บทที่ 9 บทที่ 9 ความรู้สึกที่สับสน

อวิ๋นซีเฉินรู้สึกกระวนกระวายเป็นอย่างมาก ความรู้สึกของเขาในตอนนี้มันมีทั้งความสับสนและกังวลอยู่ในคราเดียวกัน

เขามิได้ชื่นชอบสวีเหลียนฮวา แต่ทว่าเขาเองกลับไม่ได้โหยหาที่จะพบเจอกับสวีหลานฮวาเหมือนเช่นแต่ก่อน

นี่มันเกิดสิ่งใดขึ้นกับเขากันแน่!!!

อวิ๋นซีเฉินครุ่นคิดเท่าใดก็คิดไม่ออก เขาจึงจัดการเปลี่ยนฉลองพระองค์ใหม่และไปประชุมเช้าที่ท้องพระโรงทันที

เหล่าขุนนางต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยเขาด้วยความร้อนรน แต่ไหนแต่ไรมาฮ่องเต้พระองค์นี้ก็ทรงชอบทำตามใจตนเองอีกทั้งเจ้าอารมณ์มาแต่ไหนแต่ไร

"ฝ่าบาทเสด็จ!!!"

"ถวายพระพรฝ่าบาท!!!"

อวิ๋นซีเฉินพยักหน้าเพียงเล็กน้อย ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่บัลลังก์มังกรอย่างสง่างาม เขายื่นมือไปหยิบฎีกาบนโต๊ะมาอ่านอย่างไม่รีบไม่ร้อน ต้าเทียนในยามนี้ ไม่มีฎีการ้องเรียนเหล่าขุนนางจากราษฎรเท่าใดนัก ตั้งแต่เขาขึ้นครองบัลลังก์มังกร ก็ตัดรากถอนโคนเหล่าขุนนางที่คิดคดโกงกินบ้านเมืองออกไปหลายคน ต้าเทียนจึงอยู่อย่างสงบตั้งแต่เขาได้เป็นฮ่องเต้

"ทูลฝ่าบาท เหล่าขุนนางลงความเห็นกันว่า การล่าสัตว์ที่หางโจวในปีนี้ ควรจะเลื่อนออกไปก่อนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?"

"เหตุใดจึงต้องเลื่อน?"

"ทูลฝ่าบาท เหล่าราษฎรต่างรอเชยชมพระโอรสนะพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ทรงอภิเษกฮองเฮาแล้ว อีกทั้งยังมีสนมอีกนับไม่ถ้วน..."

"หุบปาก!!! ก่อนที่ข้าจะเดินลงไปถีบปากชราของเจ้า ข้าจะมีพระโอรสหรือไม่มีมันหนักส่วนไหนของพวกเจ้ากัน!!! เอาเวลาไปดูแลงานบ้านเมืองให้ดี อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ว่าพวกเจ้าซื้อสตรีแรกรุ่นมาเป็นอนุในจวน!!! อย่ามายุยงให้ข้าทำเช่นเดียวกับพวกเจ้า!!!"

"ขออภัยฝ่าบาท กระหม่อมมิกล้าแล้ว!!!'

"หึ!!! รู้ตัวก็ดี ล่าสัตว์ที่หางโจวปีนี้ยังคงกำหนดการเดิมไม่เปลี่ยนแปลง! จบการประชุม"

เขาเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะสะบัดชายเสื้อเดินออกไปทันที อวิ๋นซีเฉินเดินตรงไปที่สระบัวขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่กลางวังหลวง ดวงตาคมทอดมองไปที่ดอกเหลียนฮวาที่กำลังบานสะพรั่งด้วยแววตาที่ล้ำลึก

ที่เขาสั่งคนปลูกดอกเหลียนฮวาเอาไว้มากมายก็เพราะว่าเสด็จแม่ทรงชอบมันเป็นอย่างมาก

เขายังจำได้เป็นอย่างดี เมื่อเขายังเด็ก เสด็จแม่ทรงเป็นสตรีที่งดงาม อ่อนโยนอีกทั้งยังเก่งกาจมากอีกด้วย ทรงออกรบร่วมกับเสด็จพ่ออย่างกล้าหาญ แต่ทว่าเสด็จแม่กลับต้องมาตกตายเพราะถูกสนมเอกของเสด็จพ่อวางยาพิษ

เขาสู้อดทนค้นหาความจริงมาโดยตลอด จนสืบพบว่า เฉินกุ้ยเฟย สนมเอกของเสด็จพ่อวางยาเสด็จแม่ของเขา เมื่อหลักฐานมัดตัวจนดิ้นไม่หลุด เฉินกุ้ยเฟยจึงคิดหลบหนี เขาในยามนั้นมีอายุยี่สิบปี กำลังขึ้นครองราชย์ในปีแรก ความคับแค้นในใจนั้นมากมายยิ่งนัก เสด็จพ่อมิทรงลงโทษนาง เขาจึงจัดการสังหารนางด้วยมือของเขาเอง และสั่งประหารคนตระกูลเฉินจนตกตายไปหมดสิ้น

ความอดทนอดกลั้นในใจครั้งนั้น ทำให้เขากลายเป็นคนเจ้าอารมณ์และโมโหร้าย เขาเองรู้ตัวดีมาโดยตลอด

แต่หากเขาใจดีมากเกินไป ก็จะทำให้เหล่าคนชั่วคิดเอาเปรียบเขา!

ช่างเถิด!!! ใครสนกัน

"ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ"

อวิ๋นซีเฉินที่กำลังคิดสิ่งใดไปเรื่อยเปื่อย พลันได้ยินเสียงหวานกังวานใสดังขึ้นที่ด้านหลัง ก่อนจะหันไปพบกับจิ้งกุ้ยเฟย หนึ่งในชายาทั้งสี่ของเขาที่กำลังเดินเข้ามาหาเขา วันนี้นางสวมชุดสีเขียว ปักลายไม้ไผ่ดูสบายตา ใบหน้าสวยหยาดเยิ้มจ้องมองเขาด้วยความหลงใหล

อวิ๋นซีเฉินปรายตามองนางอย่างไม่ใส่ใจ นางเป็นสนมที่ถูกคัดเลือกเข้าวังหลวงมา เขาเคยไปนั่งเล่นที่ตำหนักของนางครั้งหนึ่ง นางมักจะส่งสายตายั่วยวนมาให้เขาเสมอ ด้วยความรำคาญเขาจึงเดินหนีนางออกมาเสีย

"เจ้ามาเดินเล่นหรือ?"

"เพคะ บังเอิญยิ่งนักที่ได้พบกับฝ่าบาท"

จิ้งกุ้ยเฟยเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อน ใบหน้าสวยแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย อวิ๋นซีเฉินส่งเสียงเฮอะคราหนึ่ง เขาเติบโตมาในวังย่อมคุ้นชินกับท่าทีเช่นนี้ของนางสนม

"ไม่มีเรื่องใดบังเอิญหรอก เจ้าจงใจตามข้ามา"

"ฝ่าบาท!!! มิใช่นะเพคะ หม่อมฉัน เอ่อ ก็ได้เพคะ หม่อมฉันเห็นใบหน้าหล่อเหลาของฝ่าบาท จึงตามมาเพคะ"

อวิ๋นซีเฉินพยักหน้าพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย เฮ้อ!!! น่าเบื่อเสียจริง เกิดมารูปงามช่างวางตัวลำบากยิ่งนัก

"เช่นนั้นเจ้าก็ชมดอกเหลียนฮวาต่อเถิด ข้าจะไปแล้ว"

"ฝ่าบาท!!! หม่อมฉันอยากให้ฝ่าบาททรงอยู่เป็นเพื่อนเพคะ"

"เช่นนั้นหรือ?"

"เพคะ"

"ถ้าอย่างนั้นข้ามีสองทางให้เจ้าเลือก เจ้าจะยืนชมดอกเหลียนฮวาอยู่บนศาลาดีดี หรือจะให้ข้าถีบเจ้ากระเด็นลงไปในสระน้ำนั่น?"

จิ้งกุ้ยเฟย "..."

"ตอบ!!!'

"หม่อมฉันรู้สึกหน้ามืดเพคะ ขอทูลลาเพคะ!!!"

จิ้งกุ้ยเฟยรีบลนลานเดินหนีออกไปทันที อวิ๋นซีเฉินที่เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก

ไปเสียได้ก็ดีน่ารำคาญยิ่งนัก!!!

ยังมีอีกคนที่เขายังไม่ได้กลับไปสะสาง!!!

สวีเหลียนฮวา!!!

สวีเหลียนฮวาเพิ่งจะอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์เสร็จเรียบร้อย ในใจครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนระหว่างนางกับเขา นางไม่รู้ตัวเลยจริง ๆ นางจำไม่ได้

สวีเหลียนฮวารู้สึกปวดร้าวระบมที่หว่างขาของตนเองยิ่งนัก ยามนี้นางให้เหล่านางกำนัลออกไปจนหมดเพราะต้องการพักผ่อน นางทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง ก่อนจะนั่งพิงหัวเตียงและอ้าขาออกจนกว้าง มือสวยยื่นไปลูบคลำกลีบกุหลาบสวยที่ยามนี้บวมแดงและระบมเป็นอย่างมาก

คนบ้า!!! เขาทำนางรุนแรงถึงเพียงนี้เชียวหรือ!!!

อวิ๋นซีเฉินมุ่งหน้ามาที่ตำหนักเฟิ่งหวงทันที เขายังคงทำเช่นเดิมมิให้ขันทีที่เฝ้าอยู่หน้าตำหนักรายงานนาง อวิ๋นซีเฉินยกยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาอยากให้นางอับอาย เผื่อว่าตอนเปิดประตูเข้าไปนางกำลังเมาสุรา จะได้อับอายเหล่านางกำนัลขันทีมากกว่าเดิม

ฮองเฮาขี้เมาใช้ได้ที่ไหนกัน!!!

เมื่อคิดได้เช่นนั้นอวิ๋นซีเฉินจึงเปิดประตูเข้าไปทันที เป็นจังหวะที่สวีเหลียนฮวาเงยหน้าขึ้นมามองเขา แต่ทว่ามือของนางกำลังอ้าขาแหวกกลีบบุปผางามอยู่

อวิ๋นซีเฉิน "..."

"ว้าย!!! ฝ่าบาท!!!'

สวีเหลียนฮวาตกใจเป็นอย่างมาก ด้านอวิ๋นซีเฉินรีบเดินเข้ามาในตำหนักและปิดประตูที่ด้านหน้าตำหนักทันที ด้วยกลัวว่าจะมีคนมาพบเห็นนางเข้า ใจของเขาเต้นถี่ระรัว ใบหน้าหล่อเหลาแดงซ่านอย่างห้ามไม่อยู่

บัดซบ!!! ใหญ่เสียจริง ใหญ่ทั้งนมใหญ่ทั้ง...

"จะเข้ามาเหตุใดจึงไม่แจ้งก่อนเล่าเพคะ!!!'

"ข้าต้องแจ้งเจ้าหรือ!!!"

เขาหันมามองนางอีกครา ก็พบว่านางหุบขากลับไปเสียแล้ว

มารดามันเถอะ!!! ข้ายังดูไม่เต็มตาเลย!!!

หึ!!! ใครอยากเห็นของนางกัน

"เหลียนฮวา เจ้าควรสำรวมกิริยา!!! มิใช่ทำเช่นนี้ เกิดมีคนมาพบเห็นเข้าจะทำเช่นไร!!!"

"ไม่มีใครมาเห็นหรอกเพคะ มีแต่พระองค์นั่นละ!!!"

"หึ!!! อย่าคิดว่าได้ตัวข้าไปครั้งเดียวแล้วจะพูดอะไรก็ได้!!!"

"เฮอะ!!! เสียตัวครั้งเดียว พูดย้ำอยู่ได้!!! หม่อมฉันก็บอกแล้วว่าหม่อมฉันไม่สน!!! หม่อมฉันไม่รู้ตัว ทรงลืม ๆ ไปเถิดเพคะ คิดซะว่าเราหายกัน!!!"

"ไม่!!! นั่นมันครั้งแรกของข้า อุ๊บ!!!"

อวิ๋นซีเฉินยกมือขึ้นปิดปากตนเองพลางมองนางตาขวาง สวีเหลียนฮวาที่เพิ่งจำได้ว่านางเป็นคนกระชากพรหมจรรย์ของเขา ใบหน้าสวยก็พลันแดงระเรื่อขึ้นมาทันที

ถึงว่าสิชักแล้วฝืด!!! ยังบริสุทธิ์อยู่นี่เอง!

ไม่สิ!!!

"เรื่องนี้ข้าจะมาจัดการเจ้าทีหลัง!!! ข้าจะมาบอกเจ้าว่าอีกสามวันข้าจะไปล่าสัตว์ที่หางโจว เจ้าจงอยู่ดูแลวังหลวงให้ดี!!!"

สวีเหลียนฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก นางอยากไปกับเขาด้วย นางชื่นชอบการท่องป่าเป็นที่สุด

"ให้หม่อมฉันไปด้วยนะเพคะ"

"ไม่ได้!!!"

"นะเพคะฝ่าบาท!!!"

สวีเหลียนฮวาเดินเข้าไปจับแขนเขาพลางส่งสายตาเว้าวอน หน้าอกอวบอิ่มของนางบดเบียดเสียดสีท่อนแขนแกร่งของเขา จนอวิ๋นซีเฉินรู้สึกร้อนวูบวาบ

ทำเช่นไรดี!!! มันแข็งอีกแล้ว!!!

"ฝ่าบาท"

"จะไปก็ไป หากไปแล้วเป็นภาระข้า ข้าจะฆ่าเจ้า!!!"

"ไม่เป็นภาระแน่นอนเพคะ!!!"

"ถอยไป!!! เอ่อ หน้าอก เอ่อ...หน้าอกเจ้าถูแขนข้า!!!"

สวีเหลียนฮวาที่เพิ่งนึกขึ้นได้ จึงรีบผละออกจากกายเขาทันที อวิ๋นซีเฉินรู้สึกทำสิ่งใดไม่ถูก มือไม้ของเขาลนลานไปหมด

"ข้าไปละ"

"เพคะ"

อวิ๋นซีเฉินพยักหน้าแบบส่ง ๆ ก่อนจะรีบกลับไปที่ตำหนักมังกรสวรรค์อย่างรวดเร็ว

บัดซบ!!! ต้องรีบกลับไปชักที่ตำหนัก ข้าไม่ไหวแล้ว!!!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป