บทที่ 6 Chapter 6

“ทำต่อ ฉันถึงจะปล่อย”

“โอ๊ย อยากจะบ้าตาย คุณมันผู้ชายเฮงซวย ฉันไม่ใช่คู่เดตคุณนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” ตรีนุชทั้งดิ้นหนีทั้งแหกปากลั่น อย่างที่ตั้งใจจะทำให้ผู้คนบ้านใกล้เรือนเคียงได้ยินกันถ้วนหน้า ตาจิกมองหน้าหล่อเหลาอย่างเอาเรื่อง ในโลกนี้คงไม่เคยมีใครเห็นแก่ตัว หน้าด้าน แล้วก็กวนประสาทได้เท่ากับเพชรพญาอีกแล้ว เธอเมื่อยแขน เมื่อยตัวจนแทบไม่มีแรงแล้วยังจะเอาแต่ได้เอาแต่ใจอีก

“ฉันไม่ได้เป็นเด็กเสี่ย คุณเองก็ไม่ได้มาเลี้ยงดูอะไรฉัน อย่ามาฉวยโอกาสบีบบังคับกันให้มากนัก ถามจริง พวกคู่เดตของคุณต้องมาทำอะไรแบบนี้น่ะเรอะ”

“อ้าว เห็นที่ผับร่ำร้องว่าถูกฉันเลี้ยงดูอยู่ไม่ใช่เรอะ คนอะไรเปลี่ยนใจไวยิ่งกว่าถอดกางเกงในอีก อ้อ แน่นอนว่าเธอไม่ใช่คู่เดตของฉัน ถึงเธอจะหน้าสวย แต่นมเล็ก ก้นแฟบ แถมยังจูบไม่ได้เรื่องอีก แค่มองฉันก็หมดอารมณ์แล้ว ผู้หญิงคนอื่นของฉันล้วนแต่เนื้อนมไข่ หน้าตาก็สะสวยเร้าใจ แค่มองก็อยากถอดกางเกงแล้ว”

“ยี้... กินแต่เนื้อนมไข่บ่อยๆ ระวังไขมันจะอุดตันเส้นเลือดตาย”

“ไม่มีวันนั้นหรอก ไม่รู้เรอะ เซ็กซ์เผาผลาญพลังงานไปเท่าไหร่ต่อการไคลแม็กซ์หนึ่งครั้ง แล้วอย่างฉันที่ทำประตูมากกว่าหนึ่งไม่มีทางเป็นโรคนั้นแน่ แต่ก็นะ เซ็กซ์ที่ดีที่เร้าใจก็ต้องเกิดกับคนที่พอใจด้วย อย่างสาวๆ ของฉัน แต่กับเธอ...” ตาคมดุกวาดไปทั่วใบหน้าแดงก่ำของสาวน้อย หลุบตาลงจับที่ทรวงอก “เด็กแบบเธอจะให้ฉันทำอะไรเล่าตรีนุช ฉันเหนื่อย ฉันเมื่อย ต้องการสาวๆ มาเทกแคร์เอาใจ เธอก็ทำสาวของฉันหนีหมด เธอเป็นต้นเหตุก็ต้องเป็นคนนวดให้ฉัน ผิดตรงไหน”

“ฉันก็นวดแล้ว นวดมาสองชั่วโมงจนมือจะหงิกง่อยอยู่แล้ว คุณจะเมื่อยห่าเหวอะไรนัก”

ตรีนุชร้องใส่หน้า โมโหจนอกแทบระเบิด นับแต่ที่ถูกลากออกมาจากผับ เพชรพญาพาเธอมาที่ห้องพักส่วนตัวของเขา มันเป็นห้องสวยในคอนโดหรู จากนั้นก็บังคับให้เธอนวด นวด และก็นวด ตอนนี้เธอหิว เธอเพลีย นั่งคีบตุ๊กตามาทั้งวันแล้ว ยังต้องมาทำเรื่องไร้สาระอยู่ที่นี่อีก คิดถึงเตียงอุ่นๆ คิดถึงน้องเน่าเจ้าเป็ดเหลืองที่นอนกอดทุกคืนจะแย่แล้ว

เพชรพญาตีหน้าเฉยชา ตวัดมือฟาดที่สะโพกกลมแน่นไปหนึ่งครั้ง ส่งเสียงต่ำโดยไม่สนว่าคนที่ร้องว่าเขาปาวๆ ใส่หน้าจะมองจะคิดกับเขายังไง

“โอ๊ย! ซาดิสม์! มาตีทำไม!”

“ปากคอเราะรายไร้สัมมาคารวะ อ้อนสนิทกับเธอได้ไงกัน นิสัยต่างกันสุดขั้ว”

สาวน้อยขึงตาใส่ ทุบบ่ากว้างกลับไปแรงๆ บ้าง เธอเกลียดเขา เกลียดเพชรพญา ถ้าเธอนิสัยเหมือนกรณิการ์ป่านนี้คงถูกส่งขายให้อาเสี่ยกระเป๋าหนักไปนานแล้วล่ะ คนอย่างเขาจะรู้อะไร

“ใช่สิ ฉันมันไม่มีดีอะไร แล้วมาจับมากอดทำไมไม่ทราบ คนอะไรปากว่าตาขยิบ พูดปาวๆ ไม่ชอบๆ แต่กอดไม่ปล่อย” ตรีนุชข่มความอายเอาความโกรธเข้าใส่

ผู้หญิงในโลกคนไหนจะไม่เจ็บใครเวลาถูกผู้ชายว่าไร้ความเสน่ห์บ้าง ตอบเลยว่า ไม่มี!

“สมอง คิดได้แค่นี้” ชายหนุ่มส่ายหน้าทีท่าระอาใจ แต่ยอมปล่อยมือจากร่างกายหอมกรุ่นนุ่มละมุน “ไปหาอะไรไว้ให้ฉันกินด้วยฉันจะอาบน้ำ”

ตรีนุชดีดตัวออกห่างรัศมีกายชายแบบลนลานเลยก็ว่าได้ นึกกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ เห็นโอกาสที่เธอจะได้กลับบ้านนอนเสียทีแล้ว

“อย่าคิดจะหนีกลับล่ะ ไม่อย่างนั้น...”

เสียงห้าวเนิบย้ำมา สุ้มเสียงที่มั่นอกมั่นใจในอำนาจบาตรใหญ่นั่นสร้างความเจ็บแค้นให้ตรีนุชยิ่งนัก สาวน้อยกระทืบเท้ากับพื้นปังๆ ให้พื้นบ้านเขาสึก ให้กระเบื้องมันแตกพังไปเลยคงสะใจเธอพิลึก

“เจ้าค่ะ นายท่าน ชิ”

เพชรพญาเพียงปรายตามองเรือนร่างบอบบางที่เดินกระแทกส้นเท้าออกไปจากห้อง กรุ่นกลิ่นเรือนกายของสาวน้อยใช่ว่าไม่มีผลกับเขา รูปร่างผอมบางลวงตานั้น ภายใต้เสื้อผ้า เธอซุกซ่อนความเป็นสาวเอาไว้เต็มเปี่ยม เขารู้ดีทีเดียว ความเป็นสาวเย้ายวนให้ผู้ชายกระโดดเข้าหาเพียงแค่ได้มองหน้าสวยๆ นั่น แต่... ดอกไม้สวยงามมักมีพิษร้าย ตรีนุชเป็นอย่างนั้น เฉกเช่นที่พี่สาวของเธอเป็น

ชายหนุ่มถอนฉุน กระตุกเสื้อกับกางเกงออกจากกายโดยไม่สนใจว่า หากมีใครโผล่เข้ามาจะเห็นเขาโป๊เปลือยทันที เพชรพญาไม่สนสักนิด ในพื้นที่ส่วนตัว เขาชอบความสะดวกกายสบายใจเป็นตัวของตัวเอง

กายแกร่ง สมส่วน สมชายแบบฉบับผู้ชายที่ออกกำลังกายเป็นนิจเดินเข้าห้องน้ำ แต่ละก้าวย่างมั่นคงสง่างาม ไม่เร่งร้อน ด้วยว่าเขาไม่กลัวว่าเด็กสาวจะแอบดอดหนี ตรีนุชไม่กล้าหนีแน่ๆ แม้เธอจะร้าย รั้น ดื้อด้าน แต่เขามีบางอย่าง มีบางสิ่ง ที่ทำให้ถือไพ่เหนือกว่าเธอ

สายน้ำเย็นฉ่ำไหลชโลมผ่านร่างสร้างความสดชื่น หากสมองกลับยังคิดเรื่องของเด็กสาวไม่หยุด...

ข้าวกล่องสำเร็จรูปถูกนำเข้าไมโครเวฟ ไม่กี่นาที ตรีนุชก็สามารถจัดเตรียมอาหารวางไว้บนโต๊ะรอจอมบงการได้เรียบร้อย เธอเหนื่อย แต่ท้องกลับไม่ร้องขออาหาร จึงเดินมาทิ้งตัวลงนั่งหน้าบูดหน้าบึ้งอยู่บนโซฟานั่งเล่น คับแค้นใจ ทำไมเธอต้องทำตามคำสั่งคนบ้านั่นด้วยนะ ชอบวางอำนาจ เจ้ากี้เจ้าการไปหมดทุกอย่าง เธอก็ดันทำอะไรตอบโต้ไม่ได้เสียด้วย ใช่เธอจะกลัวเขา ถ้าเพียงไม่มีเรื่องราวน่าอับอาย เธอก็คงไม่ต้องมาตกอยู่ในสภาพเป็นเบี้ยล่างแบบนี้ เธอไม่มีวันยอม!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป