บทที่ 3 Chapter 3

“ตายแล้ว พราวไม่มีชุดใส่เลยค่ะ มีแต่ชุดเรียบๆ ที่เคยใส่แล้ว งั้นพราวขอไปซื้อชุดสวยๆ นะคะ ถัดจากที่เราพักไปสองตึกมีห้าง เมื่อกลางวันพราวไปดูมา หรูเลิศมากๆ เลยค่ะพ่อ”

ไม่ว่าอยู่ที่ไหน สิ่งสำคัญสำหรับพราวพิลาสคือ เธอต้องโดดเด่นกว่าใคร...

“ให้รสไปเป็นเพื่อนก็แล้วกันนะลูก ไปคนเดียวมันอันตราย เราเป็นผู้หญิงต่างชาติด้วย พ่อจะพักเสียหน่อย”

รติรสสะดุ้งในใจ เหลือบไปมองหน้าญาติสาวก็พบว่า รายนั้นตวัดตาค้อนมาที่เธอ ไม่รู้ว่าทำไม พราวพิลาสถึงได้ตั้งป้อมไม่ชอบหน้าเธอนัก

“ก็ได้ค่ะ”

พราวพิลาสสะบัดไหล่ หันไปคว้ากระเป๋าถือ ก่อนจะหอมแก้มผู้เป็นพ่อฟอดใหญ่

“ระวังตัวกันด้วยล่ะ”

ไพรัชสำทับมาอีกครั้งด้วยความเป็นห่วงบุตรสาวและหลานสาว

รติรสรับคำเบาๆ ก่อนจะตามญาติสาวออกไป วันนี้เธอเหนื่อยมาเกือบทั้งวัน อยากจะพักเอาแรงมากกว่า แต่เมื่อไพรัชสั่งเธอก็ต้องตามดูแลพราวพิลาส แม้ว่าใจจะไม่อยากไป และฝ่ายหลังเองไม่ปรารถนาจะให้เธอตามติดสักเท่าไหร่

สองสาวเดินจากโรงแรมที่พักกระทั่งถึงห้างสรรพสินค้า ซึ่งอยู่ถัดออกไปสองช่วงตึก รติรสจ้องมองอาคารแบบโดมหลังใหญ่อย่างสุดทึ่ง ลวดลายสถาปัตยกรรมด้านนอกนั้นสวยมาก ตัวอาคารเป็นตึกแบบสมัยเก่า แต่คงความงามสง่า ท่ามกลางตึกทันสมัยแบบใหม่

“เร็วสิรส เธอมัวโอ้เอ้แบบนี้เมื่อไหร่ฉันจะได้ชุดสวยๆ สักที”

“ไปสิ”

พราวพิลาสสะบัดหน้าเดินไปก่อน ความไม่พอใจกรุ่นๆ เพราะคิดว่าอีกฝ่ายช่างยืดยาดเชื่องช้าไม่ทันใจ ตาคมสวยตวัดค้อนญาติสาวอยู่เนืองๆ

“ถ้าคืนนี้ฉันไม่สวยเป็นความผิดของเธอเลยนะ”

เสียงแหวตามมาเบาๆ

“พราวสวยอยู่แล้ว ใส่ชุดอะไรก็สวยกว่าใครๆ อยู่แล้วล่ะน่า”

“จริงเหรอ หรือว่าแกล้งชม”

“เปล่า รสไม่ได้แกล้งชม ก็งานวันนี้ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่รสเห็นไม่ค่อยสวย เทียบกันแล้วพราวสวยกว่ามาก งานคืนนี้รสว่าพราวต้องสวยกว่าทุกคนแน่นอน ไม่แน่นะ ความสวยของพราวอาจจะเข้าตามหาเศรษฐีชาวบันดัรหรือชาวซาอุฯ ก็ได้ ได้ยินลุงบอกแล้วไม่ใช่เหรอ พวกนี้รวยๆ กันทั้งนั้น”

“ยี้... ไม่เอาหรอก พวกหนวดเฟิ้มเป็นรากไทรแบบนั้น แค่คิดก็สยองแล้ว ต่อให้รวยล้นฟ้าฉันก็ไม่สนใจเอามาทำแฟนหรอกย่ะ”

พราวพิลาสห่อไหล่ทำท่าขนลุกขนพอง ถ้าจะมีใครทำให้เธอสนใจในตอนนี้ คนคนนั้น คืออลงกรณ์มากกว่า ชายหนุ่ม หล่อ... รวย... ทายาทบริษัทขายเครื่องดื่มอันดับต้นๆ ของเมืองไทย คิดแล้วใบหน้าสวยก็บึ้งตึงขึ้น เหลือบมองญาติสาวที่เดินมองข้าวของตามร้านต่างๆ ด้วยความริษยา

อลงกรณ์ตามจีบรติรสตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งกระทั่งเดี๋ยวนี้ ไม่รู้ติดอกติดใจอะไรนักหนา ความสวยรึเธอก็สวยกว่า รวยกว่า รติรสมีดีแค่เรียนเก่งเท่านั้น

ความคิดริษยาของพราวพิลาสหยุดลงเมื่อเสื้อผ้าชุดราตรีสวยๆ ละลานตา เรียกความสนใจจากเธอ

“แบบส่วนใหญ่เรียบๆ ไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่” กระนั้นพราวพิลาสก็ยังบ่นกระปอดกระแปด

“ก็ที่นี่มันเมืองอิสลาม รสว่าเขาก็ทำสวยดีนะ เพียงแค่ไม่เปิดอกเปิดไหล่มากจนเกินไป”

รติรสจับชุดสวยชุดหนึ่งขึ้นมาพิจารณา สีของผ้าไม่ฉูดฉาด แบบและดีไซน์สวยไม่แพ้แบรนด์ดังๆ

“ไม่เอาล่ะ ไปดูร้านอื่นๆ ดีกว่า”

พราวพิลาสไม่ชอบใจ เดินดุ่มๆ ไปร้านอื่น ซึ่งพอแหงนหน้าดูชื่อร้านแล้ว รติรสก็ต้องส่ายหน้า ป้ายด้านบนบอกแบรนด์ยอดนิยมที่มีขายทั่วโลก แบรนด์ชื่อนี้มาถึงบันดัรเลยหรือ นั่นยังเล็กน้อยถ้าเทียบกับว่าราคาแพงหูฉี่

เรือนร่างสะโอดสะองอรชรเรียกความสนใจให้ชายหนุ่มซึ่งยืนมองลงมาจากห้องกระจก ถัดขึ้นไปอีกชั้น ตาคมทอดมองตามหญิงสาวทั้งสองที่กำลังเดินเลือกเสื้อผ้าชุดออกงาน เขาเดาว่าเธอคงหาซื้อชุดสำหรับใส่ในคืนนี้ และคิ้วสูงเลิกขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อหนึ่งสาวสวยเดินเลือกชุดอย่างเอาเป็นเอาตาย ขณะที่อีกคนคอยเดินตามเฉยๆ

“มองอะไรอยู่ครับเจ้านาย”

ฟาติกเดินเข้ามายืนข้างๆ มองตามสายตาผู้เป็นนายลงไปอีกชั้น

“นายอยู่ที่นี่ เดี๋ยวฉันมา”

เดนิมสั่งก่อนจะพาร่างสูงสง่าปราดเปรียวของตนเองออกไปจากร้านเครื่องประดับ โดยไม่สนใจสายตายิ้มๆ ของคนสนิท

ฟาติกส่ายหน้าไปมา เจ้านายของเขาคงจะชอบใครสักคนระหว่างหญิงสาวสองคนนั่น ซึ่งเขาเห็นแล้วว่าสวยแปลกตามากทีเดียว ดูๆ ไปน่าจะเป็นหญิงสาวต่างชาติ จากลักษณะการแต่งตัว และใบหน้าที่แตกต่างจากหญิงสาวชาวบันดัร ชายหนุ่มมองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปสนใจกับงานที่นายสั่งเอาไว้

ร้านอัญมณีแห่งนี้เป็นร้านหนึ่งในห้าสาขา ซึ่งเป็นธุรกิจของเดนิมอีกอย่างหนึ่ง นอกจากเขาจะมีสัมปทานเหมืองเพชรพลอย ยังมีร้านขายเครื่องประดับอีกด้วย

เดนิมยังอยู่ในชุดเดิมเมื่อตอนเช้า แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่แปลกเพราะคนบันดัรส่วนใหญ่ชอบสวมชุดแบบนี้กันทั้งนั้น ร่างสูงใหญ่เดินเร็วๆ ตรงไปยังเป้าหมาย คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้พบกันอีก

“สวัสดีครับมิส...”

เสียงทักเป็นภาษาอังกฤษทุ้มเบาทำให้รติรสหันมามอง ก่อนจะเบิกตากว้างขึ้น ก้าวถอยหลังออกห่างชายหนุ่มหน้าดุเข้มไปหนึ่งก้าว

“คะ... คุณ เอ่อ มิสเตอร์เดนิม”

“ครับ” เดนิมยิ้ม เรียวปากที่รกด้วยไรหนวดยกขยับคล้ายกำลังกลั้นหัวเราะ ตาคมเต้นระริก “ไม่คิดว่าจะได้พบมิสอีก มาซื้อเสื้อผ้าไปงานคืนนี้เหรอครับ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป