บทที่ 6 ตอนที่ 6
“งั้นก็ขอให้คุณเดินสะดุดเงินหกล้มก็แล้วกัน”
“ผมยินดีหกล้มครับ หากได้ล้มลงไปบนกองเงินกองทอง”
ไอ้ผู้ชายตรงหน้าไม่มีความสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย หล่อนกัดฟันแน่นด้วยความโมโห คิดคำด่าไม่ออกเลยทีเดียว
“อ้อ แล้วผมก็อยากจะบอกเอาไว้นะครับว่า คุณไม่ควรจะมาวิ่งหาทนายความอย่างนี้หรอก เพราะสิ่งที่คุณควรทำก็คือเฝ้ามองเด็กคนนั้นไม่ให้คลาดสายตาต่างหาก”
หน้าตาของมะลิซีดเผือด “คุณ... หมายความว่ายังไงคะ นี่บอกมานะว่าหมายความว่ายังไง”
คู่สนทนาหน้าเงินส่ายหน้าไปมาและหัวเราะ “เชิญออกไปจากออฟฟิศของผมได้แล้วครับ เชิญ...”
มะลิจำต้องเดินออกมาจากมาจากออฟฟิศนั่นอย่างไม่มีทางเลือก ในหัวเต็มไปด้วยความสับสนและหวาดกลัว
“ทำไมเขาพูดแบบนั้น... หรือว่า...”
สันหลังของมะลิเย็นวาบ เมื่อสมองร้องบอกว่าอาจจะมีการลักพาตัวฮัสซันเกิดขึ้น สองเท้าของหล่อนรีบวิ่งตรงไปยังวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
“ไปไหนครับ”
“ไปโรงเรียนอนุบาลร่มเกล้าค่ะ เร็วด้วยค่ะพี่”
หัวใจของหล่อนเต้นแรงระรัว ความห่วงใยที่มีต่อฮัสซันระเบิดในอกอย่างรุนแรง ทำไมหล่อนถึงมองข้ามการลักพาตัวไปได้ เจ้าชายทะเลทรายคนนั้นท่าทางดิบเถื่อน แน่นอนว่าเขาคงจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ฮัสซันกลับประเทศ ทำไมหล่อนโง่แบบนี้นะ ทำไมถึงเพิ่งมาคิดออก
“พี่คะ... ขับเร็วอีกหน่อยได้ไหมคะ”
“ไม่ได้แล้วน้อง เดี๋ยวตำรวจจับ”
“แต่หนูรีบ... มากค่ะ...”
“โอเคๆ”
คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างตอบรับอย่างไม่อยากจะขัดใจ และความเร็วของยานพาหนะที่โดยสารอยู่ก็เร็วขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง แต่กระนั้นก็ยังไม่ทันใจของหล่อนอยู่ดี
หล่อนภาวนา... ภาวนาให้เจ้าชายแห่งทะเลทรายคนนั้นไม่ทำอย่างที่หล่อนหวาดกลัว
มะลิรีบกระโจนลงจากรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และรีบจ่ายเงินค่าโดยสารมือไม้สั่น
“ไม่ต้องทอนค่ะพี่”
หล่อนตะโกนกลับไปบอก ขณะซอยเท้าตรงไปยังบริเวณรั้วโรงเรียนอนุบาล
“มารับลูกเหรอครับ”
พนักงานรักษาความปลอดภัยเอ่ยถาม เพราะจำหน้าหล่อนได้ เนื่องจากหล่อนเจอพนักงานรักษาความปลอดภัยคนนี้ทุกเช้าตอนที่มาส่งฮัสซัน
“เอ่อ ค่ะ” หล่อนพยักหน้าซีดๆ รับ ก่อนจะรีบถามต่อ “ลุงคะ ไม่ทราบว่ามีผู้ชายแปลกหน้า แต่งตัวแปลกๆ มาที่โรงเรียนบ้างไหมคะ”
คู่สนทนาตรงหน้าทำท่านึกเล็กน้อย ก่อนจะฉีกยิ้มและตอบในสิ่งที่หล่อนหวาดกลัวออกมา
“อ๋อ... มี เพิ่งเข้าไปเมื่อสักพักนี่เอง”
“ว่ายังไงนะคะ?”
สันหลังของมะลิเย็นเฉียบราวกับถูกนาบด้วยก้อนน้ำแข็ง โสตประสาทก็อื้ออึ้งด้วยความหวาดกลัว ไม่ได้การแล้ว หล่อนต้องรีบเข้าไป ก่อนที่เจ้าชายทะเลทรายบ้านั่นจะพาตัวฮัสซันออกนอกประเทศ
“หนู... ขอเข้าไปในโรงเรียนก่อนนะคะ”
“ได้สิ แต่ติดบัตรด้วย”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเอาบัตรสำหรับผู้เยี่ยมเยียนมาให้หล่อนติดที่เสื้อ จากนั้นก็เปิดรั้วให้หล่อนเดินเข้าไปภายใน
หล่อนวิ่ง... วิ่งหน้าตั้งไปยังอาคารเรียนของฮัสซัน และเมื่อมาถึงก็พบว่ามีผู้ชายผิวสีแทนหลายคน แต่ละคนใส่สูทสีดำ และสวมแว่นตาดำทั้งหมด
หัวใจของหล่อนตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อมองขึ้นไปที่หน้าห้องเรียนของฮัสซัน แล้วพบว่าครูไก่ ครูประจำชั้นของฮัสซันกำลังพูดคุยอยู่กับเจ้าชายทะเลทรายอย่างเซรีม
“ไม่ได้นะคะ ฉันไม่ยอม!”
หล่อนตะโกนลั่น และก็ทำให้ทุกคนหันมาจ้องมองที่หล่อนเป็นตาเดียวกัน
ครูไก่เห็นหล่อนก็ยิ้มกว้าง และเดินเข้ามาหา โดยมีเซรีมในชุดลำลองสุดเท่เดินตามมาด้วย
“นี่ไงคะ ผู้ปกครองของฮัสซันค่ะ”
ครูไก่พูดขึ้น ในขณะที่หล่อนจ้องหน้าเซรีมอย่างกับจะกินเลือดจะกินเนื้อ
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
หล่อนเค้นเสียงโมโหลอดไรฟันออกมา ก่อนจะถือวิสาสะคว้าแขนล่ำสันของชายหนุ่ม และออกแรงลากให้เดินตาม แต่เรือนร่างของเขาหนักอึ้ง
“เอามือสกปรกของเธอออกจากพระกรขององค์ชายเดี๋ยวนี้”
หนึ่งในผู้ชายสวมแว่นดำตะโกนก้อง น้ำเสียงดุดันและน่าหวาดกลัวมาก
“ช่างเถอะ อาซัน”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ผู้ชายเสียงดุดันถอยห่างออกไป ในขณะที่เซรีมหันไปกล่าวลากับครูไก่ ก่อนจะยอมให้หล่อนลากไปในที่ลับตาคน ซึ่งนั่นก็คือสวนเล็กๆ ที่ด้านหลังของโรงเรียนอนุบาล
“ปล่อยแขนฉันได้แล้ว”
คำเตือนของผู้ชายที่หล่อราวกับเทพบุตรทำให้หล่อนต้องรีบปล่อยมือจากแขนล่ำสันอย่างรวดเร็ว และเขากับหล่อนก็ประสานสายตากัน ซึ่งมันก็เกิดกระแสไฟฟ้าแรงสูงพุ่งเข้าใส่ร่างเหมือนเมื่อวานไม่มีผิด หัวใจของหล่อนเต้นแรงระรัว ตัวสั่นเทิ้มราวกับใบไม้ต้องลมพายุ หล่อนจ้องมองเขาราวกับคนปัญญาอ่อน มองบุรุษแดนทรายที่งดงามไปทุกสัดส่วนด้วยความลุ่มหลง นี่ถ้าเขาไม่กระแอมเตือนขึ้น หล่อนก็คงจะอ้าปากค้างมองอยู่อย่างนั้นอีกนาน
หน้าตาของหล่อนแดงก่ำ ร้อนผ่าวไปทั้งตัว เกลียดที่ตัวเองต้านทานเสน่ห์ของผู้ชายคนนี้ได้ยากเย็นนัก ทั้งๆ ที่เขาร้ายกาจ ใช่... เขาร้ายกาจมากที่คิดจะลักพาตัวฮัสซันไปจากหล่อน
“คุณทำอย่างนี้ได้ยังไง ไอ้เจ้าชายบ้า!”
เขาหรี่ตามองหล่อน ดวงตาสีทองเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“ระวังคำพูดหน่อย”
“ทำไมฉันต้องระวังด้วย ในเมื่อคุณ... กำลังใช้วิธีสกปรกเพื่อเอาชนะฉันอยู่”
คิ้วเข้มที่หนาดกจนน่ามองเลิกสูง เครื่องหมายคำถามเกิดขึ้นบนใบหน้าของเขาไม่น้อย
“เธอพูดบ้าอะไร”
“อย่ามาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หน่อยเลย”
“ก็ฉันไม่รู้จริงๆ นี่ ไหนบอกมาซิ”
น้ำเสียงของเขาดุดัน และตวัดตามองมาที่หล่อนเขม็ง ทำไมนะ ทำไมหล่อนจะต้องมองว่าดวงตาของเขาสวยงามด้วย โอ้... ทำไมหัวใจถึงไม่รักดีแบบนี้นะ
