บทที่ 4 อดีตของณิช 2

ณิชชายืนอยู่ป้ายรถเมล์ตรงหน้าอาคารชลาจิราอีกครั้ง หญิงสาวภูมิใจอย่างที่สุดที่ได้ทำงานที่นี่ เวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า เธอทำมันได้ดี พี่ภา หรือคุณประภาพรเลขาท่านประธานชมเธอทุกวันเรื่องงาน ส่วนท่านประธานเองนั้น แม้จะมีแววตาแปลก ๆ เวลาที่มองเธอ แต่

หญิงสาวก็ไม่เคยได้รับคำตำหนิใดๆ

สิ่งที่เธอต้องการก็แค่นี้ แค่ให้เธอภูมิใจ ให้พี่อัคของเธอภูมิใจที่เธอทำได้อย่างที่เขาบอกทุกอย่าง

อาคาร ชลาจิรา หรือ ซีเจ ตั้งตระหง่าน เหมือนกับอัครชัย มันยิ่งใหญ่ในชีวิตของเธอเหมือนกับเขา เป็นที่กำบังฝน ที่ที่มอบโอกาส และที่ที่ให้ความเจริญเติบโต แม้เธอจะมาอยู่ที่นี่เพียงเดือนเดียว แต่หญิงสาวเห็นอนาคตของตัวเองแน่นอนแล้ว

เรื่องอื่นเธอไม่สนใจเลยสักนิด แค่ทำให้คนที่พยายามหนุนหลังเธออยู่ได้ภาคภูมิใจในความสำเร็จของเธอเท่านั้นก็พอ

ณิชชาเป็นเด็กต่างจังหวัด ใช้ชีวิตกันมากับแม่เพียงสองคน นี่ก็เป็นอีกคนที่เป็นลมใต้ปีของเด็กหญิงณิชชามาตลอด แม้ว่าตัวเองจะยากลำบากแค่ไหน แต่แม่ก็พยายามอย่างมากที่สุดให้เธอได้ พอขึ้นม.ปลาย ณิชชาก็แบ่งเบาภาระแม่ด้วยการทำงานส่งตัวเองเรียนบ้าง และเมื่อเรียนจบมีงานมีการทำ แม่ของณิชชาก็ไม่ได้ลำบากอีกต่อไปแล้ว

อันที่จริงเงินเดือนที่ณิชชาได้รับนั้นไม่น้อยเลย แต่เพราะต้องการให้แม่อยู่อย่างสุขสบาย หญิงสาวจึงเลือกที่จะเช่าคอนโดเล็กๆ ชานเมือง แล้วนั่งรถเมล์มาทำงานแทนที่จะซื้อรถ หรือสร้างบ้านของตัวเอง

“แม่ไม่ต้องห่วงนะ หนูจะทำให้แม่มีความสุขเอง” เธอเคยบอกกับแม่แบบนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เธอจะรักษาของตัวเองได้ตลอดรอดฝั่ง

รถยนต์คันหรูเลี้ยวออกจากโรงแรมผ่านหน้าเธอไป เธอรู้ดีว่า มันเป็นรถของใคร เพราะทุกครั้งหากว่าประธานของเธอไม่ขับรถเอง จากรถเบนท์ลี่ย์สีน้ำเงินเงางาม จะกลายเป็นเมอร์เซเดส เบนซ์ วีคลาส สีดำสนิท

ดำเหมือน...แววตาของเขา

ทันทีที่คำคำนี้ผุดขึ้นมา แววตาสีดำทมึนของคนที่อยู่ด้านหลังรถหรูคันนั้นก็สบตาเข้ากับเธอเข้าพอดี

อยู่กันมาเป็นเดือนแล้ว แต่หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองเข้าไม่ถึงความรู้สึกในแววตานั้นเลย...ไร้ความรู้สึก

ใช่...มันเป็นแววตาที่ไร้ความรู้สึก แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นแววตาที่ไร้ความรู้สึกสำหรับเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น...ทำไมกัน?!

ประภาพรยื่นใบลาออกแล้ว และหลังจากทำเรื่องทุกอย่างเสร็จ เลขาสาวใหญ่ยังมีเวลาทำงานต่ออีกหนึ่งเดือน แต่ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งเดือนที่เธอใช้วันลาได้สิ้นเปลืองมาก

‘ที่ผ่านมา พี่แทบไม่ได้ลาเลย’ เธอว่าอย่างนั้น เมื่อณิชชาส่ง

แววตาน่าสงสารใส่เมื่อได้ข่าวว่า รุ่นพี่เตรียมจะลากิจอีกแล้ว อย่างวันนี้เธอก็มีธุระบางอย่างต้องทำในช่วงเช้า จึงจะเข้ามาออฟฟิศตอนบ่ายแทน ทิ้งให้ณิชชาอยู่กับกองเอกสารสำคัญกองใหญ่

หญิงสาวไม่มีทางเลือกนอกจากรายงานกับเจ้านายทันทีที่เขามาถึงว่า อีกสักครู่จะนำเอกสารสำคัญอย่างน้อยสามอย่างเข้าไปให้เซนชื่อ

ณิชชาหอบเอาแฟ้มเอกสารหลายแฟ้มเข้ามาหาเจ้าของห้อง โดยยื่นอันที่สำคัญไว้ตรงหน้าเจ้านายเลย ขณะที่อันที่ยังไม่เร่งด่วนนั้นถูกแยกวางไว้ที่ขอบโต๊ะทำงาน

ชลาสินธุ์ก้มหน้าก้มตาอ่านมันอย่างละเอียดก่อนจะบรรจงเซ็นชื่อของตัวเองลงไปในแต่ละแฟ้ม

ณิชชาชอบมองการกระทำนั้นแล้วนึกไปถึงตอนที่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย อัครชัยเป็นประธานนักศึกษา หญิงสาวมักจะเข้าไปช่วยงานบ่อย ๆ อัครชัยเป็นคนตั้งใจทำงานมาก ทำกิจกรรมเยอะมากทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย แต่ก็ยังเป็นคนที่เรียนเก่งมาก และนั่นก็พาให้หญิงสาวตั้งใจเรียนเพื่อที่จะเป็นคนที่เหมาะสมกับเขาด้วย

อัครชัยก็มักนั่งก้มหน้าอ่านเอกสารอย่างละเอียดรอบคอบแบบนี้ทุกครั้ง ก่อนจะเซ็นต์ชื่ออนุมัติโครงการอะไรสักอย่างที่ทางชมรมหรือกิจการนักศึกษาส่งมาให้พิจารณา

“พี่อัค...” ...พี่อัคอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว

“หืม? ว่าไงนะ”

“เอ่อ ขอโทษค่ะ คุณสินธุ์” ณิชชาระล่ำระลักเมื่ออีกคนเงยหน้าขึ้นมา แล้วพบว่า ไม่ใช่ คนตรงหน้านี้ไม่ใช่พี่อัคของเธอ แต่เป็นเจ้าของดวงตาไร้แววคนหนึ่งต่างหาก

“มองฉันทำไมขนาดนั้น ต้องการอะไร?” เสียงเยือกเย็นนั้นทำให้ณิชชาขนลุกซู่

“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร” หญิงสาวก้มหน้างุด สายหัวปฏิเสธจนกลัวว่าคอจะหัก ภาพแววตาดำๆ น่ากลัวนั้นโผล่เข้ามาในหัว

“เอ้า  เสร็จแล้ว” ชลาสินธุ์ส่งเสียงดุแล้วยกแฟ้มเอกสารนั้นขึ้น ก่อนนจะวางหนัก ๆ ลงบนมือของณิชชา หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว แฟ้มที่เขาส่งให้จึงตกลงพื้นทั้งหมด แล้วขาของเธอก็พลาดเหยียบลงไปบนแฟ้มหนึ่งตอนที่ตกใจมากๆ ทำให้เกือบจะล้ม หญิงสาวคว้าข้อมือเจ้าของห้องไว้มั่นตามสัญชาตญาณ และเขาก็จับเธอเอาไว้ตามสัญชาตญาณเช่นเดียวกัน

แรงกระชากของเขาตวัดร่างของเธอจากที่จะล้มหงายหลังกลายเป็นคะมำมาข้างหน้า จนใบหน้าของเธออยู่ห่างจากใบหน้าถมึงทึงของเขาไม่กี่เซนติเมตร

...ใกล้ความตาย...ณิชาอยากจะกรีดร้องให้กับความซุ่มซ่ามของตนเอง ที่พาตัวเองมาอยู่ใกล้ความตายมากขนาดนี้

“เอ่อ...ขอโทษค่ะ”

“ปกติเป็นคนซุ่มซ่ามแบบนี้หรือเปล่า” เสียงต่ำที่ไม่สามารถบอกอารมณ์ได้ถามขึ้น

เอ่อ...ดิฉันขี้ตกใจค่ะ”

“อ้อ...”

“แล้วทำไมยังไม่ไปอีก หรือว่าต้องให้ฉันเก็บแฟ้มพวกนั้นให้เธอด้วย”

“ค่ะ ค่ะ ขอโทษค่ะ”

หญิงสาวรีบเก็บข้าวของที่ตกอยู่แล้วรีบเดินออกมาจากห้องท่านประธานทันที เมื่อมาถึงที่โต๊ะตัวเองณิชชาก็รีบเอามือถือของตัวเองออกมา แล้วใช้ข้อความของอัครชัยในแอปพลิเคชั่นออกมาอ่านเพื่อลบกระแสความน่ากลัวในสายตาของคนที่อยู่ในห้อง

ความอบอุ่นของพี่อัค ไม่มีใครเทียบได้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป