บทที่ 1 ผู้ช่วยเลขาคนใหม่

แมกไม้ร่มรื่นยืนเรียงรายอยู่สองข้างทางทั้งเล็กใหญ่ ทำให้อากาศที่นี่สะอาดบริสุทธิ์อย่างไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ตรงใจกลางกรุงเทพฯ เมืองที่แสนวุ่นวาย รถราวิ่งกันขวักไขว่ มลพิษถูกพ่นออกมาแทบจะจากทุกสรรพสิ่งไม่หยุดหย่อน

ณิชชายืนยิ้มกว้างมองอาคารสูงใหญ่แห่งหนึ่งที่อยู่สุดปลายทางเดินนั้น หญิงสาวร่างเล็กบาง ใบหน้าหวาน จบปริญญาตรีมาได้สองปีแล้ว เธอทำงานเป็นเลขาของประธานบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งทันทีที่เรียนจบ จนกระทั่งได้รับคำแนะนำจากใครบางคนให้ลองเปลี่ยนสถานที่ทำงานเพื่อวางรากฐานของอนาคตดูบ้าง หลังจากสั่งสมประสบการณ์มาพอสมควรแล้ว นั่นทำให้ณิชชายอมสลัดความคิดที่ว่า ตัวเองเป็นเพียงเด็กต่างจังหวัดและไม่มีความสามารถมากพอที่จะเข้าไปอยู่ในจุดที่สูงกว่าที่เคยเป็นได้ลงเสีย

ใครบางคนที่ณิชชา เคยรัก และยังรักจนสุดหัวใจ ใครบางคนที่จากเธอไปหนึ่งปีเต็มแล้ว

‘ไม่ต้องรอพี่หรอก ถ้าเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทุกอย่างในชีวิตณิชน่าจะดีขึ้น’.เขาบอกเอาไว้แบบนั้น ก่อนจะจากไป

‘แต่ณิชไม่ต้องห่วงนะ.พี่จะคอยดูแลณิชเสมอ’

‘ณิชอยากให้พี่อัคอยู่ด้วยกันมากกว่า พี่อัคคอยดูแลใกล้ ๆ ไม่ได้เหรอคะ’

หญิงสาวคิดไปถึงวันที่ตัวเองน้ำตานองหน้า เมื่อคนรักตัดสินใจจะแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยการเดินออกไปจากชีวิตของเธอ

ปัญหาชีวิตคู่ของพวกเธอก็ราวกับละครน้ำเน่าเคล้าน้ำตาที่หาได้จากชีวิตจริงอย่าง แม่ของพี่อัค หรือ อัครชัย คนรักเพียงคนเดียวในชีวิตของณิชชา ไม่พอใจอย่างมากที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนจะได้

แฟนสาวที่เป็นคนบ้านนอก ไร้หัวนอนปลายเท้า ไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัวเลยสักอย่าง หล่อนยื่นคำขาดทันทีว่าให้ทั้งคู่แยกจากกันที่รู้ว่าเธอเป็นแฟนของลูกชาย ไม่อย่างนั้นด้วยอิทธิพลบางอย่าง ณิชชาจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในสังคมนี้เลย

ถึงตอนนั้นเองที่ณิชชารู้ว่า เพราะอะไรอัครชัยจึงไม่เคยพาเธอไปแนะนำให้กับคนที่บ้านได้รู้จัก แม้จะคบกันมาตั้งแต่เธอเข้าปีหนึ่งในมหาวิทยาลัย

‘รู้ใช่ไหมว่าพี่ไปเพราะพี่เป็นห่วงณิช’หญิงสาวพยักหน้าทั้งที่น้ำตายังนองอยู่ในอ้อมกอดแกร่งของเขา นัยน์ตาที่โศกอยู่แล้ว พาให้คนเห็นยิ่งเป็นห่วง

‘เราน่าจะมีวิธีทางแก้ที่ดีกว่านี้นี่คะ หรือว่าจริง ๆ แล้วพี่อัคก็ไม่ได้คิดถึงอนาคตร่วมกับณิช” สาวน้อยไร้อำนาจวาสนาส่งเสียงออกมาอย่างน่าสงสาร

‘อย่าคิดแบบนั้น ณิชก็รู้ว่า คุณแม่ไม่ได้ให้เวลาเราคิดมากขนาดนั้น ถึงตอนนี้ทำอะไรได้ก็คงต้องทำไปก่อน” อ้อมแขนหนากระชับร่างบางแน่น เขาล่วงรู้แผนของมารดาตัวเองหมดแล้ว ลูกน้องของแม่หลายคนคงอยู่กันรอบ ๆ คอนโดนี้ และพร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่งทันทีที่มารดาออกเอ่ยปาก  แม่ไม่ได้หมายเอาชีวิต แต่สิ่งที่แม่ต้องการคือ ให้ณิชชาอับอาย และเจ็บปางตาย คนพวกนั้นจะรุมทำร้ายร่างเล็ก ๆ ที่เขาเฝ้าทะนุถนอมมาหลายปีนี่จนไม่เหลือชิ้นดี เขาไม่มีเวลาคิดอ่านอย่างอื่นได้อีกแล้ว

‘คุณแม่พี่จะทำอะไรคะ’

อัครชัยตอบอะไรไม่ได้ สิ่งที่เขาทำได้ก็เพียงกระชับอ้อมกอด ส่งผ่านความ รู้สึกห่วงใย และพร้อมจะปกป้องก็เท่านั้น

‘ไม่ต้องรู้หรอก เอาเป็นว่า ต่อจากนี้ไปพี่มาหาณิชไม่ได้อีกแล้ว แต่จงจำไว้ว่า พี่รักและเป็นห่วงณิชมากที่สุด และถึงแม้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน พี่ก็จะคอยดูแลณิช’

‘ณิชจะรอพี่อัคนะคะ นานแค่ไหน ณิชก็จะรอ’

‘อย่ารอพี่เลย.พี่คงไม่ได้กลับมา’ ชายหนุ่มพูดเสียงเบา แม่ของเขาไม่ใช่คนธรรมดา เป็นนักธุรกิจทรงอิทธิพล พ่อเลี้ยงของเขาแม้ไม่ได้เปิดเผยเป็นสาธารณะ แต่ใคร ๆ ก็รู้ว่า เป็นมาเฟียสีเทารายใหญ่ ที่นึกอยากชี้นิ้วสั่งใครให้อยู่ สั่งใครให้ตายก็ย่อมเป็นไปตามนั้น

“พี่อัค”

ณิชชาถอนหายใจยาวเมื่อคิดถึงวันสุดท้ายที่ได้คุยกัน

เอี๊ยดดด...

เสียงรถหรู สีน้ำเงินเงาวับเบรกดังสนั่น ณิชชาสะดุ้ง หัวใจเต้นแรงราวกับจะทะลุออกมานอกอก อีกแค่เพียงไม่ถึงห้าเซนติเมตรเธอก็จะถูกรถคันนี้ชนแล้ว เมื่อได้สติจึงสำรวจตัวเองและพบว่า ตัวเองลงมาเดินตรงถนนได้อย่างไร ตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบ คงจะมัวแต่คิดเรื่องเก่า ๆ จนเผลอเดินลงมาจากฟุตบาธ ใบหน้าคนขับที่เห็นผ่านฟิล์มกรองแสงเกือบทึบนั้น แสดงว่ากำลังมองเธออย่างโกรธเคือง แต่ณิชชากลับตะลึงกับภาพที่เห็น

“พี่อัค!”

“สวัสดีค่ะคุณสินธุ์ ทำไมวันนี้หน้าเป็นแบบนั้นล่ะคะ ใครทำให้ไม่พอใจอีก” ประภาพรเลขาสาวใหญ่ที่ทำงานที่นี่มาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อถามขึ้นทันทีที่เห็นชลาสินธุ์เดินออกมาจากลิฟต์ชั้นสูงสุดของบริษัท ซึ่งเป็นที่ทำงานของเธอ

“ไม่มีอะไรมากมายหรอกครับคุณภา แค่ไปเจอคนบ้าเข้าน่ะ”

“บ้า? ใครคะบ้า”

“ไม่มีอะไรหรอกครับ คงจะเข้ามาสัมมนาอะไรสักอย่างแถว ๆ นี้มั้ง คุณภา ผมขอกาแฟหน่อยนะครับ”

ชลาสินธุ์ ทายาทคนโตของเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังมีดีลลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ส่วนใหญ่เน้นสร้างคอนโด หมู่บ้านหรู ตามเมืองใหญ่ ๆ และยังรับจ้างสร้างอาคารที่มีมูลค่าร้อยล้านขึ้นไป นอกจากนี้ยังทำอพาร์ตเมนต์ตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ อาคารโรงงานให้เช่า รวมถึงโรงแรมที่ทั้งครอบครัวช่วยกันดูแลด้วย เขาและน้อง ๆ กลายเป็นนักธรุกิจที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้

ธารากานต์ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่ครอบครัวของเขาก็รัก และดูแลน้องคนนี้มาอย่างดี เรื่องตลกก็คือ น้องแท้ ๆ ของเขาอีกสองคน กลับมีทีท่าว่ารักและใส่ใจธารากานต์ มากกว่าพี่ชายแท้ ๆ อย่างเขาซะอีก

บทถัดไป