บทที่ 5 มีธุระอะไร
หน้าบริษัทที่เต็มไปด้วยพนักงาน เวลานี้พวกเขาพากันเร่งฝีเท้าเพื่อไปรอขึ้นลิฟต์ เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง กฏระเบียบจึงเป็นสิ่งแรกที่ผู้บริหารและพนักงานทุกคนให้ความสำคัญ
“สวัสดีค่ะ พี่ใช่พนักงานใหม่ใช่มั้ยคะ” สาวสวยคนหนึ่งที่อยู่ในชุดนักศึกษาเอ่ยทักขึ้น เมื่อใบเฟิร์นมาหยุดยืนอยู่ในลิฟต์ข้าง ๆ เธอ
“ใช่ค่ะ” ใบเฟิร์นหันไปตอบพลางยิ้มหวานให้
“ก็ว่าอยู่ หนูมาฝึกงานที่นี่เกือบสองเดือนแล้ว แต่ยังไม่เคยเห็นพี่” เพราะเธอรู้สึกสะดุดตากับความสวยของใบเฟิร์น แม้จะเป็นผู้หญิงด้วยกันเธอยังรู้สึกชื่นชม “หนูชื่อปอลินนะคะ”
“พี่ชื่อใบเฟิร์นค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ขอหนูจับมือหน่อยได้มั้ยคะพี่ใบเฟิร์น” เธอยื่นมือออกไปอย่างสุภาพ รู้สึกเกรงใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็ทำใจกล้า
ใบเฟิร์นเองก็ไม่ใช่คนเย่อหยิ่งอะไร เธอยื่นมือออกไปให้ปอลินจับแต่โดยดี ซึ่งใบเฟิร์นก็สัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นของนักศึกษาฝึกงาน เธอมองใบหน้าของปอลินอีกครั้งก่อนจะยิ้มอ่อน ๆ ให้เพราะความเอ็นดู แม้ว่าอายุของทั้งคู่จะห่างกันไม่เยอะเท่าไหร่ แต่เธอกลับมองว่าปอลินเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง
“หนูต้องไปแล้วค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” เธอบอกใบเฟิร์นขณะลิฟต์จอดที่หน้าแผนกของเธอ
“จ้า”
ก่อนที่ปอลินจะเจอกับใบเฟิร์นในวันนี้ เธอได้ฟังเรื่องราวของใบเฟิร์นมาจากพนักงานคนอื่น ๆ บ้างแล้ว แน่นอนว่าความสวยของใบเฟิร์นก็เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ถูกพูดถึง นอกเหนือจากนั้นยังมีเรื่องที่ปอลินเปิดตำแหน่งใหม่เพื่อรักใบเฟิร์นเข้าทำงานโดยเฉพาะด้วย
ใบเฟิร์นเดินเข้าไปยังห้องของอลิน เพราะโต๊ะทำงานของเธอถูกวางไว้ในห้องนั้น ตอนแรกเธอก็ปฏิเสธ แต่เพราะความเอาแต่ใจของเพื่อนสนิทจึงคะยั้นคะยอให้ใบเฟิร์นนั่งทำงานในห้องนี้จนสำเร็จ
“พี่แหม่มคะ”
“คะน้องเฟิร์น” เธอเงยหน้าจากกองเอกสาร
“ให้เฟิร์นช่วยมั้ยคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เพราะรู้ว่าใบเฟิร์นเป็นเพื่อนสนิทของเจ้านาย และดูเหมือนว่าอลินจะหวงมากด้วย เธอเลยไม่อยากรบกวน
แม้ช่วงสองสามวันแรก เรื่องการรับพนักงานเข้าทำงานด้วยตำแหน่งใหม่จะแพร่สะพัดไปทั่วบริษัทอย่างรวดเร็ว บรรดาพนักงานหลาย ๆ คนก็มีท่าทีไม่ค่อยพอใจ เพราะบริษัทแห่งนี้คัดคนเข้าทำงานด้วยมาตรฐานที่สูง แต่ใบเฟิร์นกลับได้เข้าทำงานโดยง่ายและยังได้รับสิทธิพิเศษมากมายอีก หลายคนจึงพยายามพูดใส่หูของเลขาสาวว่าต่อไปตำแหน่งเลขาอาจจะตกเป็นของใบเฟิร์น เตรียมหางานใหม่ได้เลย
แต่เพราะแหม่มทำงานกับอลินมาหลายปี ตั้งแต่เธอเป็นผู้บริหารฝึกหัด แม้ว่าอลินจะเป็นเด็กสาวที่เอาแต่ใจไปบ้าง แต่เธอก็เป็นคนที่มีเหตุมีผล เลขาสาวอย่างแหม่มเลยไม่ได้กังวลเรื่องนั้น
“ให้เฟิร์นช่วยเถอะค่ะ ตอนนี้เฟิร์นไม่มีงานเลย มานั่งเฉย ๆ ทุกวันก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
“เอางั้นเหรอ” เมื่อโดนตื้อเยอะ ๆ เธอจึงยอมใจอ่อนแบ่งงานให้ใบเฟิร์นไป
หลายครั้งที่เธอแอบชื่นชมใบเฟิร์น เพราะอลินมอบหมายให้เธอเป็นพี่เลี้ยงของใบเฟิร์นไปด้วย ทำให้เธอมีโอกาสได้สอนงานให้ใบเฟิร์น ทำให้รู้ว่าคำพูดของอลินในวันสัมภาษณ์งานคือเรื่องจริงทั้งหมด ไม่ใช่การยกยอปอปั้นเพื่อให้คนอื่นเห็นด้วย
“ทำอะไรกันอยู่คะ” เสียงเจื้อยแจ้วของคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ถามขึ้น เมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทและเลขาส่วนตัวกำลังก้มหน้าก้มตาดูเอกสารกันอย่างจริงจัง
“พอดีพี่ให้น้องเฟิร์นช่วยทำเอกสารค่ะ”
“ดีเลยค่ะ เฟิร์นจะได้เรียนรู้ เผื่อได้เป็นเลขาหน้าห้องพี่ชายของลิน”
“คุณอคิณเหรอคะ” เลขาสาวถามขึ้นทันที
“เปล่าค่ะ”
“หรือคุณอเล็กซ์” เธอทายว่าเป็นอเล็กซ์แน่ ๆ เพราะอลินมีพี่ชายแค่สองคน หากไม่ใช่อคิณ แน่นอนว่าต้องเป็นอเล็กซ์
“ลินแค่พูดเผื่อไว้ เพราะช่วงนี้ดูเหมือนว่าพี่อเล็กซ์จะสนใจงานที่บริษัทขึ้นมา”
เมื่อสองวันก่อนขณะที่อลินกำลังนั่งรถเข้ามาในบริษัทหลังออกไปพบลูกค้ากับใบเฟิร์น เธอเห็นรถพี่ชายจอดอยู่หน้าบริษัท ด้วยความสงสัยเธอจึงโทรหาจึงได้รู้ว่าพี่ชายนั่งรออยู่ในห้องทำงาน
“เฟิร์นไปรอที่ห้องประชุมเลยนะ เดี๋ยวลินตามไป” เธอหันไปบอกใบเฟิร์นก่อนจะแยกตัวออกไป
อลินเดินเข้าไปในห้องก็เจอชายหนุ่มร่างสูงนั่งอยู่บนเก้าอี้ประจำตำแหน่งผู้ช่วยของเธออยู่
“ไม่มีที่นั่งแล้วเหรอคะ” อลินขมวดคิ้ว
“ทำไม นั่งตรงไหนก็เหมือนกันมั้ย” เขาเลิกคิ้วถาม
“มีธุระอะไรคะ ถึงได้มาถึงที่นี่” ทั้งที่ปกติไม่เคยมาเฉียดเข้ามาด้วยซ้ำ
“ผ่านมา เลยแวะมาเยี่ยม”
“เฮอะ...วันดีคืนดีไม่เคยเห็น อยู่ ๆ วันนี้บอกว่าแวะมาเยี่ยม ถ้าลินเชื่อพี่ก็บ้าแล้ว” เธอสงสัยว่าพี่ชายต้องมีแผนอะไรแน่ ๆ
“ยังมีตำแหน่งว่างให้พี่บริหารบ้างมั้ย”
“ไปถามพี่คิณสิ มาถามลินทำไม” เธอไม่เข้าใจว่าพี่ชายคนนี้กำลังต้องการอะไร “พี่จะรื้อโต๊ะทำไม”
ขณะนั่ง อเล็กก็เปิดลิ้นชักไปเรื่อย หยิบนั่นหยิบนี่ขึ้นมาดูแล้ววางไว้บนโต๊ะ แม้ของพวกนั้นจะไม่ใช่ของ ๆ เธอ แต่เธอก็ไม่ค่อยชอบใจนัก
“ถึงขนาดเอามาไว้ในห้องเลยเหรอ เธอคนนี้คงจะไม่ธรรมดา” เขาเปิดดูเอกสารที่เจ้าของโต๊ะทำไว้เพื่อเสนอในที่ประชุม
“ก็คนที่ลินบอกพี่ไง” อลินเตือนความจำพี่ชาย เหมือนเธอจะพูดเรื่องนี้กับเขาไปแล้ว
“เพื่อนที่ให้พี่ช่วยหาคนนั้นเหรอ”
