บทที่ 9 บทที่ 9

หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ ดลลดาเห็นหญิงสาวที่มีคราบน้ำตาเต็มหน้าไปหมด เห็นแก้มใสที่แดงเรื่อ ริม-ฝีปากบวมเจ่อ สาวน้อยไม่กล้าเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ใครฟังได้ แม้แต่อรอนงค์ ดลลดาคิดไม่ถึงว่าจะต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ น้ำตาของเธอไหลออกมา ทว่าไม่ใช่เพราะรังเกียจในสิ่งที่ชวนนท์ทำ แต่เป็นเพราะหญิงสาวเผลอตัวไปกับเขา และไม่คิดว่าจะถูกไล่ออกมาอย่างคนไร้ค่าแบบนี้ เขาทำเรื่องแบบนี้กับเธอได้ยังไง และดลลดาก็ปล่อยให้น้ำตาไหลรินจนพอใจแล้ว จึงล้างหน้าและใช้กระดาษทิชชู่ที่อรอนงค์ให้มาซับน้ำออกจากใบหน้า จากนั้นก็ใช้แป้งพัฟผัดหน้าให้พอเนียนใส ก่อนจะกลับมานั่งทำงานต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว หัวใจดวงน้อยยังคงเต้นกระหน่ำ เสียงตวาดขับไล่ของชายหนุ่มยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทการรับรู้ หญิงสาวกล้ำกลืนฝืนใจนั่งทำงานต่อ พยายามท่องในใจว่า เพื่อใบรับรองการผ่านงานเธอต้องทนได้ และตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เธอจะไม่มีทางยอมอยู่ในห้องกับชวนนท์สองต่อสองอีกเด็ดขาด

จนกระทั่งถึงเวลาเลิกงาน ดลลดาได้ยินเสียงประตูห้องทำงานของชวนนท์เปิดออก ก่อนจะเห็นร่างสูงเดินออกมา หล่อนก้มหน้าก้มตาพยายามไม่สนใจเขา จนร่างสูงของชวนนท์เดินผ่านไปอย่างไม่สนใจเธอเลย สาวน้อยผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ดลลดาไม่อยากให้เขามองเห็นตัวเธอเลยด้วยซ้ำ เธอหลบหน้าแล้วเก็บเอกสารให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนคว้ากระเป๋าสะพายใบย่อมของตนมาคล้องไหล่ ซึ่งอรอนงค์ก็เก็บของเสร็จแล้วเช่นกัน จากนั้นสองสาวก็พากันกลับไปยังที่พักของตน

เมื่อดลลดากลับมาถึงห้องพักที่เป็นอพาร์ตเม้นท์ 4 ชั้น ราคาถูก ที่นี่เจ้าของอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ แต่ห้ามทำสกปรกเลอะเทอะเด็ดขาด ดลลดาจึงมีเจ้าขนฟู ซึ่งเป็นแมวเปอร์เซียสีเทาสลับขาว ตัวอ้วนกลมปุ๊ก เป็นเพื่อนแก้เหงาได้อย่างดี

“เจ้าขนฟู วันนี้ดรีมโดนรังแกด้วยล่ะ เขาใจร้ายจังเลย ดรีมจะทำยังไงดีล่ะเจ้าขนฟู”

ดลลดายกมือบางลูบขนฟูๆ ของเจ้าแมวน้อยไปมา ด้วยใจดวงน้อยที่สับสน

ณ คอนโดหรูใจกลางเมือง ในห้องพักชั้นบนสุดของคอนโดแห่งนี้  ชวนนท์ที่ตอนนี้ยังอยู่ในชุดทำงานชุดเดิม เพียงแต่เขาถอดเสื้อสูท และถอดเน็คไทสีเข้าชุดกันออก  ร่างสูงแข็งแกร่งกำลังยืนมองดูทิวทัศน์ยามราตรีเบื้องล่าง มือข้างหนึ่งถือแก้ววิสกี้รสเลิศยกขึ้นจิบเป็นระยะ มืออีกข้างเท้าสะเอวหนาไว้ ดวงตาคมกริบทอดมองเบื้องล่างอย่างไร้จุดหมาย

ประตูห้องน้ำเปิดออก ร่างระหงงดงามของนางแบบสาวชื่อดัง แพรวพรรณนาราย วิจิตรโสภา  ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวยาวแค่เข่า เดินนวยนาดออกมาหาชายหนุ่ม ลำแขนเรียวเสลาสอดเข้ากอดเอวหนาเอาไว้ พลางซบใบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างอย่างออดอ้อนออเซาะ

“ฌอห์นคะ วันนี้แพรวว่าคุณดูไม่ค่อยสดชื่นเลย มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ บางทีแพรวอาจจะช่วยคุณได้นะคะ” หล่อนบอกอย่างเอาใจ ถึงแม้จะรู้ว่าชวนนท์ไม่เคยบอกกล่าวเรื่องส่วนตัวให้เธอฟังเลย แต่เธอก็ยังจะหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาบ้าง

“ไม่มีอะไร แค่รู้สึกเบื่อๆ”

“คุณมาหาแพรวแล้ว แพรวจะทำให้คุณหายเบื่อเองค่ะ” นางแบบสาวสวยบอก และเริ่มเปลื้องชุดคลุมอาบน้ำออกจากร่างงาม

แพราวพรรณรายนั้นชื่นชอบอารมณ์ดิบเถื่อนของชายหนุ่มอยู่มาก และนี่เองก็เป็นสิ่งหนึ่งของเขาที่หล่อนหลงใหล นอกจากรูปสัมบัติและทรัพย์สมบัติของชายหนุ่ม ความใจร้อน เอาแต่ใจ และความรุนแรง ทำให้เธอขึ้นสวรรค์ได้อย่างรวดเร็ว

ชวนนท์ปรายตาไปมองร่างเปลือยเปล่านั้น แต่ร่างที่ชายหนุ่มเห็นในตอนนี้ กลับไม่ใช่เรือนร่างของแพรวพรรณราย แต่เป็นร่างอรชรอวบอิ่มของสาวน้อยดลลดา แววตาคมกริบฉายแววหวานออกมาชั่ววูบ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเววตาของความหมางเมิน เมื่อเขากะพริบตาแล้วร่างที่เห็นอยู่นั้นกลับเป็นร่างของแพรวพรรณราย

ร่างสูงหมุนตัววางแก้วเครื่องดื่มในมือลงบนโต๊ะตัวเล็กที่ตั้งอยู่บริเวณนั้น ก่อนจะเอื้อมมือและใช้ปลายนิ้วเรียวเกี่ยวเสื้อสูทที่ถอดพาดไว้บนเก้าอี้ขึ้นมาพาดบ่า

“ฌอห์นคะ” แพรวพรรณรายเห็นดังนั้นก็หน้าเสีย

“ผมจะกลับ” ชวนนท์หันไปบอกหญิงสาว

“อะไรนะคะ นี่เรายังไม่ได้...” เสียงสั่นพร่าของหล่อนนั้นน่าสงสาร แต่ชายหนุ่มก็ไม่เห็นใจ ชวนนท์โยนเงินปึกหนึ่งบนโต๊ะตัวเล็กที่วางแก้ววิสกี้เมื่อครู่

“นี่ของคุณ จะเอาไปใช้อะไรก็ได้ตามสบาย”

“แต่...”

“ถ้าคุณมีปัญหา พรุ่งนี้ผมจะโอนเงินเข้าบัญชีให้ก้อนหนึ่ง และเราอย่าได้เจอกันอีก”

ไม่ทันที่แพรวพรรณรายจะได้ตอบอะไร ชวนนท์ก็เดินจากไป ไม่เหลียวแลมายังร่างที่ยังคงเปลือยเปล่าอีกเลย ปล่อยให้แพรวพรรณรายกระทืบเท้าเต้นเร่าๆ อย่างขัดใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วันนั้นดลลดาก็ไม่เคยได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองกับชวนนท์อีก เขาจะเรียกหาแต่อรอนงค์ ไม่ได้เรียกเธอเข้าพบเลย ทำให้ดลลดาเริ่มมีสมาธิในการทำงานมากขึ้น แต่หล่อนก็ไม่มีวันลืมเหตุการณ์วันนั้นลงได้ เวลาเผชิญหน้ากับชวนนท์ หญิงสาวก็เอาแต่ก้มหน้า ส่วนชายหนุ่มก็ไม่แม้แต่จะทักทาย เรียกได้ว่าแทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลยด้วยซ้ำ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป