บทที่ 5 ขึ้นเขาเผื่อได้โชค
มื้อเย็นเป็นท่านแม่ที่ทำอาหาร น้ำแกงปลา กับปลาย่าง พร้อมข้าวสวย เป็นมื้อที่ทุกคนพอใจ ขนาดท่านพ่อจางหมินยังกินข้าวได้เยอะขึ้นตั้งหนึ่งถ้วย
หลังมื้อเย็นลู่จื้อที่ได้พักแล้วจึงชวนลู่เพ่ยไปทำหลุมดักปลา หลุมดักปลาของลู่จื้อนั้น นางทำริมแม่น้ำที่น้ำไหลดีและเลือกให้ห่างไกลจากชาวบ้าน นางขุดหลุมแล้วนำหินมาล้อมไว้รอบๆ
ลู่เพ่ยมองดูเขายังไม่คิดว่าจะมีปลาที่ไหนมาเข้าได้ แต่พอช่วยน้องสาวขุดหลุมที่สาม หลุมที่สี่ หลุมแรกก็มีปลาที่ไหลกับน้ำเข้ามาในหลุมแล้วว่ายออกไม่ได้
“เจ้า รู้ได้อย่างไรว่าต้องทำหลุมเช่นนี้” น้องสาวเขาตอนอยู่บ้านใหญ่ทำงานต่างวัวต่างม้า ไม่มีทางที่จะมีคนสอนให้ทำเช่นนี้แน่
“ข้าเดา” ลู่จื้อเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าใสซื่อ
“…” ลู่เพ่ย
“วันนี้ขุดเพียงห้าหลุมก็พอ พรุ่งนี้เช้าค่อยมาจับปลาไปขาย” สองพี่น้องจึงพากันเดินกลับบ้าน
ลู่จื้อมาถึงบ้านก็อาบน้ำ นางยังบังคับให้พี่ชายไปอาบน้ำด้วย ชาวบ้านทั่วไปจะอาบน้ำวันละครั้งหรือไม่อาบเลย แต่น้องสาวเขาตั้งแต่หายจากไม่สบายนางอาบวันละสองครั้ง แล้วยังบังคับให้เขากับท่านแม่ทำแบบนางด้วย
ยามเหมา (05.00-06.59น.) สองพี่น้องหิ้วถังน้ำไปใส่ปลากัน พอถึงหลุมที่ขุดไว้ลู่เพ่ยถึงกับตะลึงอ้าปากค้าง ปลาอยู่เต็มทุกหลุม ถังน้ำที่เตรียมมาสองใบไม่พอใส่เลยทีเดียว
ลู่จื้อให้ลู่เพ่ยไปยืมถังน้ำบ้านป้าหนิง เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วยังช่วยเหลือบ้านรองจางเสมออีกด้วย แล้วยังให้ขอยืมรถเข็นมาด้วย เพราะหากต้องแบกถังใส่ปลากลับบ้านไม่รู้ว่าทั้งสองจะต้องแบกกี่รอบ
สองพี่น้องเข็นปลากลับถึงบ้านก็เข้าปลายยามเฉินแล้ว (07.00-08.59น.) ทั้งคู่หิวโหยกันมาเลย เมื่อท่านแม่เรียกกินข้าวก็ก้มหน้าแข่งกันกินทันที จากนั้นก็ช่วยกันเข็นรถเข้าเมืองเพื่อขายปลา ลู่จื้อหาผ้ามาคลุมปิดสายตาชาวบ้านแต่ก็มีคนอยากจะรู้อยู่ดี
“ลู่จื้อ ลู่เพ่ย เจ้าสองคนจะไปไหนกัน นั่นเข็นอะไรมาด้วย”
“นั่นสิ มีเรื่องดีๆ ก็ต้องบอกกล่าวกันบ้าง คนหมู่บ้านเดียวกันแท้ๆ”
“ข้ากับน้องสาวจับปลาได้เล็กน้อยจึงจะลองนำไปขายในเมืองดูขอรับ”
“ไหน ไหน ข้าขอดูหน่อย หากมีน้อยเจ้าก็มาขายพวกข้าถูกๆ เถิด” ปัดโธ่อีป้า ลู่จื้อกลอกตา
“ขายให้ท่านป้าได้นะเจ้าคะ หากจะช่วยข้าซื้อ พวกข้ากำลังหาเงินซื้อยาให้ท่านพ่อ หากไม่พอต้องรบกวนท่านป้าช่วยออกเงินซื้อยาให้ท่านพ่อข้าด้วยนะเจ้าคะ” หลังลู่จื้อกล่าวจบ ป้าๆ ทั้งหลายก็รีบขอตัวไปทำงานทันที
ค่ายาของจางหมินผู้ใดก็รู้ว่าคงไม่น้อย แล้วจะมีใครกล้าออกให้กันเล่า
หลังเหตุการณ์นั้นสองพี่น้องก็เดินทางเข้าตัวเมืองอย่างไม่มีคนกวนใจ
เสี่ยวเอ้อที่เห็นสองพี่น้องก็ดีใจอย่างมาก เพราะปลาที่ขึ้นโต๊ะลูกค้าเมื่อวานได้รับคำชมมากมายทำให้พวกเสี่ยวเอ้อได้รับรางวัลจากลูกค้ากันทุกคน ไม่เสียทีที่ออกมารอทั้งคู่ตั้งแต่เช้า
ปลาวันนี้ขายได้ร้อยห้าสิบชั่ง ได้เงินมาสามตำลึงเงิน ลู่จื้อเลยแจ้งว่าต่อไปจะนำปลามาส่งทุกสองวัน ลู่จื้อส่งเงินให้พี่ชายเก็บไว้ แต่ลู่เพ่ยนั้นมือไม้สั่นไปหมด ระแวงจะกลัวคนมาแย่งไป ลู่
“ท่านพี่ ต่อไปท่านจะต้องถือเงินมากกว่านี้ เงินเพียงเท่านี้ทำให้ท่านถึงกับตัวสั่นได้เลยรึ” ลู่จื้อส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ หากลู่เพ่ยได้เห็นยอดเงินของนางเมื่อชีวิต ก่อนไม่จะเป็นลมไปเลยหรือไม่
เมื่อสงบใจได้แล้วลู่เพ่ยจึงให้ลู่จื้อขึ้นไปนั่งบนรถเข็นแล้วพาน้องสาวกลับบ้าน
เมื่อถึงบ้านลู่เพ่ยนำเงินออกมาให้มารดาเป็นผู้เก็บไว้ จินหรูที่รับเงินมาก็มือสั่น วันเดียวบุตรทั้งสองคนหาเงินได้มากเพียงนี้ หากเป็นตอนที่จางหมินยังไม่ล้มเจ็บ เงินจากการล่าสัตว์ก็ได้มากอยู่ แต่เงินทั้งหมดนั้นแม่สามีนางเป็นคนเก็บ เงินจึงมาไม่ถึงมือนาง เมื่อได้ถือเงินขนาดนี้ย่อมตื่นเต้นเป็นธรรมดา
สองพี่น้องกินข้าวแล้วพักผ่อนกันก่อน ลู่จื้อ บอกพี่ชายว่าวันนี้ยามเว่ย (13.00-14.59น.) นางจะชวนพี่ชายขึ้นเขาเผื่อมีโชคจะได้มีเงินพาท่านพ่อไปหาหมอเสียที หากช้าเกินไปขาข้างที่บาดเจ็บนางกลัวจะพิการเสียก่อน
ลู่จื้อนึกถึงนิยายที่นางเคยอ่าน หากขึ้นเขาต้องได้ของดีติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างแน่นอน ลู่เพ่ยกับลู่จื้อสะพายตะกร้าพร้อมมีดพร้าขึ้นหลังออกจากบ้านไป
แม้ในใจลู่เพ่ยยังไม่อยากให้น้องสาวทำงานหนักเช่นนี้ แต่เมื่อนึกถึงขาของผู้เป็นบิดา ตัวเขาก็เห็นด้วยกับนางทันที
ตีนเขาไม่มีของให้เก็บได้เลย เพราะชาวบ้านส่วนมากก็ขึ้นเขามาเก็บของป่ากัน ลู่จื้อเลยชวนพี่ชายเดินเข้าไปในป่าชั้นกลาง ป่าชั้นกลางนั้นไม่ค่อยมีชาวบ้านเข้ามากันสักเท่าใดนัก เพราะมีหมูป่าหลงเข้ามาหากินอยู่ประจำ
หากมิใช่พรานป่าก็ไม่มีผู้ใดที่คิดจะเข้า หากถูกมันทำร้ายเข้า มีหวังคงได้ตายมากกว่าจะมีชีวิตรอด
แต่ไม่ใช่ลู่จื้อ นางอยากจะเจอหมูป่าสักตัว แต่ตลอดทางเดินมีเพียงเห็ด กับผักป่าเท่านั้น เมื่อเดินไปอีกนิด พุ่มไม้ข้างทางก็สั่นไหว ลู่จื้อเลยหยิบมีดพร้าแล้วขว้างออกไป ลู่เพ่ยที่กำลังเก็บเห็ดเพลินๆ รีบวิ่งมาหาน้องสาว
“ท่านพี่ ดูนี่สิ “ลู่จื้อยกไก่ป่าขึ้น พร้อมทำหน้าใสซื่อใส่ลู่เพ่ย
“เจ้า จับมันได้อย่างไร “
“ข้าก็ปามีดพร้าใส่มันยังไงเล่าท่านพี่”
“…” ลู่เพ่ย นางจะเก่งเกินไปแล้ว
