บทที่ 8 ตอนที่ 8
ทุกจังหวะเอี้ยวกายขยี้ผ้าอ้อมในกะละมังของมาลีทำให้เต้านมอวบใหญ่ของแม่ลูกอ่อนส่ายสั่นเหวี่ยงไหวอยู่ภายใต้เสื้อคอกระเช้าบางๆ
คนที่แอบมองอยู่ถึงกับเผลอร้องครางซี้ดดด แอบกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอเสียงดังเอื๊อกครั้งแล้วครั้งเล่า มือข้างหนึ่งรูดท่อนเอ็นของตัวเอง ขณะสายตาเล็งลอดรูรั่วของรั้วสังกะสีเข้ามายังบริเวณซักล้างหลังห้องเช่าที่แม่ลูกอ่อนกำลังก้มๆ เงยๆ ซักผ้า
มาลีไมรู้ว่าตัวเองกำลังโดนแอบมอง หล่อนวางวิทยุทรานซิสเตอร์เครื่องน้อยเอาไว้ข้างกะละมังซักผ้า กำลังเปิดฟังข่าวเช้ารับอรุณอยู่พอดี
มาลีเฝ้าติดตามข่าวการสู้รบที่ประเทศลิเบียทุกวันด้วยใจจดจ่อ เป็นห่วงผัวของหล่อนที่เงียบหายไปพร้อมกับข่าวสู้รบที่เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
มาลีเอาแต่ภาวนาขอให้การสู้รบยุติลงโดยเร็วทีเถอะ ข่าวล่าสุดที่รู้มาว่าไซต์คนงานไทยโดนปืนใหญ่ถล่มยับ ก็ถึงกับทำให้แม่ลูกอ่อนห่างผัวอย่างหล่อนไม่เป็นอันกินอันนอนกันเลยทีเดียว
“มาลี... ทำอะไรจ๊ะ”
ลุงทองชะโงกใบหน้าทักทายข้ามรั้วสังกะสีมายังแม่ลูกอ่อนสุดเซ็กซี่ที่กำลังก้มๆ เงยๆ ขยี้ผ้าจนนมสองเต้าเต่งตึงกระเพื่อมส่าย สายตากระหายของอีตาเฒ่าจอมหื่นจับจ้องมองทรวงอกอวบใหญ่ของมาลีไม่วางตา
“ลุงทอง”
มาลีตกใจจนหน้าซีด ครั้นแล้วสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นไม่พอใจ เมื่อนึกถึงสิ่งที่ลุงทองเพิ่งกระทำไว้กับหล่อนเมื่อคืนที่ผ่านมา
“ทำไมเอ็งต้องหลบตาลุง”
ลุงทองถามทั้งที่รู้ ความกระดากอายทำให้มาลีหลบสายตาวูบเพราะมองหน้ากันไม่ติด หล่อนเลี่ยงที่จะสบตากับเขาตรงๆ แต่ลุงทองยังไม่ละความพยายามที่จะสานสัมพันธ์สวาทกับหล่อนอีกสักครั้ง
ลุงทองกำลังหาโอกาสที่จะมอบความเป็นผัวให้มาลีอีกสักหน ก่อนที่ป้ายุพาเมียแกจะเดินทางกลับมาจากต่างจังหวัดเสียก่อน
“ลุงเข้าไปหาเอ็งนะ”
ลุงทองโยนหินถามทาง ทว่าครั้งนี้ไม่ง่ายเสียแล้ว
“อย่ามายุ่งกับฉัน”
มาลีส่ายหน้า คว้าผ้าขนหนูขึ้นมาคลุมไหล่ ปิดอำพรางเต้านมอวบใหญ่แล้วรีบปิดประตูปึงปังหนีกลับเข้ามาในห้องของตัวเอง
“โธ่... อีห่า... นึกว่าวันนี้จะได้อีกสักดอก”
ลุงทองสบถออกมาด้วยน้ำเสียงผิดหวังอย่างแรง เมื่อทุกอย่างไม่ง่ายอย่างที่แกนึกเอาไว้
ความโกรธและความอยากเป็นผัวของแม่ลูกอ่อนคนนี้ทำให้เฒ่ามากราคะกัดกรามกรอด พึมพำออกมาเสียงดังว่า “ยังไงวันนี้กูจะล่อมึงให้ได้... คอยดู”
มาลีรีบล็อคประตูห้องโดยพลัน ในตอนที่ไม่ได้อยู่ในอารมณ์เสียวกระสันก็นึกเกลียดลุงทองจนไม่อยากเห็นหน้าผู้ชายคนนี้
และในตอนที่เดินกลับเข้ามาในห้อง จู่ๆ หูของมาลีก็พลันได้ยินเสียงรถวิ่งมาจอดที่หน้าบ้าน
ครั้นเมื่อหล่อนเปิดประตูออกมาชะโงกหน้ามอง มาลีก็ดีใจจนแทบช็อค เมื่อเห็นว่าคนที่กำลังก้าวลงมาจากรถแท็กซี่สีเขียวเหลืองก็คือไอ้บุญล้อมผู้เป็นสามีของหล่อนนั่นเอง
“พี่ล้อม... พี่จริงๆ ด้วย... พี่ล้อมกลับมาแล้ว”
มาลีร้องตะโกนด้วยความดีใจ รีบโผเข้ากอดร่างสูงโปร่งของสามี
“มาลี... พี่คิดถึงเอ็งเหลือเกิน”
บุญล้อมยิ้มร่า อ้าวงแขนโอบกอดร่างของเมียรักเอาไว้แน่ มาลีสังเกตเห็นว่ารูปร่างของสามีดูซูบผอมลงไปมาก หลังจากไม่ได้เจอหน้ากันนานเป็นปี
“พี่จะกลับทำไมไม่บอกฉัน”
มาลีถามเสียงสั่น รู้สึกดีใจและโมโหไปพร้อมๆ กัน โทษฐานที่สามีเงียบหายไปนานเป็นเดือน
แต่สาเหตุที่บุญล้อมไม่บอกมาลีก็เพราะว่าอยากเห็นเมียรักดีใจ และอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้การติดต่อกันขาดหายไปช่วงหนึ่งก็เพราะว่าแคมป์งานถูกถล่มจนระบบการสื่อสารล่ม เป็นเหตุให้การจ้างงานสิ้นสุดลง คนงานนั่งกอดเข่าจับเจ่ากันอย่างสิ้นหวัง ตั้งตารอวันที่จะได้กลับบ้าน แต่บุญล้อมโชคร้ายกว่าคนอื่นๆ
“พี่อยากเซอร์ไพรส์เอ็ง”
บุญล้อมกล่าวเสียงเครือแล้วเดินกลับไปควักเงินจ่ายค่ารถแท็กซี่ รีบลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่พร้อมกับจูงมือมาลีเข้ามาในห้องเช่า
“นี่พี่ล้อมนั่งแท็กซี่มาจากสนามบินเลยหรือจ๊ะ?”
มาลีสงสัย
“ใช่... ก็พี่คิดถึงเอ็ง คิดถึงไอ้แดงใจจะขาด... ไอ้แดงลูกพี่อยู่ไหน”
บุญล้อมถามหาลูก กวาดสายตามองหาลูกชายในทันทีที่เข้ามาอยู่ในห้องเช่าแคบๆ จากนั้นก็ตรงเข้าคว้าร่างจ้ำม่ำของลูกชายที่นอนลืมตาแป๋วอยู่ในเปลขึ้นมากอดจูบด้วยความคิดถึงแทบขาดใจ
“ไอ้แดงลูกพ่อ”
บุญล้อมอุ้มลูก จูบลูกน้ำตาคลอ กอดลูกเอาไว้ในอ้อมแขน รู้สึกตื่นเต้นที่เห็นลูกชายเติบโตขึ้นมาก
เพราะว่าภาพสุดท้ายที่ยังติดตรึงอยู่ในความทรงจำของบุญล้อมก็คือลูกชายตอนที่ยังเป็นทารกแรกคลอด แต่ความจำเป็นก็ทำให้คนเป็นพ่อต้องทิ้งลูกเมียเอาไว้ข้างหลัง ตัดสินใจบากหน้าเดินทางไปทำงานที่ประเทศลิเบีย ทั้งที่ไอ้แดงเพิ่งมีอายุได้เดือนเดียวเท่านั้นเอง
