บทที่ 3 ซ่อนเงาสวาท บทที่ 3

แต่มันเกิดจากความรู้สึกประหลาดที่เขาให้คำอธิบายแก่ตัวเองไม่ได้ นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขาได้เห็นหน้าน้องสาวบุญธรรมอีกครั้งชัด ๆ ตอนนั้นคารีน่ายังเล็กและเขาก็มองเห็นแต่ภาพของเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่เข้ามาแทนที่ความรักของพ่อกับแม่

ทว่าตอนนี้เธอกลับเป็นสาวแสนสวยและความงามผุดผาดเสมือนแสงรังรองเจิดจรัสของดวงดาวท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิด ที่เสมือนความรู้สึกของเขาในตอนแรก เขาไม่อยากมาปารีสด้วยซ้ำ ไม่อยากทำตามความต้องการของมารดาที่อยากจะให้ตามคารีน่ากลับบ้าน

เขาเป็นนายทหารที่เข้มแข็งเหมือนบิดา และมีนิสัยที่มารดารู้ดีว่าไม่ค่อยยอมใครคล้ายบิดาซึ่งเป็นอดีตนายพลเช่นกัน แต่เมื่อมาถึงประเทศฝรั่งเศสเขากลับตื่นตะลึงในความงามของที่นี่ รู้สึกหลงใหลปารีสและแม่น้ำ แซนกระทั่งถึงตอนนี้ที่เขาแทบไม่อาจละสายตาไปทางใดได้นอกจากใบหน้าสวยหวานของน้องสาวร่างเล็กบอบบางตรงหน้า

เพราะคารีน่ามีเชื้อสายชาวไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ ใบหน้ารูปไข่ใต้กรอบเรือนผมดำขลับถูกรวบเป็นหางม้าไว้ด้านหลังหมดจดไม่ว่าจะมองมุมไหน เธองดงามด้วยดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มและจมูกโด่งเล็กรับกับริมฝีปากหยักเป็นรูปกระจับเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงเข้มขับความผุดผาดและทำให้เธอดูเป็นสาวแสนเซ็กซี่มากกว่าคุณหมอสาวคอยรักษาคนไข้ รูปร่างของเธอสมส่วนแม้จะตัวเล็กกว่าเขามากแต่ก็เหมือนมีพลังทำให้คนตัวโตให้รู้สึกหวั่นไหวจากแรงกระเพื่อมบางอย่างที่มาจากตัวเธอ

“พี่มีไข้ต่ำ ๆ นะคะ”

คุณหมอสาวเพ่งมองปรอทเล็ก ๆ ในมือหลังดึงออกมาจากปากของคริสเตียน

บทที่ 3

“บอกแล้วยังไงว่าไม่มีอะไร พี่แข็งแรง”

“แต่พี่มีไข้ต่ำ ฉันว่าพี่ควรจะกินยา อุ๊ย!”

มัทรีร้องออกมาเมื่อเผลอทำปรอทวัดไข้หล่นจากมือ และจังหวะที่เธอก้มลงไปเก็บใบหน้าหวานก็เกือบชนกับหน้าของพี่ชายบุญธรรมที่ตั้งใจก้มลงเก็บปรอทให้เธอเช่นกัน หญิงสาวถึงกับชะงักงัน จมูกของเธอชนกับจมูกโด่งเป็นสันของเขา ริมฝีปากอิ่มสวยระริกอยู่ใกล้ริมฝีปากของเขาโดยไม่ตั้งใจ

มันเกิดขึ้นเพียงชั่ววินาทีแต่ก็เหมือนนานมาก ต่างคนต่างชะงักและหยุดนิ่งกระทั่งมัทรีเป็นฝ่ายดึงสติกลับมาได้ทันก่อนที่มันจะเตลิดไปไกลกว่านี้ หญิงสาวรีบเก็บปรอทวัดไข้ที่หล่นอยู่บนพื้นก่อนเงยหน้าขึ้นและรู้สึกตื่นเต้นจนแทบบังคับเสียงตัวเองไม่ได้

“เอ้อ...พี่ควรจะกินยาสักหน่อยนะคะ”

หญิงสาวรีบกลบเกลื่อนแต่ไม่รู้ตัวเลยว่าแก้มหมดจดทั้งสองข้างเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ แม้แต่คริสเตียนก็ยังรู้สึกวูบวาบ เป็นนายทหารในกองทัพมาหลายปียังไม่เคยประหม่าเวลาอยู่ต่อหน้าผู้หญิงมากเท่านี้เลย

“คารีน่า...พี่จะกินยาตามคำสั่งของน้องก็ได้ แต่พี่อยากรู้ว่า เธอจะกลับไปเบอร์ลินพร้อมกับพี่หลังจากนี้มั้ย”

คริสเตียนตั้งคำถามและทำให้มัทรีชะงักไป หมอสาวยังลังเลใจกับการที่ต้องกลับยัง บ้าน ที่ประเทศเยอรมัน

“ขอเวลาให้ฉันตัดสินใจอีกสักนิดได้ไหมคะ?”

“คืนนี้หรือ?...ถ้าอย่างนั้นพี่ขอคำตอบพรุ่งนี้ได้ไหม?”

มัทรีช้อนตามองเขา ชายหนุ่มถอนใจเพราะรู้ความคิดของหญิงสาว ฟังดูแล้วเหมือนเป็นการบีบคั้นและติดจะเป็นการออกคำสั่งรวบรัดอย่างทหารแต่เขาก็มีความจำเป็น

“พี่มีเวลาอยู่ที่นี่ไม่นานเพราะต้องรีบกลับไปประจำการในกองทัพ”

“พี่คงจะเสียเวลามากซีนะคะกับการที่ต้องเดินทางมาปารีส...ซึ่งจริง ๆ แล้วพี่ไม่จำเป็นต้องลำบากขนาดนี้เลย”

“คารีน่า”

คริสเตียนขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้หญิงสาวและโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ เขาตัวโตกว่าเธอมากและท่าทีเช่นนั้นก็ทำให้มัทรียิ่งรู้สึกหวั่นไหวเมื่อได้อยู่ใกล้ชิด ถึงแม้ไม่ได้พบเขาหลายปีแต่ตอนนี้เธอก็เห็นชัดว่าเขามีท่าทีสุขุมและที่สำคัญเขาเป็นผู้ชายหน้าตาดีและใบหน้าคร้ามเข้มนั้นกำลังสะกดใจเธอ

“พี่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรา...เอ้อ...มันอาจจะดูห่างเหินในอดีต แต่ตอนนี้พี่คิดว่าเราอาจจะ...ปรับตัวให้เข้ากันได้”

“แล้วพี่จะกลับไปประจำการเมื่อไหร่คะ?”

เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย “คงหลังจากที่พาเธอกลับบ้าน กลับไปพบแม่”

“แล้วถ้าฉันยังไม่กลับตอนนี้”

หญิงสาวเห็นเขาขบกรามเข้าหากันเล็กน้อย ทว่านัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นกลับไม่แสดงความดุดันออกมา มัทรีกำลังพินิจพิจารณาท่าทีของพี่ชายบุญธรรมที่เคยตั้งแง่กับเธอ หากเธอจะทำอย่างนั้นกับเขาบ้าง

“พี่...ขอร้องให้เธอกลับบ้าน...คารีน่า”

ใบหน้าคร้ามเข้มโน้มต่ำลงไปใกล้ ดูเหมือนจะใกล้มากไปจนทำให้คุณหมอสาวหายใจไม่ทั่วท้อง คริสเตียนเป็นผู้ชายที่ดูดีมากไม่ต่างจากอัลเฟรดพ่อของเขา แน่ล่ะ...พ่อของเขาเคยเป็นถึงอดีตนายพลและเขาก็เหมือนบิดาแทบทุกกระเบียด รูปร่างสูงใหญ่นั้นสง่าอย่างนายทหาร ใบหน้าหล่อเหลาและนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นกำลังทำให้ทิฐิในใจของเธอหลอมละลายลงทีละน้อย ที่สำคัญเขากำลังร้องขอสิ่งที่เธอปฏิเสธความต้องการของตัวเองมานานหลายปี นั่นคือการกลับบ้าน

ทว่าหญิงสาวก็อดที่จะนึกถึงคริสเตียน คาร์ล ในวัยเด็กไม่ได้ เขาคือลูกชายคนเดียวของนายพลอัลเฟรด คาร์ล ที่หยิ่งทะนง เขาไม่พูดจากับเธอและมักแสดงอารมณ์นิ่งราบเรียบ ตอนนี้เขาเป็นทหาร เธอไม่รู้ว่าเขาจะมีนิสัยมุทะลุหรือเป็นจอมบงการด้วยหรือไม่...เธอแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย

“เราจะคุยกันพรุ่งนี้ เวลานี้...พี่จะมารับเธอไปที่พักของพี่ โรงแรมโฟร์ ซีซั่น”

“แต่ฉันต้องเปิดคลินิกนะคะ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป