บทที่ 2 ซ่อนเงาสวาท บทที่ 2

นั่นคือ คริสเตียน...ลูกชายคนเดียวของบ้านคาร์ล มัทรียังจดจำแววตาขึ้งเคียดของเขาได้และเธอตั้งปณิธานในใจว่าจะไม่เป็นอุปสรรคในชีวิตลูกชายคนเดียวของอัลเฟรด  คริสเตียนถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่เล็กและเรียนต่อในโรงเรียนเตรียมทหาร เขาไม่ยอมกลับบ้านและเธอรู้ดีว่ามันมาจากสาเหตุอะไร

เมื่อโตขึ้นมัทรีจึงเลือกเรียนต่อด้านแพทย์ที่ประเทศฝรั่งเศส หญิงสาวเลือกที่จะมาใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังด้วยการเปิดคลีนิคอยู่ริมแม่น้ำแซน แม่น้ำแสนสวยที่ไหลผ่านใจกลางกรุงปารีส

เธอไม่ได้กลับบ้านที่ประเทศเยอรมันนานหลายปีกระทั่งอัลเฟรดเสียชีวิต เธอเดินทางไปร่วมในพิธีศพของพ่อบุญธรรม แต่หลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับคริสเตียน พี่ชายตามกฎหมายที่เธอชอบแอบมองเขาทุกครั้งที่มีโอกาส

และเป็นเวลานานหลายปีที่เธอไม่ได้พบหน้าคริสเตียน ผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายของเธอ หญิงสาวคิดว่าเหตุผลหนึ่งที่คริสเตียนไม่ชอบเธอเป็นเพราะเขากลัวว่าเธอจะแย่งทุกอย่างไปจากเขา ซึ่งทำให้มัทรีตัดสินใจที่จะไม่กลับไปยังบ้านในเยอรมัน แต่เธอก็ยังใช้นามสกุลเดียวกับเขาเพื่อเป็นการให้เกียรติพ่อบุญธรรมที่ล่วงลับ

บทที่ 2

“บังเอิญจังเลยนะคะที่เรามาเจอกันที่นี่...เอ้อ...แล้วตอนนี้ได้ข่าวว่าพี่ยังเป็นทหารอยู่ไม่ใช่หรือคะ?”

“ใช่...พี่ยังเป็นทหาร แต่การที่เราได้เจอกันที่นี่ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญสักเท่าไหร่”

มัทรีเลิกคิ้ว “ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างนั้นหรือคะ?”

“ตอนนี้พี่อยู่ในช่วงลางานจากกองทัพ หลังจากคุณพ่อเสียชีวิตพี่ก็แทบไม่ได้กลับบ้านในเบอร์ลิน กระทั่งคุณแม่ติดต่อไปพี่ถึงต้องกลับบ้าน”

“คุณแม่...ท่านไม่สบายอย่างนั้นหรือคะ?”

น้ำเสียงของเธอร้อนรนขึ้นมา จริงซีนะ...เธอเองก็ไม่ได้กลับบ้านในกรุงเบอร์ลินหลายปีแล้วเพราะมัวแต่กังวลว่ากลับไปจะทำให้คริสเตียนไม่สบายใจ แต่กลับกลายเป็นว่าเธอลืมเรื่องของดาเนียลา มารดาบุญธรรมซึ่งยังหลงเหลืออยู่อีกคนไปเสียสนิท

คริสเตียนส่ายหน้าก่อนตอบ “แม่สบายดี แต่ท่านมีเรื่องบางอย่างที่อยากให้พี่ทำ นั่นคือการมาตามหาเธอที่นี่ ท่านรู้เพียงว่าเธอจบแพทย์และเป็นหมออยู่ในปารีส ท่านอยากให้เธอกลับบ้านไปอยู่กับท่านเหมือนเมื่อก่อน คารีน่า”

มัทรีอึ้งไปเล็กน้อย การที่เธอไม่กลับบ้านหาใช่เพราะทิฐิ แต่เป็นเพราะเธอไม่อยากให้คริสเตียนเกลียดเธอไปมากกว่านี้ต่างหาก...ในเมื่อเขาเคยไม่ชอบหน้าเธอมาก่อน

“คุณแม่สบายดีไหมคะ?”

“ท่านก็เริ่มป่วยตามประสาคนแก่...แต่ท่านอยากพบเธอนะคารีน่า ท่านอยากให้พี่มาที่นี่เพื่อที่จะบอกท่านได้ว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”

“แล้วพี่เห็นว่าฉันเป็นยังไงบ้างล่ะคะ?”

สวยขึ้นจนแทบจำไม่ได้...ประโยคนั้นดังอยู่ในใจของชายหนุ่ม คริสเตียนเพียงคิดว่าถึงเขาจะใช้ชีวิตนายทหารอยู่ในกองทัพมานานแต่เขาก็เคยพบเจอผู้หญิงมาบ้าง ทว่ามันไม่น่าเชื่อเลยว่าน้องสาวบุญธรรมที่เขาเคยตั้งแง่ไม่ชอบเธอเมื่อกว่ายี่สิบปีที่แล้วจะเปลี่ยนแปลงไปได้มากถึงขนาดที่ว่าทำให้เขาหวั่นไหวอยู่ลึก ๆ

“เธอก็ดูโอเค...สำหรับพี่...อืม...เราไม่ได้เจอกันนานแล้วซีนะ”

พูดจบคริสเตียนก็กระแอมออกมา สักพักเขาก็ไออีกสองสามครั้งจนทำให้มัทรีนิ่วหน้า

“นี่พี่ไม่สบายด้วยหรือคะนี่?”

หญิงสาวถามขึ้นด้วยความรู้สึกเป็นห่วงเขาอยู่ลึก ๆ ถึงแม้เมื่อก่อนคริสเตียนจะไม่ชอบเธอแต่เขาก็ถือว่าเป็นลูกชายของผู้มีพระคุณเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มขยี้จมูกไปมาจนปลายจมูกสีแทนเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น

“อืม...พี่รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวมาสองสามวันละ สงสัยตั้งแต่กลับบ้านไม่ได้ออกกำลังกายเหมือนตอนอยู่ในกองทัพ ร่างกายมันก็เลยเริ่มจะอ่อนแอ”

“ทิชชู่ค่ะ” มัทรีหยิบกระดาษเช็ดหน้าส่งให้คริสเตียนที่รับเอาไว้แล้วแปะบนจมูก

“ให้ฉันตรวจร่างกายพี่หน่อยดีไหมคะ?”

หญิงสาวนำเสนอ เธอไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่นนอกจากเริ่มเป็นห่วงอาการเหมือนคนเป็นหวัดของพี่ชายบุญธรรมเท่านั้นเอง

“พี่แข็งแรงดี”

“ฉันแค่อยากฟังเสียงหัวใจ ตรวจชีพจรของพี่เท่านั้น”

เมื่อเธอยืนยันคริสเตียนจึงพยักหน้ารับในที่สุด สำหรับเขาแล้ว คารีน่า ในตอนนั้นกับเวลานี้แตกต่างอย่างที่เขาคาดไม่ถึง น้องสาวบุญธรรมของเขาโตขึ้นเป็นคุณหมอสาวสวยสะพรั่ง ความรู้สึกที่เคยไม่ชอบใจเพราะถูกแย่งความรักไปตั้งแต่เด็กมลายหายไปเหมือนน้ำแข็งละลายลงทะเล

“นั่งนิ่ง ๆ นะคะ”

มัทรีเลื่อนเก้าอี้ที่เธอนั่งเข้ามาใกล้เขาก่อนดึงมือของเขาและลองจับชีพจรที่ข้อมือของเขา มือหนาหนักของคริสเตียนอุ่นจนร้อนไปด้วยซ้ำ แต่อะไรก็ไม่ทำให้คุณหมอสาวรู้สึกถึงแรงเร่งเร้าบางอย่างได้เท่าลมหายใจผ่าว ๆ จากเจ้าของเรือนร่างใหญ่โตกำยำที่อยู่ใกล้เธอตอนนี้

มัทรีอยู่ตรงกลางระหว่างขาของเขาที่แยกออกกว้างเพื่อให้เธอตรวจวัดการเต้นของหัวใจเขาด้วยหูฟัง หัวใจของเขาเต้นเร็ว...เธอรู้สึกได้จากอุปกรณ์การแพทย์ จากนั้นหญิงสาวจึงเอื้อมไปหยิบปรอทวัดไข้

“อ้าปากหน่อยค่ะ”

คริสเตียนทำตามแต่โดยดีด้วยการอ้าปากและให้มัทรีสอดปรอทวัดไข้เข้าไปใต้ลิ้น

“สักครู่นะคะ” เธอบอกแล้วก้มลงดูนาฬิกาขอมือเพื่อจับเวลา หญิงสาวแทบไม่รู้สึกตัวเลยว่าทุกอิริยาบถของเธออยู่ในสายตาของพี่ชายตามกฎหมายซึ่งจ้องมองตลอดเวลา ทำไมเขาต้องตื่นเต้นมากขนาดนี้ เธอจะรู้หรือไม่ว่าที่หัวใจเต้นเร็วรัวไม่ได้เกิดจากอาการเหมือนจะเป็นไข้ของเขาแต่อย่างใด

บทก่อนหน้า
บทถัดไป