บทที่ 8 กามเทพไม่เคยหลับใหล (50%)
“เอ่อ…ขอบคุณมากค่ะ” บุปผชาติเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก เรียวหน้าหวานใสแดงซ่านอย่างอับอายกับความซุ่มซ่ามที่ไม่เคยสร่างซาของตัวเอง
กิริยาไร้เดียงสาที่เธอแสดงออกมามันช่างน่ารักยิ่งนักในความรู้สึกของมาร์โค และเสียงของเธอยังใสกังวานราวระฆังแก้ว เพราะจับใจจนเขาอยากจะฟังซ้ำอีกรอบและอีกรอบไม่มีที่สิ้นสุด ทำเอามาร์โคเผลอคิดไปว่าถ้าเธอมาร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างของตนมันคงจะไพเราะกว่านี้เป็นหลายเท่า
แล้วเธอก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาเกาะกุมอยู่ที่หน้าอกทั้งสองข้าง มองลงมาก็ปรากฏว่ามันคือมือใหญ่ของผู้ชายที่เอื้อเฟื้อเรือนกายทรงพลังรองรับร่างของเธอนั่นเอง กอบกุมไม่พอยังลูบไล้ราวกับวัดขนาดไปด้วย ดวงตากลมโตของบุปผชาติเบิกกว้าง ตัวแข็งทื่อ พร้อมกรีดร้องออกมาอย่างตกใจสุดขีด
“กรี๊ด! เอามือโสโครกของนายออกไปนะ”
เผียะ!!!
เสียงตบหน้าชายหนุ่มดังลั่นเปรี๊ยะเต็มสองหูของทั้งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ จากนั้นสาวเจ้าก็รีบลนลานลุกขึ้นจากร่างใหญ่ พร้อมด่าทอปากคอสั่นระริก
“อะ…ไอ้ฝรั่งลามก! ไอ้ชีกอ! ไอ้บ้าตัณหากลับ!”
เมื่อคำด่าคำแรกหลุดออกมาจากปากรูปกระจับ คำต่อๆ ไปก็พรั่งพรูออกมาราวกับสายน้ำไหล เป็นเหตุให้คนทั้งผับเริ่มทยอยมามุงดูอย่างอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ยิ่งสร้างความอับอายให้แก่เธอจนหน้าแดงเถือก
“เห็นตัวเล็กๆ อย่างนี้ มือหนักจริงๆ นะ เด็กน้อยของฉัน แต่ไม่เป็นไร แบบนี้แหละนายมาร์โคชอบ…ถึงใจดี” มาร์โคพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี ทำให้เคลวินที่มองดูเหตุการณ์มาโดยตลอดถึงกับงง มันโดนตบกับโดนด่ามันยังอารมณ์ดีแถมยิ้มได้อีก…มันบ้าหรือเปล่าวะ
“นะ…นี่ไอ้ฝรั่งตาฟาง ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ ฉันอายุยี่สิบเอ็ดแล้ว และฉันก็ไม่ใช่เด็กน้อยของนายด้วย” กล้าๆ กลัวๆ แต่บุปผชาติก็ยังต่อว่าเขาอย่างเคืองๆ ที่มาหาว่าเธอเป็นเด็ก แถมยังมาพูดว่าเธอเป็นของเขา มันไม่เป็นความจริงซะหน่อย
ยิ่งเห็นแม่เจ้าประคุณด่าเขาฉอดๆ ทั้งที่แววตาคู่นั้นออกจะหวาดกลัวราวกับกวางน้อยระวังภัย แก้มแดงๆ บ่งบอกถึงอารมณ์ เขายิ่งชอบใจนัก เวลาโกรธยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ จนเขาแทบอดใจไม่ไหว อยากจะกระชากร่างอ้อนแอ้นเข้ามากระหน่ำจูบปากแดงๆ นั่นให้หนำใจชะมัด
“ดีสิ ฉันจะได้ไม่โดนข้อหาพรากผู้เยาว์ และอีกไม่นานเธอได้เป็นของฉันแน่นอนแม่สาวน้อย” มาร์โคประกาศอย่างมีเลศนัย โดยจงใจเน้นประโยคท้ายเป็นพิเศษ
“เฮ้ย! ไอ้มาร์ค แกเอาแน่เหรอวะคนนี้” เคลวินเลิกคิ้วถามเสียงสูง เพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงแค่พูดเล่นๆ ด้วยความคึกคะนองไปอย่างนั้น
“ก็เออสิวะ” มาร์โคย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“อกไข่ดาว สาวเอเชีย ไม่ใช่สเปกแกนี่หว่า แถมดูท่าว่าจะคัพเอซะด้วยนะเว้ย เธอจะมีนมให้ลูกแกกินเหรอวะไอ้มาร์ค” พ่อคนห่ามเคลวินถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
พอได้ยินคำวิพากวิจารณ์อย่างโจ่งแจ้งของเคลวิน มาร์โคถึงกับฉุนให้เพื่อนรักทันที เพราะวาจาเหล่านั้นมันหมายความว่าอีกฝ่ายแอบมองรูปร่างของแม่หนูน้อยของเขา
“ไอ้เคลวิน! แกหยุดมองคนของฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน!” มาร์โคออกคำสั่งกับเพื่อนรักด้วยความหึงหวงอย่างบ้าคลั่ง ไม่อยากให้ใครมองของที่มันต้องเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว
“โอ๊ะโอ๋…มีหวงด้วยเว้ยเฮ้ย!” ได้ยินดังนั้นเคลวินก็รีบแซวกลับด้วยน้ำเสียงครื้นเครงปนขบขันกับท่าทีขึงขังของเพื่อนรัก สงสัยคนนี้มันจะเอาจริง
“เออ…ว่าแต่คิดดีแล้วเหรอวะ ที่จะเอาแม่เด็กน้อยคนนี้ นั่นมันหน้าประถม นมอนุบาลชัดๆ” เคลวินยังไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่หูตัวเองได้ยินจึงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
“อกเล็กมันแก้ไม่ยากหรอก แกคอยดูแล้วกันฉันจะทำให้จากคัพเอกลายเป็นคัพซีในเวลาหนึ่งเดือนให้ได้” มาร์โคประกาศอย่างมาดมั่นพร้อมหลิ่วตาให้อีกฝ่าย
“แกจะทำยังไงวะ ฉันล่ะงงจริงๆ จะพาบินไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีหรือไงกัน” เคลวินขมวดคิ้วมุ่นกับคำพูดที่ดูมั่นอกมั่นใจจนน่าหมั่นไส้ของมาร์โค
“ก็เมกเลิฟกับเธอทุกวันไง บีบนวดบ่อยๆ เดี๋ยวมันก็ใหญ่ขึ้นเองแหละ หรือไม่ก็ทำให้เธอท้องลูกของฉันยังไงล่ะ แค่นี้ง่ายจะตาย ไม่เกินความสามารถของนายมาร์โคอยู่แล้ว” ขาดคำเขาก็ยักคิ้วให้เพื่อนรักด้วยท่าทางแสนเจ้าเล่ห์ และแฝงไปด้วยความทระนงในฝีมือขั้นเทพของตน
“โว้ๆๆ ไอ้เพื่อนยาก เจ้าเล่ห์จริงเชียวนะแก” เคลวินร้องลั่นให้กับความช่างคิดแบบห่ามๆ ของอีกฝ่าย
“นี่พวกคุณ พูดอะไรกันฉันงงไปหมดแล้วนะ อ้อ…แล้วก็กรุณาปล่อยมือจากแขนฉันได้แล้ว ฉันจะรีบไปเข้าห้องน้ำ” หญิงสาวว่าพลางพยายามสะบัดแขนเรียวให้หลุดจากการเกาะกุมของฝ่ามือใหญ่
“ไม่มีอะไรมากหรอกสาวน้อย แค่เพื่อนของฉันอยากได้เธอมาเป็นแม่ของลูกมัน…ก็เท่านั้นเอง” เคลวินยักคิ้วให้บุปผชาติอย่างอารมณ์ดี
“จะบ้าเหรอฉันไม่เอาหรอกนะฝรั่ง แค่ได้กลิ่นก็ไม่ชอบแล้ว พวกไม่อาบน้ำ แต่อาบน้ำหอมแทน ยี้…สกปรก” บุปผชาติได้ยินอย่างนั้นก็แทบทำหน้าไม่ถูก ที่ไอ้ฝรั่งบ้าที่ไหนก็ไม่รู้อยากจะได้เธอไปเป็นแม่ของลูก แต่คนอย่างบุปผชาติไม่เคยมีความคิดจะเอาฝรั่งหัวแดงมาทำพันธุ์อยู่แล้ว
เมื่อมาร์โคได้ยินอย่างนั้นก็ขบกรามแกร่งจนเป็นสันนูน ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนหักหน้าและกล้าปฏิเสธเขาด้วยท่าทางรังเกียจต่อหน้าผู้คนมากมายแบบนี้มาก่อน บอกได้คำเดียวว่ามันเสียหน้าสุดๆ
“ฉันไม่สนหรอกนะ ว่าเธอจะ ‘เอา’ ฉันรึเปล่า แต่ฉันอยากได้เธอ แล้วก็จะ ‘เอา’ ให้ได้ด้วย” พ่อเจ้าประคุณพูดเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ แถมแววตามุ่งมั่นคู่นั้นยังจ้องมองเธอไม่ลดละ เหมือนเป็นการยืนยันว่าเขาเอาจริง
“ไอ้บ้านี่! ฉันไม่อยากได้นาย ฉันเกลียดฝรั่งอย่างนายที่สุด เข้าใจไหม! แล้วก็โทษทีเถอะ นายกับฉัน…เราคงไม่ได้พบกันอีกแน่ เพราะฉันไม่ชอบไปมั่วสุมในที่อโคจรเหมือนนาย ลาก่อน…ลาขาดตลอดกาล” ด่าเสร็จสาวน้อยก็รีบเผ่นทันทีเพราะเห็นสายตาของอีกฝ่ายแล้วเขาคงโมโหไม่เบา หากอยู่ต่อเธอต้องไม่ปลอดภัยแน่
“จะรีบไปไหนล่ะจ๊ะ ที่รักของนายมาร์โค เรายังไม่ได้ทำความรู้จักกันเลยนะ” มาร์โครีบดักคอไว้ เพราะอยากจะรู้จักเธอใจจะขาดอยู่แล้ว แค่ชื่อก็ยังดี ไม่งั้นคืนนี้เขาคงนอนไม่หลับ
“ก็ไปให้พ้นๆ หน้านายยังไงล่ะ หลีกไป!” บุปผชาติสวนกลับเสียงห้วน พร้อมทั้งออกปากไล่ให้เขาหลีกทางด้วยท่าทีรำคาญใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เสียเวลาจริงๆ
“ถ้าอยากให้หลีกทาง ก็บอกชื่อมาก่อนสิเบบี๋ ผมอยากรู้ว่าชื่อของคุณมันจะหวานเหมือนเสียงหรือเปล่า” เจ้าของร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างพูดด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย พร้อมมองไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าของสาวเจ้าด้วยสายตาอ้อยอิ่ง ราวกับจะเปลื้องเสื้อผ้าตัวโคร่งแสนเชยที่ปกปิดความงดงามออกไปให้สิ้นซาก
