บทที่ 7 ตอนที่ 7
เพราะกลัวว่าเรื่องจะรู้ถึงหูป้าแดงเมียแก่ขี้บ่นของมัน ไอ้เดชกลัว รีบคว้าผ้าขาวม้าขึ้นมานุ่งแล้วแหวกแผ่นสังกะสีด้านหลังห้องน้ำ มุดหายออกไปในความมืด
ไอ้เดชรู้ทางหนีทีไล่ในบ้านนี้เป็นอย่างดี เพราะว่าทุกวันนี้มันคอยดูแลงานซ่อมแซมทุกๆ อย่างในบ้านเช่าแห่งนี้ ทำให้รู้ดีว่าตรงไหนมีรอยรั่วรอยโหว่ หลายห้องที่มีถ้ำมอง... ก็เพราะมันแอบเจาะเอาไว้
“เสียงอะไรจ๊ะแม่”
พลอยขวัญรู้สึกตกใจ ได้ยินคล้ายเสียงคนงัดแผ่นสังกะสีหลังห้องน้ำ
“เปล่าจ้ะ”
คนางค์พยายามควบสุ้มเสียงให้ฟังดูเป็นปกติ รีบล้างเนื้อล้างตัว คว้าผ้าถุงมานุ่งกระโจมอกแล้วเปิดประตูออกมา ถ้าพลอยขวัญมาช้าอีกนิดมีหวังเสร็จไอ้เดชแน่ๆ
เหตุการณ์เมื่อครู่คนางค์ยอมรับว่าตัวเองหวามไหว แม้จะไม่เคยมีใจให้ไอ้เดชมาก่อน แต่การจู่โจมโลมเล้าแบบถึงลูกถึงคนจนไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ทำให้หล่อนกระเจิงได้เหมือนกัน
คนางค์รู้ว่ามันเป็นผลพวงมาจากอารมณ์เหว่ว้าที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน เพราะความต้องการทางเพศเป็นเรื่องธรรมชาติ ทุกคนย่อมมีความต้องการด้วยกันทั้งนั้น
และชีวิตแม่ม่ายผัวตาย... ทำให้หล่อนห่างเหินจากเรื่องพรรค์นี้มานาน ครั้นเมื่อโดนปลุกเร้าเร่าร้อนถึงเนื้อถึงตัว ก็ทำเอาอ่อนระทวยเกือบเสียท่าอย่างที่เห็น
วันรุ่งขึ้น
เมื่อพาลูกสาวย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ของเจ้าสัวธนา
“โห... บ้านใหญ่ยังกับวัง... เจ้าของบ้านคงรวยมากนะแม่”
พลอยขวัญกล่าวกับมารดา รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความใหญ่โตอลังการของคฤหาสน์หลังนี้ ขนาดเรือนคนใช้ที่ป้าชื่นบอกว่าเป็นที่พักของหล่อนกับมารดา ก็ยังมีสภาพน่าอยู่และกว้างขวางกว่าบ้านเช่าที่เคยอยู่
“ห้องนี้ของคนางค์... ”
ป้าชื่นผลักประตูเข้ามาในห้องแรก เรือนหลังนี้มีสองห้องติดกัน
“ส่วนเอ็งพักห้องนี้นะ”
ป้าชื่นหันมาบอกหญิงสาว
“ค่ะป้า”
พลอยขวัญตอบ
“อันที่จริงให้ฉันกับลูกพักด้วยกันก็ได้นะจ๊ะ... จะได้ไม่ต้องเปลืองห้อง”
คนางค์รู้สึกเกรงใจ
“ไม่ได้... ”
ป้าชื่นส่ายหน้า หล่อนรู้ว่าเพราะอะไรจึงต้องแยกสองแม่ลูกให้นอนกันคนละห้อง
“ฉันเกรงใจจะป้า”
คนางค์กล่าว
“บ้านหลังนี้ใหญ่ยังกับวัง... มีห้องเยอะแยะไปหมด เอ็งไม่ต้องเกรงใจอะไรทั้งนั้น ระหว่างอยู่ที่นี่ก็ทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด”
“จ้ะป้า... ฉันสัญญาว่าจะขยันทำงานทุกอย่าง”
คนางค์ดีใจที่ได้พาลูกหลุดสาวพ้นมาจากบ้านเช่าซึ่งมีสภาพไม่ต่างจากสลัม
“งานของเอ็งคือดูแลรับใช้คุณท่านที่เรือนใหญ่”
ป้าชื่นกล่าว
“ค่ะป้า... แล้วฉันต้องทำอะไรบ้างจ๊ะ”
คนางค์สงสัย
“ก็ทุกอย่างที่คุณท่านใช้... ตามใจคุณท่านแล้วจะดีเอง... จำไว้”
ป้าชื่นกล่าวเป็นนัย เมื่อเห็นว่าพลอยขวัญเดินออกมาหิ้วกระเป๋าสัมภาระนำมาจัดเข้าห้อง
“สวยๆ อย่างเอ็งงานไม่หนักหรอก... ”
อันที่จริงป้าชื่นอยากจะบอกว่าถ้าเอ็งฉลาดก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเลื่อนฐานะขึ้นมาจากคนใช้ เพราะดูท่าทางก็รู้ว่าเจ้าสัวธนาชอบคนางค์ ไม่งั้นคงไม่กล้าหักหน้าเมียใหญ่ที่ไม่ยอมรับคนางค์เข้าทำงานตั้งแต่แรก
“เย็นๆ วันนี้คุณเสือคงกลับมาถึง... ลุงดำกำลังไปรับ ตอนแรกคุณท่านว่าจะไปรับเองแต่ติดงานกะทันหัน”
“คุณเสือเป็นใครคะป้า”
พลอยขวัญสงสัยว่าใครคือ ‘คุณเสือ’ ที่ป้าชื่นเอ่ยถึง
“อ๋อ.. คุณเสือเป็นลูกชายคุณท่านกับเมียแรก... คุณเสือมีชื่อจริงว่า ‘พยัคฆ์’ ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอังกฤษหลายปี ตอนนี้เรียนจบแล้วเลยกลับมาช่วยงานเจ้าสัว”
“ชื่อเสือ... น่าจะดุนะเหมือนเสือนะคะ”
พลอยขวัญกล่าว
“เดี๋ยวได้เห็นก็รู้เองแหละ”
ป้าชื่นกล่าวทิ้งเอาไว้ให้พลอยขวัญสงสัย
“ถ้าจัดข้าวของเข้าห้องเรียบร้อยแล้วเอ็งลงไปช่วยงานป้าในครัวนะ”
ป้าชื่นบอกกับคนางค์
“ขวัญอยากช่วยค่ะ... มีอะไรให้ขวัญทำบ้างคะ”
หญิงสาวอยากทำตัวให้เป็นประโยชน์
“คืนนี้มีงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของคุณเสือ... เอ็งได้ช่วยแน่ๆ นังหนู... แขกราวๆ สิบกว่าคน เพื่อนๆ ของคุณเสือทั้งนั้นแหละ”
ป้าชื่นกำลังต้องการคนคนเสริฟอาหารพอดี เพราะวันนี้เพื่อนๆ ของพยัคฆ์มากันหลายคน
ในตอนใกล้ค่ำของวันเดียวกันนั้น
เมื่อรถตู้สีขาวคันใหญ่ที่มีลุงดำเป็นคนขับมาจากสนามบินแล่นเข้ามาจอดภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ พยัคฆ์ที่นั่งอยู่ข้างในก็รู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นแสงไฟเรืองไสวประดับตกแต่งเอาไว้ในบ้าน จะว่าคริสมาสต์ก็ยังไม่ถึงเทศกาล
“เฮ้... ยินดีต้อนรับไอ้ลูกชาย”
เจ้าสัวธนาตะโกนทักทาย เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่เกินกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรของพยัคฆ์ก้าวลงมาจากรถตู้
“หวัดดีครับป๋า... จัดงานอะไรกันครับ”
พยัคฆ์ยิ่งแปลกใจขึ้นไปอีก ก่อนจะเหลือบไปเห็นงานเลี้ยงซึ่งจัดเตรียมเอาไว้ที่กลางสนามหญ้า ด้วยไม่รู้ว่าบิดาจะเซอร์ไพรส์
“ก็งานเลี้ยงต้อนรับแกน่ะสิ”
คนเป็นบิดาตอบลูกชาย จากนั้นหนุ่มต่างวัยสองคนก็สวมกอดทักทายกัน ก่อนที่เจ้าสัวธนาจะได้พบเจอเรื่องเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่า เมื่อเหลือบไปเห็นว่ามีหญิงสาวฝรั่งกำลังก้าวตามพยัคฆ์ลงมาจากรถ
