บทที่ 8 คนแปลกหน้าที่ชื่อว่าสามี 2
สถานะระหว่างเขากับเธอมันเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย เวลานี้ฟ้าครามไม่คิดอะไร เพียงแค่พาเธอไปส่งให้ถึงมือพ่อ เขาก็หมดหน้าที่ จากนั้นก็รอให้เด็กสาวอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ก็หย่ากันให้ถูกต้องแค่นั้น
แต่...ทำไมนะ แววตาตื่นๆ กลัวๆ ของเธอถึงติดตาเขานักนะ เด็กสาวท่าทางสงบเสงี่ยมเรียบร้อย หากยามที่แววตาคู่นั้นเปล่งประกายตื่นเต้นสนใจยามได้เห็นแค่สถานีรถไฟหัวลำโพงกลับกระตุกใจเขาให้สนใจ มันก็แค่สถานีรถไฟ แค่ผู้คนที่สัญจรเดินทาง แต่เธอกลับทำท่าสนใจอย่างกับได้พบสิ่งพิเศษพิสดาร
เธอบอกนี่นะ ว่าไม่เคยขึ้นรถไฟ คงตื่นเต้นกับสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยเห็นเท่านั้นมั้ง
ฟ้าครามถอนใจยาว ปัดไล่ความคิดคำนึงถึงเมียตีทะเบียนวัยใสของตนออกไปจากหัว แต่มันช่างยากเย็น เมื่อเผลอตัว ดวงตาตื่นๆ ของเธอกลับมายึดครองความคิดคำนึงของเขาอีก
ทางด้านสาวน้อย หลังจากปีนขึ้นมาบนที่นอนชั้นสอง ก็นั่งกอดเข่า ลอบชำเลืองมองไปยังผู้โดยสารอื่นๆ ที่ร่วมตู้ขบวนรถไฟ หลายๆ ช่องดึงผ้าม่านกางปิด อาจจะนอนแล้ว หลับหรือไม่นั่นเป็นอีกเรื่อง แต่มีหลายช่องหลายเบาะที่ยังไม่นอน บ้างก็อ่านหนังสือ บ้างก็เล่นโทรศัพท์ และเธอเห็นเหล่านักท่องเที่ยววัยรุ่นพากันเอาเบียร์ขึ้นมาดื่ม เธอไม่รู้หรอกว่า ทางรถไฟห้ามดื่มของมึนเมาไหม ใครคนหนึ่งหันมาเห็นเธอมองก็ยิ้มพร้อมชูกระป๋องให้ กรณิการ์รีบหลบ ดึงม่านปิด แต่ไม่กล้าล้มตัวลงนอน
ช่องระหว่างเบาะนอน มันเพียงพอให้เธอนอนได้ ขยับตัวได้อย่างอิสระ เพราะเธอรูปร่างเล็ก หากพอปิดม่าน ช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้านั้นกลับทำให้เธอนึกถึงความทรงจำเมื่อหลายปีก่อนหน้า
ห้องเล็กๆ ที่เธอเกลียด กลัว และหวาดผวาทุกครั้งที่นึกถึง...
เวลาผ่านไปพักหนึ่ง ไฟในขบวนตู้โดยสารไม่ได้ปิดหรือหรี่ลงแต่ม่านหนาช่วยพรางแสงไฟไว้เพื่อให้ทุกคนได้นอนหลับพักผ่อนจนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง ความมืดสลัวนั้นกลับทำให้เจ้าของร่างบางกอดเข่าตัวเองแน่นขึ้น นั่งนิ่ง รับรู้ถึงแรงโยกคลอนน้อยๆ เวลาที่รถเคลื่อนที่ไปบนรางเหล็ก จิตใจใต้ทรวงกลับเต้นรัว
สาวน้อยนั่งอยู่อย่างนั้น ไม่กล้านอน ไม่กล้าหลับตา เฝ้ากดหน้าจอโทรศัพท์ดูเวลา เมื่อไหร่จะเช้า แม้จะมีความอ่อนเพลีย จิตใต้สำนึกของเธอกลับไม่สั่งให้เธอนอน กวาดตามองซ้ายขวาเธอก็เห็นเพียงความมืดสลัว และช่องสี่เหลี่ยมแคบๆ
เฉกเช่นคนนอนเบาะล่างก็ไม่ได้หลับ ในความมืด ฟ้าครามลืมตาจ้องมองพื้นที่ที่อยู่เหนือขึ้นไป ปกติเวลาเดินทางแบบนี้ ล้มตัวลงนอน หัวถึงหมอน เขาหลับเป็นตาย แต่ครั้งนี้ กลับไม่รู้สึกง่วง แม้จะมองไม่เห็นอะไรนอกจากพื้นเหล็กที่รองรับที่นอนด้านบน เขายังมอง หากจะละสายตา ก็เพียงเบี่ยงไปมองความมืดนอกกระจกหน้าต่างที่พอมองเห็นได้
ในตู้นอนอากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว ถึงจะเป็นตู้นอนชั้นสองแบบมีเครื่องปรับอากาศ แต่เป็นที่รู้ๆ กันว่า มันไม่ได้เย็นฉ่ำชื่นใจมากมายเท่าไหร่นัก
ฟ้าครามมองนาฬิกาบนข้อมือ ตอนนี้เวลาห้าทุ่ม อีกหลายชั่วโมงทีเดียวเขาจึงจะถึงจุดหมาย ซึ่งถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไร ตามเวลาคือตีห้าครึ่ง
เสียงเคลื่อนไหวเบาๆ เรียกความสนใจ เพราะมันดังมาจากชั้นบนเหนือที่นอนเขา ชายหนุ่มจึงแง้มผ้าม่านออกดู พบว่ากรณิการ์ปีนลงมาจากชั้นบน เขาจึงรูดม่านเปิดเบาๆ เธอหันมามอง
สาวน้อยนิ่วหน้าแปลกใจ นึกว่าเขาหลับไปแล้วเสียอีก ตาสองคู่สบกันในแสงไฟทางเดิน
“ลงมาทำไม” ฟ้าครามถามเสียงเบาพอให้ได้ยินกันสองคน
“เอ่อ อ้อนจะไปห้องน้ำค่ะ”
กรณิการ์ตอบเสียงแทบไม่พ้นลำคอ รู้สึกประหม่าแต่ก็ใจชื้นเมื่อพบว่าชายหนุ่มยังไม่นอน
“ไปสิ” ร่างหนาลุกออกมาจากเบาะนอน เมื่อสาวน้อยยืนนิ่ง มองเขาอย่างแปลกใจ จึงสั่งย้ำอีกครั้ง “เดินสิ”
มีผู้โดยสารชายบางคนยังไม่หลับและผินหน้ามามองหนุ่มสาว ฝ่ายสาวน้อยน่ารักน่ามองอยู่แล้ว แสงไฟสว่างชัดช่วยให้การมองเห็นสะดวกขึ้น ใครก็อยากมอง แต่ฝ่ายหนุ่มร่างใหญ่ที่เดินตามหลังนี่ ไม่ชวนมองเอามากๆ ตาคมขรึมคล้ายไม่สนใจอะไร หน้ารกหนวดเครานั้นมีสีหน้าเรียบเฉย แต่ความดุระดับหัวหน้าโจร ทำให้คนที่หันมามองกรณิการ์หลบกันเป็นแถว
กรณิการ์ไม่คิดว่า เขาจะเดินตามมาด้วยจึงเดินตัวลีบ ใจมันสั่นๆ แปลกๆ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุเท่านี้ยังไม่เคยคลุกคลีกับผู้ชายมากนักนอกจากพ่อของเธอเองและเพื่อนของตรีนุช และเพชรพญา
ถึงจะรู้สึกแปลกประหม่าขัดเขินอย่างไร สาวน้อยพยายามทำตัวให้นิ่งไว้ คิดเอาเองว่า เขาคงอยากจะเข้าห้องน้ำทำธุระเหมือนกันจึงไม่ได้หันไปมอง เมื่อถึงประตูห้องน้ำ เธอแยกตัวเข้าไปทันที
ร่างสูงหยุดแค่นั้น เบี่ยงตัวไปยืนพิงกำแพงผนังแถวหน้าห้องน้ำ ตาคมดุกวาดมองไปรอบบริเวณนั้นช้าๆ ขณะที่ยืนกอดอก รอ...
เขาไม่ได้คิดอะไรในแง่ร้าย แต่ป้องกันไว้ก่อน ผู้คนมากหน้าหลายตาทั้งชาวไทยชาวต่างชาติ ใครดีใครเลวเขาไม่รู้ แต่กรณีการทำร้ายในรถไฟมีให้เห็นเนืองๆ ในข่าวประจำวัน จะให้ปล่อยสาวน้อยมาคนเดียว เขาทำไม่ได้แน่ แม้ในโบกี้จะเปิดไฟตรงช่องทางเดินไว้ตลอดเวลา ส่วนตัวแล้วไม่คิดว่าต้องใส่ใจอะไรเด็กสาวมากมาย ทว่า...เวลานี้ เธออยู่ในความรับผิดชอบของเขา ก็ต้องดูแลให้ดีที่สุด
ฟ้าครามไม่ชอบวุ่นวายกับเด็ก แม้เด็กบางคนหน้าตาน่าคลุกวงในด้วยก็เถอะ
เฮ้อ...
อยากถึงบ้านเร็วๆ จะได้เอาตัวไปส่งให้บิดา ปลดระวางหน้าที่ผู้ดูแลตอนนี้เสียที
