บทที่ 14 เท่าใดถึงเหมาะสม
ซูเต๋อกับจิ่วเม่ยตกตะลึงกับราคาที่หมอกู้ให้ แต่ก่อนที่ซูเต๋อจะอ้าปากยอมรับ เสียงของซูเจินน้อยก็ตะโกนออกมาเสียก่อน
“ไม่” ผู้ใหญ่ทั้งสี่ที่อยู่ในห้องหันมามองที่นางเป็นตาเดียว
“ไม่อร่อยอย่างนั้นรึ” หลงจู๊อู๋เอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะเขาเห็นนางกินลงไปไม่น้อย ทั้งอาหารที่สั่งมาก็มาจากเหลาอาหารชื่อดังในเมือง
“ไม่” นางส่ายนิ้วชี้น้อยๆ ของนางไม่มา
“ขาย” ทั้งสี่ได้แต่ตกตะลึง เมื่อเด็กน้อยเช่นซูเจิน ได้ราคาสูงเพียงนี้แต่ไม่คิดจะขาย
หมอกู้รอยยิ้มแข็งค้างไปทันที เขามองซูเจินอีกครั้งอย่างพิจารณา เมื่อเห็นผีเสื้อ ผึ้ง มด ที่อยู่บนไหล่ของนาง เขาก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัย
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เห็นสัตว์ทั้งสามตัวตั้งแต่แรก แต่เพราะคิดว่าคงติดมากับตะกร้าของซูเต๋อ มันน่าแปลกเกินไปที่ทั้งสามตัวยังคงอยู่ที่ไหล่ของเด็กน้อยไม่ห่าง
“เอ่อ เจินเออร์ อย่าเสียมารยาทลูก” จิ่วเม่ยเอ่ยตำหนิบุตรสาว
“เพิ่ม” นางยู่ปากน้อยๆ อย่างไม่พอใจ แล้วกอดอกมองที่หมอกู้อย่างไม่ยินยอม
“เจ้าจะให้ข้าเพิ่มราคาอีกใช่หรือไม่” หมอกู้ลองเอ่ยถามนาง เพราะอยากจะรู้ว่าสิ่งที่เขาคิดถูกต้องหรือไม่
“อืม” นางพยักหน้าราวกับไก่จิก
“แล้วเจ้าคิดว่าเท่าใดถึงจะเหมาะสม” เขาเดินมานั่งตรงหน้าของซูเจิน เพื่อพูดคุยกับนาง
ซูเจินชูนิ้วน้อยๆ ของนางไปตรงหน้าของหมอกู้ “แปดพันตำลึงทองอย่างนั้นรึ” เขาร้องถามออกมาเสียงดัง
“อืม” นางพยักหน้าอีกครั้ง
“เอ่อ เจินเออร์” ซูเต๋อเอ่ยเรียกบุตรสาว แต่ถูกสายตาของซูเจินมองอย่างจริงจังไว้ เขาจึงได้กลืนคำที่จะห้ามนางลงท้องไป ถึงอย่างไรเห็ดที่ได้มาก็เป็นเพราะบุตรสาวของเขา ให้นางได้ตัดสินใจในเรื่องนี้เองก็แล้วกัน
หลงจู๊อู๋กับหมอกู้แปลกใจไม่น้อยที่สองสามีภรรยายอมให้เด็กน้อยวัยขวบปีเป็นผู้ตัดสินใจเช่นนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่ประหลาดนัก
หมอกู้ต้องยอมกัดฟันจบที่ราคาที่ซูเจินนางต้องการ ไม่ใช่เพียงสายตาของเด็กน้อยที่จ้องมองเขาอย่างกดดัน ยังมีสหายของนางทั้งสามตัวที่มองมาทางเขาอีกด้วย เรื่องนี้ทำให้หมอกู้เสียวสันหลังแปลกๆ
หมอกู้ยอมจ่ายค่าเห็ดหลินจือทั้งสามดอกที่ สองหมื่นสี่พันตำลึงทอง ซูเต๋อยังขอรับเป็นตั๋วเงินใบละห้าสิบตำลึงเงินด้วย เพื่อที่เขาจะได้นำไปใช้จ่ายได้อย่างสะดวก
ซูเจินนางกินอาหารต่ออย่างสบายใจ เมื่อได้ราคาที่นางต้องการแล้ว คงมีเพียงผู้ใหญ่ทั้งสี่ที่ได้แต่มองนางกินเท่านั้น พวกเขาต่างกินอันใดไม่ลง
ซูเต๋อกับจิ่วเม่ยที่กินไม่ลง เพราะยังตกตะลึงไม่หายที่ได้เงินมากถึงเพียงนี้ ส่วนหมอกู้เขากินไม่ลง เพราะกำไรที่จะได้กว่าครึ่งถูกซูเจินปล้นไปเยอะถึงเพียงนั้น
ซูเต๋อนำตั๋วเงินทั้งหมดใส่ลงตะกร้า เพราะคิดจะให้บุตรสาวเก็บเข้าไปที่เดียวกับเห็ดอีกหลายดอกที่นางเก็บไว้
“เจินเออร์ เก็บไว้ที่เดียวกับเห็ดหลินจือได้หรือไม่” เมื่อเดินห่างออกมาจากผู้อื่นแล้ว เขาก็เอ่ยถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
“ได้”
ซูเต๋อจึงได้หาที่ลับตาคน แล้วให้ซูเจินนางเก็บเข้าไป จิ่วเม่ยยังไม่มั่นใจว่าหากตั๋วเงินที่ได้มาทั้งหมดหายไปแล้วจะกลับมาได้หรือไม่ ซูเจินนางจึงได้นำเข้าออกหลายครั้งเพื่อให้มารดามั่นใจ
เงินที่อยู่ที่ตัวของซูเต๋อยังมีไม่มาก เขาเลือกที่จะพาสองแม่ลูกไปซื้อผ้าเพื่อตัดชุดเสียก่อน จิ่วเม่ยนางก็ไม่ได้เลือกผ้าไหมที่ราคาแพง แต่เลือกผ้าฝ้ายเนื้อดีให้บุตรสาว ของนางและซูเต๋อยังเป็นผ้าฝ้ายธรรมดาเพื่อสะดวกใช้งาน
ซูเจินเห็นเช่นนั้นจึงได้ชี้เลือกผ้าฝ้ายเนื้อเดียวกับนาง เพิ่มให้บิดามารดาอีกคนละสองพับ
“เจินเออร์ พอแล้วลูก” จิ่วเม่ยอดที่จะดุบุตรสาวไม่ได้
“ตามใจนางเถิด” ซูเต๋อส่งมาที่ซูเจินเลือกให้ทางร้านห่อให้
คนขายไม่อยากจะเชื่อว่าสามีภรรยาคู่นี้จะกล้าซื้อผ้าทุกพับที่บุตรสาวเลือกชี้ ทั้งยังมากมายถึงแปดพับด้วยกัน ในตอนแรกเขาคิดว่าคงจะซื้อผ้าฝ้ายธรรมดาพับเดียว ทำให้รู้ว่าดูจากการแต่งกายไม่ได้จริงๆ
ซูเต๋อฝากผ้าที่ซื้อไว้ทั้งหมดไว้ก่อน เพราะเขายังต้องไปหาซื้อเกวียนวัวก่อน แต่ซูเจินนางก็สร้างเรื่องอีกครั้ง เมื่อนางเห็นม้าสองตัวนอนอยู่ในคอกอย่างหมดอะไรตายยาก
“พ่อ” นางชี้มือไปที่คอกม้า ร้องบอกซูเต๋อที่อุ้มนางไว้
“เราจะซื้อวัวลูกมิใช่ม้า” ซูเต๋อชี้ไปที่วัวสองตัวที่เขามองไว้
นอกจากจะใช้เทียมเกวียนได้แล้ว ยังใช้วัวในการทำนาได้อีก จะได้ทุ่นแรงเขาได้เยอะ และจิ่วเม่ยนางจะได้ไม่ต้องไปทำงานในนาอีก
“ม้า” นางดีดดิ้น เพื่อให้ท่านพ่อพาเดินไปที่คอกม้า
นางรู้มาจากเสี่ยวเตี๋ยว่าม้าตัวเมียที่นอนอยู่ในคอกกำลังตั้งท้อง และม้าสองตัวยังเป็นม้าที่เกิดในทุ่งหญ้าแข็งแรงไม่น้อย คงเพราะถูกจับมาตอนที่แม่ม้ากำลังตั้งท้อง จึงทำให้พ่อม้าถูกจับมาด้วย
“นายท่าน ม้าสองตัวนี้พยศนัก ไม่มีผู้ใดเข้าใกล้ได้เลยขอรับ” เขาเอ่ยออกมาอย่างกังวลที่เห็นเด็กน้อยต้องการไปดูใกล้ๆ ด้วยกลัวว่านางจะเกิดอันตรายได้
แต่ซูเจินนางไม่ยอม ซูเต๋อจำต้องพานางเดินเข้าไปใกล้ เพราะรู้เรื่องความลับของบุตรสาวดี นายหน้าค้าสัตว์อยากจะเอ่ยห้าม แต่เมื่อเห็นบิดาของนางตามใจเช่นนี้ เขาจึงได้ถอยห่างออกมา เพื่อรอดูเรื่องสนุกแทน
