอดพอดี ตรีนุชจึงรีบวิ่งไปขึ้นรถ ปล่อยให้เพื่อนมองตามตาปริบๆ

พิริยะมองแล้วถอนใจ รีบบอกที่หมายกับคนขับ พลางนึกเห็นใจเพื่อน ก่อนนั้นมีกรณิการ์อยู่ด้วย ตรีนุชก็ต้องคอยดูแลไม่ให้คุณเปรมดุด่าทั้งยังคอยช่วยเวลาที่น้าเปรมหาผู้ชายมาดูตัว พอไม่มีกรณิการ์ ตรีนุชกลับต้องรับบทหนัก อย่างว่ายัยนั่นหน้าตาสะสวย ใครเห็นก็ชอบ เขาเองยังชอบมอง แต่ก็ได้แค่มองไม่คิดอาจเอื้อมไปจีบหรือคิดเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนไปเป็นอย่างอื่น เพราะอะไรน่ะเหรอ เขากับตรีนุชก็เหมือนไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ รู้กันหมดไส้หมดพุง เพราะฉะนั้นเป็นเพื่อนกันมันดีที่สุดแล้ว เฮ้อ... สงสารเพื่อน คนเห็นแก่เงินอย่างน้าเปรมมีหรือจะไม่ดิ้นรนหาผัวให้ตรีนุช

ภาพในกระจกสะท้อนหญิงสาวสวยเย้ายวนตามฝีมือการแต่งหน้าขั้นเทพ ใช่แล้วล่ะ ขั้นเทพ! คำนี้ไม่ผิด ตรีนุชมีโอกาสไปเรียนแต่งหน้ากับพวกพี่ๆ ที่วิทยาลัย จึงได้รู้เทคนิคมา ความจริงแล้ว เธอไม่อยากแต่งหน้าแต่งตัวสวย ยิ่งชุดสุดเซ็กซี่ เปิดอก เน้นสะโพกสีเลือดนกตัวนี้ เธอไม่อยากสวมใส่สักนิด ในชีวิตก็ไม่คิดจะซื้อมาใส่เด็ดขาด แต่เพราะเป็นคำสั่งของเจ้าเหนือชีวิตอย่างคุณเปรม เธอจึงต้องรีบเข้าห้องน้ำมาเปลี่ยนองค์ทรงเครื่อง สลัดคราบเด็กกะโปโลทิ้ง เพื่อจะได้ไปร่วมวงสังสรรค์ที่เธอรู้ดีว่ามันคือการดูตัว

ไอ้เสี่ยอู ไอ้แก่ตัณหากลับ อายุจะห้าสิบอยู่แล้ว ยังหน้ามืดตามัวคั่วสาวละอ่อน ขนาดเด็กอย่างเธอกับยัยอ้อนก็ไม่ละเว้น พลาดจากยัยอ้อน ก็มาเล็งที่เธอ คุณเปรมก็แสนดี... กับคนนอกบ้าน โดยเฉพาะคนที่มีเงินถุงเงินถัง เพียงเขาอ้าปากก็แทบจับเธอใส่พานทองประเคนให้เลยกระมัง

หึ! เดี๋ยวจะได้รู้ฤทธิ์นังสาม!

ตรีนุชคับแค้นใจคิดหมายมาดจะจัดการกับตาแก่หน้าด้านให้สาสม แม้ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะจัดการยังไงดี คงต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อน เธอปรายตามองกระจกอีกครั้ง สำรวจความสวยของตนเอง ตั้งใจว่าจะแต่งสวยมากๆ ให้ไอ้บ้านั่นมันเห็นแล้วช็อกตายไปเลยยิ่งดี

ผับหรูมีระดับ เพียงยื่นบัตรวีไอพีให้ดู พนักงานก็โค้งคำนับจนศีรษะแทบจะโขกพื้นกระเบื้อง ตรีนุชบิดปากขณะเดินตามเข้าไปข้างใน บัตรนั้นเปมิศาให้เธอไว้ซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าเป็นบัตรของใคร เสียงเพลงเบาๆ กับบรรยากาศที่ไม่พลุกพล่านชวนให้อยากนั่งฟังเพลง ถ้านี่ไม่ใช่การมาเพราะคำสั่งกับเหตุผลแสนทุเรศแบบนั้น เธอคงรู้สึกดีไม่น้อย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป