บทที่ 33 ความรู้สึกเริ่มสั่นคลอน (25%)

ช่วงนี้บุปผชาติกำลังยุ่งกับการวางแผนร่วมกับทีม เกี่ยวกับเจ็ตลำใหม่ที่กำลังจะสร้างขึ้น โดยฝ่ายวิศวกรได้ทำการออกแบบเสร็จสิ้นลงแล้ว จากนั้นก็จะเป็นทีมของเธอที่จะต้องร่วมกันหารือ พิจารณาค่าของแรงเสียดทาน โมเมนตัม แรงเฉือน แรงลม และองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากมาย โดยทำการจำลองสถานการณ์ในสภาวะที่อากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการบิน แต่เมื่อเครื่องได้ขึ้นไปร่อนอยู่บนท้องฟ้าแล้วจะต้องใช้แรงพวกนี้เท่าไหร่ ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้จะส่งผลไปถึงการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับการรับแรงดังกล่าว เพื่อให้สามารถรองรับสถานการณ์ที่เหนือความคาดหมายได้ และเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเหนือการควบคุมความเสียหายที่เกิดขึ้นจะต้องน้อยที่สุด

เนื่องจากงานยุ่งกองสุมเต็มโต๊ะทั้งอาทิตย์ บุปผชาติจึงไม่ได้ไปหามาร์โคที่บริษัท แต่ก็ไม่ลืมที่จะส่งอีเมล์ไปรายงานเรื่องรถของเขา และเสนออุปกรณ์ที่จะต้องใช้ในรถไปให้ดู ว่าชายหนุ่มต้องการแบบไหน ส่งแบบตัวอย่างไปให้พิจารณาแล้วให้แจ้งกลับมาบอกเธอ แต่มาร์โคกลับส่งเมล์มาบอกว่าหากเธอไม่ไปพบเขา เขาก็จะไม่เลือกอะไรทั้งนั้น ช่างเอาแต่ใจตัวเองเหลือเกิน พ่อเจ้าประคุณกำลังทำให้หญิงสาวหมั่นไส้เหลือกำลัง เพราะหากเขาทำอย่างที่ลั่นวาจาออกมาก็แสดงว่าเธอจะต้องยืดเวลาในการทำงานให้เขาออกไป แถมยังต้องข้องแวะกับจอมบงการไปอีกระยะ ซึ่งบุปผชาติไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้นเลย เธอไม่ต้องการจะอยู่ใกล้ผู้ชายปากหวาน เจ้าชู้ มือไวแบบเขา เพราะใกล้กันทีไรหัวใจดวงน้อยก็รู้สึกหวั่นไหว ยิ่งเขามาพูดจากระเซ้าเย้าแหย่อย่างที่ไม่เคยมีชายใดปฏิบัติกับสาวเฉิ่มอย่างเธอมาก่อน ใจที่เคยนิ่งสงบก็พลอยเต้นผิดจังหวะอย่างไม่น่าให้อภัย

ส่วนมาร์โคนั้นตัดสินใจแน่แล้วว่า ผู้หญิงที่เขาจะแต่งงานและใช้ชีวิตด้วยจะต้องเป็นเธอ เจ้าสาวของเขาจะต้องเป็นบุปผชาติเพียงคนเดียวเท่านั้น ตั้งแต่เขาสะดุดรักยัยเฉิ่มในผับแห่งนั้น เขาก็ไม่อาจเอาใจออกห่างเธอได้ ยิ่งได้ใกล้ชิดด้วยหน้าที่การงานที่เขาเอาความเจ้าเล่ห์แอบแฝงแกมบีบบังคับ ผลักดันส่งให้เธอมาอยู่ใกล้เขา ก็ยิ่งทำให้เขาหลงใหลในความเป็นตัวเธอจนไม่ลืมหูลืมตา

มาร์โคมีความสุขทุกครั้งที่ได้หยอกล้อและกระตุ้นอารมณ์บุปผชาติ ยั่วแหย่ให้เธอปรี๊ดแตก โมโหจนลืมตัวเผลอตวาดแว้ดและด่าทอด้วยใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาวาวโรจน์ กำหมัดน้อยแน่น มันช่างเป็นภาพที่มีชีวิตชีวาและน่าดูกว่าเวลาที่เธอทำหน้านิ่งเฉยชาใส่เขาเป็นไหนๆ และเขาก็มั่นใจว่าตนเป็นผู้ชายคนแรกที่สามารถทำให้เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ ยิ่งได้ใกล้ชิดก็ยิ่งคลั่งไคล้ ลองทำเป็นไม่สนใจตัวเองกลับว้าวุ่นกระวนกระวาย จนต้องบังคับให้สาวเจ้าไปไหนมาไหนด้วย โดยเอาเรื่องงานมาบังหน้า ส่วนเรื่องเธอจะเฉิ่ม เชย และแบนราบ มันก็แก้ได้ไม่ยากเมื่อเธอมาเป็นภรรยาของเขาแล้ว

ทำไมสาวเฉิ่มอย่างเธอถึงทำให้เขาติดใจได้มากมายขนาดนี้ก็ไม่รู้ แค่ได้กอดจูบและใกล้ชิดเพียงเล็กน้อย โดยการเล่นแบบทีเผลอ มาร์โคก็ร้อนรุ่มและต้องการเธอมากกว่านั้น จนทนไม่ไหวไม่อาจอยู่เฉยได้ คิดว่าต่อไปนี้เขาคงต้องพูดกับเธออย่างจริงจังให้รู้กันไปเลย ว่าเขาคิดจะจีบเธอ อยากได้เธอมาเป็นแฟน และสุดท้ายก็พัฒนาไปเป็นคู่ชีวิต หากรอช้ากว่านี้เธออาจจะหลุดมือไป ว่าไม่ได้นะคนหล่อและเพอร์เฟกต์อย่างเขายังตกหลุมยัยเฉิ่มได้เลย ซึ่งนั่นก็หมายความว่าอาจจะมีโอกาสที่ผู้ชายคนอื่นจะเป็นเหมือนเขาบ้าง บอกตรงๆ ว่าเขาไม่ปรารถนาจะมีคู่แข่ง เพราะไม่ต้องการห้ำหั่นกับผู้ชายหน้าไหนให้เสียเวลา ถึงแม้จะรู้ดีว่าสุดท้ายแล้วตัวเองจะเป็นฝ่ายชนะก็ตาม

วันนี้ก็เป็นอีกวันที่มาร์โคนั่งทำงานอย่างไม่เป็นสุข เหตุเพราะไม่ได้เจอหน้าบุปผชาติมาเป็นอาทิตย์ แถมโทรไปอีกฝ่ายยังจงใจไม่รับสาย จนเพลย์บอยตัวร้ายที่ไม่เคยโดนหญิงใดเมินเกิดอาการหงุดหงิดงุ่นง่าน ที่สาวเจ้าไม่ปลื้มและไม่สนใจในเสน่ห์ที่ตนพยายามจะทอดสะพานให้ มิหนำซ้ำเธอยังดูไม่ยี่หระและทำเฉยชา เหมือนไม่รู้ในเจตนาการกระทำของเขา ไม่ได้การแล้ว! เขาจะต้องรุกเต็มรูปแบบซักที ให้มันรู้ไปสิว่าคนอย่างมาร์โค ดิมิเทียส จะไม่สามารถเอาเธอมาทำเมียได้ ชายหนุ่มหมายมาดในใจด้วยความมุ่งมั่นสุดฤทธิ์

เจ้าของร่างสง่าผ่าเผยที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่สบัดศีรษะทระนงเบาๆ เพื่อให้เลิกคิดฟุ้งซ่าน แล้วหันมาสนใจกับงานของตัวเอง แต่เพียงไม่นานลูกน้องก็โทรเข้ามา เขาจึงต้องละสายตาคมกริบจากงานตรงหน้า แล้วหันมายกหูโทรศัพท์รับสายแทน

“นายครับ คุณเคลวินมาหาครับ” รัสเซลรายงานเจ้านายหนุ่ม หลังจากที่เหลือบไปเห็นร่างสูงสง่าของเคลวินเดินยิ้มเผล่มาแต่ไกล

“หืม…ไอ้เคลวินมาเหรอ ให้มันเข้ามาได้เลย” มาร์โคนึกแปลกใจที่เพื่อนรักมาหาตนตั้งแต่ตะวันยังไม่บ่ายคล้อย ปกติถ้าเคลวินมาหาเขาถึงที่แสดงว่าต้องมีเรื่องสำคัญจริงๆ เพราะเพื่อนของเขาไม่ได้ว่างมากพอที่จะมาก่อกวนได้ตลอด ทุกคนต่างมีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ

ไม่นานเคลวินก็เดินด้วยท่วงท่าแสนสบายเข้ามาภายในห้องทำงานของเพื่อนรัก ซึ่งมาร์โคยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสนใจผู้มาใหม่ ดวงตาคมกริบยังคงจดจ้องที่กระดาษรายงานซึ่งเลขาเพิ่งนำมาให้เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน

“ไงวะไอ้มาร์ค ช่วงนี้หายหน้าไปเลยนะ ไม่เห็นออกล่าเหยื่อเหมือนเมื่อก่อน” ครั้นมาถึงหน้าโต๊ะทำงานใหญ่เพื่อนซี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะสนใจ คนเป็นแขกจึงต้องเอ่ยทักทายเสียเอง

“อืม…งานยุ่งว่ะ” ท่านประธานหนุ่มผงกหัวขึ้นจากงาน แล้วเอ่ยตอบเพื่อนรักด้วยท่าทางเนือยๆ ไม่กระปรี้กระเปร่าเท่าที่ควร

“งานยุ่งหรือแอบไปตามจีบว่าที่เมียวะไอ้เพื่อนยาก” คนรู้เท่าทันเย้าด้วยท่าทางขี้เล่น ใบหน้าหล่อเหลาแต่งแต้มรอยยิ้มขบขัน เพราะยังอดขำที่เพื่อนรักคิดอยากได้สาวเฉิ่มมาทำเมียไม่หาย

อืม

นั่นก็ด้วย

มาร์โคถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ แล้วตอบคำถามด้วยท่าทางซังกะตาย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป