บทที่ 11 -11-
ตอนที่ 11
"ก้มหน้าลงไปครับ"
"เงียบ!!"
"ไม่เคยพูดกันหรือไง"
"เล่นกันดีจริง"
"สนุกกันพอหรือยังครับ"
เงียบ ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจเข้าออกของเด็กปีหนึ่งอย่างพวกฉัน นี่มันก็เพราะว่าเข้าสู่อาทิตย์ที่สองของการรับน้องแล้ว แต่พวกฉันยังไม่ได้ทำหน้าที่ ยังไม่ได้ฝึกซ้อม และเพื่อนในรุ่นก็ยังไม่ได้ทำพรอบทำฉากเลย คือตั้งแต่วันสุดท้ายที่พวกฉันพบเจ๊ริชชี่ รุ่นพี่ก็ปล่อยพวกฉันตามอัธยาศัย มีเรียกเข้าเชียร์บ้าง แต่หนักเลยคือพวกเราร้องเพลงเชียร์ไม่ได้ พวกพี่ว้ากเลยโกรธ
"รุ่นพี่พูดอะไรด้วยไม่เคยได้ ว่าไม่ได้ แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้ จะเอารุ่นกันไหมครับ" ขนาดพี่เหนือยังมาทำนองนี้ แล้วอีตาพี่ทอร์นาโดของฉันล่ะ นู่นยืนหน้าถมึงทึงอยู่นู่น เขายังไม่พูดอะไรสักนิดเลยวันนี้ มันแปลก
"จะเอายังไง" พูดแล้วพี่ทอร์นาโดของฉันพูดแล้ว แต่เสียงนิ่งไปนะ แบบนี้ไม่ดี
"พวกเราขอโอกาสแก้ตัวอีกครั้งครับ" แดน ตัวแทนประธานรุ่นพูดขึ้น
"เราเหรอ ขนาดเพื่อนคุณบางคน ยังไม่สามารถทำตามคำสั่งของผมได้เลย แล้วพวกคุณจะทำได้เหรอ" สะดุ้งเลย นี่มันว่าฉันชัด ๆ
"ทำได้ค่ะ" และความอดทนฉันก็จบลง ฉันไม่สามารถทนให้เพื่อนโดนด่าแทนได้หรอก
"หึ ได้ ไหนล่ะ ผ่านมาสองอาทิตย์แล้ว ผมไม่เห็นคุณจะทำอะไรเลย"
"...”
"ความสามารถมีไหมครับ หรือดีแต่โม้"
"...”
"ถ้าคุณทำไม่ได้ คุณก็ไม่ควรซ่าตั้งแต่แรก เพราะมันทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน"
"...”
"คุณดู คุณจำคำสั่งผมได้ไหมคุณน้ำมนต์ ผมบอกคุณว่าอะไร ให้คุณตามล่าชื่อของผมกับผม ให้ผมเป็นคนบอกคุณเอง คุณและรุ่นของคุณถึงจะผ่านการทดสอบว่าสมควรเป็นน้องพวกผม"
"...”
"แล้วยังไง ผ่านมาสองอาทิตย์คุณเคยคิดจะทำอะไรบ้างไหม ผมตอบแทนเลยว่าไม่ เพราะอะไรคุณรู้ไหม เพราะว่าคุณคิดว่าคำสั่งของผมมันไร้สาระ บ้าอำนาจ ดีแต่สั่ง ๆ ๆ เสียเวลา ขนาดคำสั่งที่ดูงี่เง่าแค่นี้ คุณยังทำมันไม่ได้ ถ้าคุณเจออะไรที่มันหนักกว่านี้คุณจะทำได้ไหมครับ"
"...”
"พอด่าก็ว่า เก็บไปนินทาดรามา ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ควรอวดเก่ง คนเป็นร้อยต้องมาเดือดร้อนเพราะคนไร้ความรับผิดชอบเพียงคนเดียว"
"...”
"พอละ ถ้ามีสมองก็คิดดู เลิกเชียร์"
ฉันไม่ได้ตอบอะไรเลย มันทำอะไรไม่ถูก ฉันได้แต่ยืนตัวสั่นสกัดกั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา ฉันทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่อึ้ง เหมือนกับว่าเราโดนประจาน ทั้งโกรธทั้งอาย แต่ที่พี่มันพูดมา มันก็มีส่วนถูก ถ้าฉันทำให้เขาพูดชื่อออกมาไม่ได้ ปีของฉันก็จะไม่ได้รุ่น ไอ้บริหารน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่วิศวะนี่สิ ปัญหาใหญ่เลยหากไม่ได้รับรุ่น
"น้ำมนต์ ไม่เป็นไร ไม่ใช่ความผิดแก"
"ไม่เป็นไรนะน้ำมนต์"
"สู้ ๆ นะแก" เสียงเพื่อน ๆ ทั้งวิศวะและบริหารต่างเข้ามาให้กำลังใจฉัน แต่ฉันทำได้แค่ยืนนิ่ง ๆ เท่านั้น มันคิดอะไรไม่ออก
หมับ
ฉันรู้สึกถึงอ้อมกอดของคนสามคนที่กอดฉัน จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่เพื่อนรักทั้งสามคน พวกมันกอดฉันเหมือนลักษณะวงกลม โดยให้ฉันอยู่ตรงกลาง พอพวกมันทำอย่างนี้ น้ำตาที่กลั้นไว้ ก็ถึงกับพังลงมา
"ฮึ ฮึก ฮึก ฮืออออ"
ฉันกดกลั้นเสียงร้องต่อไปไม่ไหว เมื่อไหร่ที่ใครคนใดคนหนึ่งรู้สึกอ่อนแอ พวกฉันจะทำแบบนี้เสมอ เหมือนกำแพงที่คอยโอบอุ้มความรู้สึกของกันและกันไว้ไม่ให้ถูกทำลาย หรือกักกั้นสิ่งไม่ดีไม่ให้เข้ามาทำร้ายใครได้นั่นเอง
"ฮึก ไม่เป็นไรนะแก" พิ้งค์
"ฮึก ไม่เป็นไรน้า แกมีพวกฉันอยู่นะ" หวาน
"ฮึก ไม่เป็นไรนะแก เราจะอยู่ข้าง ๆ กันนะ" ทิพย์ เพื่อนรักทั้งสามต่างร้องไห้และให้กำลังใจพร้อมกัน พวกฉันก็เป็นแบบนี้แหละ หากใครคนใดคนนึงต้งเจ็บอีกสามคนก็จะเจ็บตามไปด้วย
ฮึบ
"อึก ขอบใจพวกแกน้า แต่ไม่ต้องร้องแล้ว ฉันโอเค นี่มนต์นะ" ฉันพูดติดตลก ซึ่งพวกเราก็พากันหัวเราะออกมา
"ต้องอย่างนี้สิ ถึงจะเป็นแก" ยัยทิพย์พูด ฉันมองพวกมันยิ้ม ๆ
"คอยดูนะ ฉันจะทำให้ไอ้พายุทอร์นาโดนั่นกลืนน้ำลายตัวเอง ที่มาว่าฉันให้ได้เลยคอยดู ฉันจะทำให้นายนั่นเห็นว่าฉันไม่ใช่คนที่ไร้ความรับผิดชอบ ฉันจะทำให้เห็นว่าฉันนี่แหละ คือน้ำมนต์คนจริง" ใช่ ฉันตั้งใจอย่างที่พูดออกไปแน่วแน่ นายจะต้องคิดผิดที่มาดูถูกคนอย่างฉัน นายทอร์นาโด
