บทที่ 10 พิษไข้ หรือ พิษรัญจวน (2) จบตอน
“...”
“เพราะสีหน้าพี่ตอนนี้ แม่งเหมือนอยากให้ผมใส่เข้าไปจะตายอยู่แล้ว”
และ... ใช่ สีหน้าของฉันมันคงยั่วยวนขาลมาก เขาถึงได้ผงาดขึ้นถูไถกับกลีบเนื้อชื้นของฉันซะขนาดนั้น
เหงื่อของขาลหยดลงมาที่ริมฝีปากเป็นหยดเล็กๆ ฉันเผลอแลบลิ้นตวัดเลียมันเข้าไปในปากอย่างเร่าร้อน จนถูกร่างสูงใหญ่รวบข้อมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัวด้วยฝ่ามือใหญ่เพียงมือเดียว พร้อมกับริมฝีปากแห้งผากที่ต้องการน้ำจากกายของเราทั้งคู่จะตระโบมเข้าหากันอย่างดุเดือด
“อื้อออ” ฉันครางในลำคอเมื่อถูกดูดปลายลิ้นอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บระบม ขาลจูบจนได้ยินเสียงดังจ๊วบจ๊าบ เขาไม่อ่อนโยนเลย มืออีกข้างก็เคล้นหน้าอกอวบของฉันจนแทบกลายเป็นก้อนแป้งพิซซ่าแหลกเหลวในอุ้งมือก็ไม่ปาน
แต่ทว่า... มันกลับทำให้ฉันเสร็จคาท่อนที่ถูไถอยู่ด้านนอกไม่หยุด
รสชาติจากริมฝีปากของขาลปะปนไปด้วยกลิ่นบุหรี่ และกลิ่นยาสีฟันชาร์โคลมิ้นท์ในแบบของผู้ชายที่น่าหลงใหล แววตาของฉันพร่าเบลอ ในขณะที่ขาลจะรูดซิปลงแล้วหยัดกายขึ้นสูงรูดกางเกงยีนส์ออกอย่างเอาเรื่อง
ฉันผงกหัวไปดูเขาในจังหวะที่ขาลปลดบ็อกเซอร์ออกจนท่อนเนื้อที่ใหญ่โตดีดผึงออกมา เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นอวัยวะส่วนนั้นของผู้ชายจริงๆ ที่ไม่ใช่จากแค่ในคลิปโป๊ผู้ใหญ่ที่เฟ้นหาในยามว่าง
มันใหญ่ เป็นปล้องสีชมพูหม่น แข็งแรง และมีเส้นเลือดอยู่ตรงโคนอย่างน่าหวาดเสียว
ฉันกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกว่าริมฝีปากแห้งผากขาดน้ำมากกว่าเก่า มีความรู้สึกอยากกินน้ำที่พ่นออกมาจากอวัยวะส่วนนั้นจนแทบบ้า
คิดได้แบบนั้นก็หยัดกายลุกขึ้น ก้อนเนื้อหน้าอกล้นออกมาทับกับหน้าท้องที่แบนราบตามการขยับตัว ฉันค่อยๆ คลานไปตรงหน้าขาลที่ล้มตัวลงคุกเข่า พร้อมกับคุดคู้เป็นลูกแมวน้อยขนบลอนด์ชมพูอ่อนอยู่ตรงหน้าลึงค์ของเขา
“ขาล... พี่” ฉันเอื้อนเอ่ยไปด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แววตาฉ่ำเยิ้มจนน้องขาลรับรู้ได้ในทันที
“พี่กลัวอยู่ใช่มั้ยครับ”
“อื้อ”
“...”
“แต่พี่โม๊คให้ขาลได้นะ ถ้าขาลต้องการ” ฉันกระซิบชิดกับองคชาตที่ตั้งโด่ของเขา ความยาวของมันเท่าขวดเบียร์ได้เลย แถมยังขยายใหญ่พองโต ให้เปรียบเปรยก็คงคล้ายๆ ขนาดลำตัวของงูเหลือมล่ะมั้ง
“ผมรู้ว่าพี่ยังไม่พร้อม ทำตามที่พี่ต้องการเลยสิครับ” เขากระตุกหนวดเสือที่อยู่ในกายฉันให้เดือดพล่านด้วยประโยคนั้น ฉันเกลี่ยปอยผมยาวๆ มาทัดหู อ้าปากจนน้ำลายเยิ้มออกมาภายในอุ้งปาก ช้อนสายตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของขาลที่ดูตั้งใจมองฉันทุกอากัปกิริยา
พร้อมกับดูดท่อนเอ็นแข็งของเขาเข้าไปในปากได้แค่ปลายหัว แค่นั้นขาลก็กระตุกอย่างแรง
“... อึก!” เขากัดฟันแน่นในขณะที่ฉันรูดปลายลิ้นในอุ้งปากตวัดรัวที่ส่วนหัวตามที่เคยดูมา พร้อมกับผละปากออกมาแลบลิ้นเขี่ยรูปัสสาวะของขาลอย่างเอร็ดอร่อย โดยที่ไม่คิดจะรังเกียจรังงอนว่าตรงนั้นจะเป็นที่ที่เขาใช้ปลดทุกข์เลย
“จ๊วบ อื้มมม”
“... ทำไมโม๊คเก่งจังครับ” ขาลโพล่งขึ้นมาเสียงติดๆ ขัดๆ แต่กลับยั่วยวนให้ฉันอยากแกล้งน้องให้หนักขึ้นอีก ฉันดูดส่วนหัวเข้าไป พร้อมกับดูดเข้าไปอีกจนได้ครึ่งโคน แต่แค่นั้นก็แทบจะถึงคอหอยของฉันแล้ว ขนาดของขาลใหญ่และยาวมากจริงๆ
จนมารู้สึกตัวอีกทีตอนที่ท้ายทอยที่มีเส้นผมยาวสยายอยู่ถูกฝ่ามือใหญ่คว้าไว้ เขาใช้แรงผู้ชายดันท้ายทอยฉันแล้วกระแทกเอวสอบเข้าอุ้งปากจนท่อนลึงค์เข้าไปจนสุด และรู้สึกได้ว่ามันเลยคอหอยของฉันไปด้วยซ้ำ
และนั่นก็เป็นผลทำให้รู้สึกเหมือนจะอ้วกจนน้ำตาเล็ดออกมา แต่ขาลกลับไม่หยุดขยี้สะโพกกับปากของฉัน เขากระแทกเข้าออก และกระแทกสุดออกสุดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนฉันเกร็งและสั่นไปทั้งตัวเพราะหายใจไม่ออก
จนขาลแตกใส่ปากของฉัน น้ำรสชาติคาวขุ่นมากมายทะลักลงคอหอย และเพราะมันออกมาเยอะมาก บางส่วนถึงได้ตีตื้นขึ้นมา ขาลที่รู้สึกตัวว่ารุนแรงกับฉันเกินไปถึงได้ชักลำท่อนออกในจังหวะที่ฉันพ่นน้ำคาวนั่นออกมารดฝ่ามือตัวเองพอดิบพอดี น้ำมูกและน้ำตาไหลไม่หยุด สำลักน้ำคาวไอจนหน้าดำหน้าแดง
“อ่อก แค่กๆ!”
“พี่หมี่ ผมขอโทษ” ขาลพูดได้แต่คำว่าขอโทษอย่างเคย แต่เขากลับดูมีท่าทีพึงพอใจกับความทรมานของฉัน ส่วนฉันนี่สิหายใจแทบไม่ทัน น้ำขาวขุ่นของขาลเต็มฝ่ามือจนหยดลงที่นอนเป็นดวง ในขณะที่ฉันจะใช้มืออีกข้างที่ยังว่างปาดน้ำตาออก
“ขะ... ขาลคงไม่ได้กินยาเพิ่มขนาดมาใช่มั้ย” ฉันถามเขาเสียงสั่น เพราะขนาดของเขามันไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ นี่ขนาดอมยังทะลุเลยคอหอยไปขนาดนั้นจนฉันแทบสำลักตาย แล้วถ้าใส่เข้าไปในน้องสาว ฉันจะไม่เจ็บแย่เลยเหรอไง
“ไม่ครับ” เขาตอบหน้าตาย แล้วฉันก็ไอหนักกว่าเดิม
“พี่ว่า... ขาลต้องอดทนสักหน่อยแล้วล่ะ ถ้าจะใส่เข้าไป” สุดท้ายก็ต้องกลั้นใจพูดมันออกมาแม้ว่าตอนนี้จะแฉะเยิ้มแค่ไหนก็ตาม แต่ขนาดลำกายของขาลทำให้ฉันยังไม่กล้าพอที่จะไปถึงขั้นนั้น
“ผมรู้” เขากระตุกยิ้ม เหมือนจงใจจะล้อเลียนกันเลยนะ “แค่วันนี้ผมได้เห็นส่วนนั้นของพี่ แล้วได้ชิมมัน แค่นั้นผมก็พอใจแล้ว”
“...”
“จนกว่าพี่จะกล้ารับของของผม ผมจะใช้นิ้วขยายรูให้พี่แทนก็ได้นะ”
ฉันคิดว่าในตอนที่น้องขาลเล้าโลม ฉันต้องการตัวตนของขาลเข้ามานะ ก็เลยเผลอทำสีหน้าเย้าอารมณ์คนเหนือร่างแบบนั้น แต่เพราะครั้งแรกของฉันดันเป็นผู้ชายที่มีขนาด 60 อย่างขาล ก็เลยต้องกังวลเป็นพิเศษ
ไม่ใช่อะไรหรอก ฉันเป็นหมอแผนกสูตินารีเวทย์ เป็นหมอตรวจภายในสำหรับสตรีซะด้วยสิ ขนาดเท่านั้นอาจจะทำให้อวัยวะเพศฉีกขาดได้เลยนะ
สุดท้ายเพราะไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ แถมฉันก็เป็นไข้อยู่ด้วย ขาลเลยเข้าไปทำโจ๊กสำเร็จรูปที่มีอยู่ในตู้เก็บของในครัวให้ฉันทานแทน เขาบอกว่าเขาทำอาหารไม่เป็น แต่ถ้าแค่ต้มโจ๊กให้ผู้หญิงที่ชอบก็น่าจะทำได้สบายๆ
ฉันพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ จะพูดว่ายังไงดีล่ะ... ฉันก็ทำอาหารไม่เก่งเหมือนกัน แถมไม่ค่อยมีเวลาด้วย ในตู้ก็เลยมีแต่อาหารสำเร็จรูปเต็มไปหมด
ได้กลิ่นหอมของโจ๊กหมูสับในครัวใกล้ๆ ห้องนอน นั่นก็เพราะว่าขาลเปิดประตูอยู่ด้วยล่ะนะ
จนผ่านไปสิบห้าวินาทีเขาก็เข้ามาพร้อมกับถ้วยโจ๊กที่ควันฉุย ฉันเม้มริมฝีปากแน่นตอนที่ขาลวางโจ๊กลงบนโต๊ะแก้วข้างๆ เตียง พร้อมกับก้าวฉับๆ ไปเอายาจากกล่องใสที่ฉันเขียนว่าเป็นยาสำหรับแก้อะไรๆ จะได้หยิบใช้ง่ายเวลาฉุกเฉินมาพร้อมกับแก้วน้ำ
ใจเต้นเลยนะเนี่ย ปกติเขาก็ดูแลฉันดีอยู่นะ แต่ยิ่งมีความสัมพันธ์แบบนั้น ก็ยิ่งรู้สึกใจสั่นมากกว่าเดิม
“ผมต้องป้อนมั้ย?” เขาเลิกคิ้วถาม ฉันพยักหน้ารับเบาๆ นั่นก็เพราะอยากอ้อนที่ไม่สามารถเติมเต็มความต้องการให้ขาลได้ด้วยนั่นล่ะ หลังจากที่โม๊คให้เขาก็ดูเหมือนน้องขาลจะยังไม่พอใจ เขาหายเข้าไปในห้องน้ำเป็นครึ่งชั่วโมงเลย
เขาตักโจ๊กคำโต พร้อมกับเป่าให้ฉันที่นั่งยิ้มกริ่มอยู่บนเตียง ที่หน้าผากมีเจลล์ลดไข้แปะอยู่ด้วย ถึงจะบอกไปว่ามันไม่ช่วยอะไร แต่ขาลเขาไม่ฟังหรอก ฉันในตอนนี้เลยเหมือนเด็กที่อยู่ใต้ความดูแลของผู้ใหญ่ตัวเขื่องไปเลยล่ะ
แต่ขาลไม่ได้ป้อนโจ๊กเข้าปากฉันโดยตรง เขางับโจ๊กในช้อน แล้วรวบท้ายทอยฉันเข้ามาจูบเคล้าโจ๊กรสเค็มอย่างดูดดื่ม
“อื้มมม มันเลอะนะ” ฉันผละริมฝีปากออกมาพูดเสียงอ่อย ตัวเองในตอนนี้อ่อนแรงสุดๆ หนึ่งในนั้นก็คงเพราะพิษไข้ กับแรงสวาทที่น้องขาลมอบให้ก่อนหน้านั้นด้วย เขาเบิร์นซะจนฉันหมดเรี่ยวแรงเลย
“ผมมีคำถาม” แล้วอยู่ๆ ขาลที่ใช้นิ้วโป้งปาดเศษโจ๊กข้างแก้มฉันไปชิมก็โพล่งอะไรบางอย่างขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง “แฟนเก่าพี่เขาได้เข้ามายุ่มย่ามกับพี่รึเปล่า?”
ตอนแรกก็ใจสั่นกับการกระทำของขาล แต่พอเด็กน้อยพูดถึงที่สอง หัวใจของฉันก็ปวดหนึบ
“ก็... ไม่ถึงกับยุ่มย่ามหรอกค่ะ”
“...”
“เขาแค่มาขอความเข้าใจ แต่พี่คงไม่มีวันเข้าใจเขาหรอก” ฉันตอบไปตรงๆ เพราะคิดว่าไม่มีอะไรต้องปิดบังน้องขาลอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าส่วนลึกๆ ในใจฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทนแรงง้อของที่สองไปได้ถึงไหนเหมือนกัน เพราะกลัวก็เลยเอาขาลมาเป็นที่พึ่งพิงยังไงล่ะ “ที่สองสนใจแต่เรื่องงานมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ถึงกลับมาคืนดีก็คงไม่พ้นจะจบแบบเดิม”
“พี่รู้รึเปล่า” คนตัวโตโพล่งขึ้นมาทันทีเหมือนกับไม่อยากฟังฉันพูดต่อ “ถ้าผมเป็นเขา ถ้าผมได้คบกับพี่”
“...”
“แค่พี่พูดว่าคิดถึง ถึงผมจะเป็นจะตายยังไง ผมก็จะพุ่งไปหาพี่”
“...”
“แค่พี่พิมพ์มาว่าเงี่_นคำเดียว ผมจะไปรับพี่มามีเซ็กซ์กันตอนนั้นเลย” ฉันหน้าร้อนเห่อให้กับคำพูดเถื่อนๆ ของขาล ไม่น่าเชื่อว่าเด็กน้อยขาวซีดตัวเล็กคนนั้น บัดนี้กลายเป็นผู้ชายที่ดุเดือดและรุกแรงจนใจสั่นเลย “ที่ผมกล้าพูดหยาบขนาดนี้ เพราะว่าตอนนี้ผมกับพี่เราเป็น...”
“...” ฉันเงียบ เพราะก็ดูเหมือนทั้งขาลและฉันเองก็ไม่รู้จะบรรยายความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ออกมาเป็นคำจำกัดความแบบไหนเหมือนกัน
“เราถลำลึกกันขนาดนี้แล้ว ผมคงพูดได้ใช่มั้ยครับ” จนสุดท้ายก็มีแต่คำถามที่ออกจะเร่งเร้ากันนิดหน่อยของคนตัวใหญ่ที่นั่งก้มหน้าสั่นขาอย่างร้อนใจอยู่เท่านั้น
“อื้ม”
“...”
“ขาลชอบพี่มากเลยเหรอ” จนเกิดความเงียบขึ้นระหว่างเรา ฉันก็เลยตัดสินใจถามคำถามนั้นออกไป ทั้งๆ ที่การแสดงออกของขาลมันชัดเจนจนไม่รู้จะชัดยังไงแล้ว
“อืม”
“...”
“ผมโคตรชอบพี่เลย”
ตึกตัก ตึกตัก
“ทนได้เหรอคะ กับความสัมพันธ์ที่ไม่มีอะไรชัดเจนแบบนี้”
“ถ้าเป็นพี่ ผมโอเค” เขาตอบกลับมาทันควัน พร้อมกับเลื่อนฝ่ามือหนามากอบกุมข้างแก้มของฉันเอาไว้จนรับรู้ได้ถึงความอบอุ่น “เมื่อก่อนมันไม่มีหวังกว่านี้อีก แต่วันนี้ผมมีความสุขก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ”
“...”
“แล้วพี่ล่ะ มีความสุขบ้างมั้ยเวลาที่ได้อยู่กับผม?”
“มีสิ” ฉันตอบกลับไป ไม่รู้ว่ามันจะเป็นการให้ความหวังคนตรงหน้ารึเปล่า แต่ฉันมีความสุขจริงๆ เวลาที่น้องขาลสัมผัสฉัน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความคิดที่เอาแต่ได้อยู่ฝ่ายเดียว แต่การอยู่แบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจมากกว่าความสัมพันธ์ที่เป็นจริงเป็นจัง และสุดท้ายก็ต้องเจ็บปวดกันทั้งสองฝ่าย
จนเงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นว่าเขากำลังกระตุกยิ้มอยู่นั่นล่ะ
“แค่นั้นแหละ ที่ผมอยากได้ยิน” น้องขาลโน้มใบหน้าคมกร้าวมาจูบแก้มฉันหนักๆ เหมือนกับจะให้รางวัลที่ฉันพูดในสิ่งที่เขาอยากฟัง ขาลมักตามใจฉันเสมอไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร แต่ในขณะเดียวกันก็เอาแต่ใจอยู่บ้างในบางครั้ง
ฉันกัดริมฝีปากแน่น เขาช่างเป็นเด็กที่น่ารักจริงๆ
แต่น่าเสียดาย... ที่ฉันคงรักเขาไม่ได้
