บทที่ 4 Chapter 4
สีหน้ายิ้มๆ ตาพราวแบบนั้นมันช่างกวนใจรติรสเหลือเกิน เธอเชิดหน้าขึ้น ตอบเรียบๆ สั้นๆ อย่างไม่ปรารถนาจะเสวนาด้วย
“ค่ะ”
ร่างอรชรถอยหลบออกไปอย่างไม่คิดจะรักษามารยาทอะไรทั้งนั้น เธอไม่ชอบผู้ชายคนนี้ หน้ายิ้มๆ ตาแพรวพราวระยับคู่นั้น คล้ายว่ามีกระแสความรุนแรงบางอย่างทำให้เธอหายใจติดขัด รติรสเดินไปหาญาติสาวก่อนจะเอ่ยถามเบาๆ
“พราวไปดูร้านอื่นกันไหม”
“ร้านนี้แหละสวยดี แล้วตานั่นใคร รู้จักรึไงยะ”
คำถามนั้นบอกให้รู้ว่า พราวพิลาสสังเกตเห็นชายร่างสูงสง่าที่เข้ามาทักทายรติรส และหากแม้นว่าไม่สังเกต เจ้าของร่างสูงก็เดินมาหยุดไม่ห่างจากสองสาวแล้ว
พราวพิลาสตวัดตามองก่อนจะถอยห่างด้วยความรังเกียจ ชายอาหรับรูปร่างใหญ่โต ตาคมดุ ใบหน้ารกด้วยหนวดและแนวเครายาวไปกว่าครึ่งหน้า
“สวัสดีอย่างเป็นทางการครับมิส”
เสียงทุ้ม สำเนียงภาษาสากลชัดและเป๊ะทุกไวยากรณ์ เจ้าของร่างสูงพยักหน้าเล็กน้อยให้หญิงสาวทั้งสอง
พราวพิลาสทำหน้าเหลอหลาด้วยไม่คิดว่าจะมีหนุ่มๆ เข้ามาทัก แต่... เธอไม่ชอบแขก ไม่ชอบหนวดและเครา
“ผมเดนิม อิสมาอิล”
รติรสจิกตามองวาววับอย่างไม่ชอบใจชายหนุ่มที่กำลังแนะนำตนเองอย่างเป็นทางการ เขารู้ว่าเธอแกล้งเลี่ยงหลบยังจะตามมาตอแยกันอีก
“สวัสดีค่ะ” พราวพิลาสตอบอย่างเสียไม่ได้ แล้วหันมาพูดกับญาติสาวด้วยภาษาไทยว่า “คุยกันเองแล้วกัน ฉันจะไปดูชุดทางนั้น แล้วไม่ต้องตามมานะ ฉันไม่ชอบตานี่” เสียงสะบัดบอกชัดเจนทีเดียว ก่อนที่ร่างเพรียวสะโอดสะองของพราวพิลาสจะรีบฉีกตัวออกไป และไม่ลืมเหยียดตามองทั้งญาติสาวและหนุ่มต่างชาติ เธอแทบจะกลั้นหายใจเพราะไม่อยากสูดดมกลิ่นจากเรือนกายของชายหนุ่ม พราวพิลาสเคยได้ยินได้ฟังและได้พิสูจน์กับตัวเองมาแล้วว่า กลิ่นของพวกเขาไม่โสภาสำหรับเธอสักนิด
“พราว พราว...”
รติรสแทบผวาร่างตาม แต่พอเห็นสายตาดุเอาเรื่องจึงครางเบาๆ กับการถูกทิ้งเอาดื้อๆ
“ผมไม่ใช่ตัวเชื้อโรค ทำไมพอเห็นหน้าต้องทำท่าผวาหนีขนาดนั้น” เดนิมพูดกลั้วหัวเราะ เขาฟังไม่เข้าใจที่สองสาวพูดคุยกัน แต่ก็พอดูท่าทางพวกเธอออก
“ใครหนี... ไม่มีใครหนีสักหน่อยนี่คะมิสเตอร์ แต่คุณก็คงเห็นแล้วว่าพวกเรากำลังซื้อหาเสื้อผ้ากัน และเราต้องการความเป็นส่วนตัวค่ะ” เธอเสียงแข็งใส่ จ้องสบตาคมกริบไม่ยอมหลบ ถ้อยเจรจาฉะฉาน
เดนิมยิ้มกว้างทั้งหัวเราะน้อยๆ แต่แนวเครายาวยังไหวระริกให้ถูกฝ่ายได้ตาเขียวใส่มากขึ้น เขาไขว้มือไปไพล่หลัง กิริยาอาการคล้ายผู้ใหญ่สักคน ตาคมมองจ้องใบหน้างดงามหมดจด นัยน์ตาเต้นระริกอย่างชอบใจ
“ผมเปล่ารบกวนสักหน่อย แค่เห็นคนรู้จักเลยเข้ามาทักทายตามประสาเจ้าบ้านที่ดี”
“เราไม่ได้เป็นคนรู้จักค่ะ แค่เคยเห็นกันไม่กี่ชั่วโมงเมื่อเช้านี้ และยังไม่เคยพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวด้วย จะมาเหมาว่ารู้จักกันได้ไง”
“อ้าวแล้วกัน ไม่รู้จักได้ไง ผมยังรู้เลยว่าคุณชื่อรติรส มิสรติรส ขจรราช เลขานุการสาวสวยชาวไทย ถูกต้องไหมครับ”
รติรสตวัดตาค้อน ฉุนในความเจ้าเล่ห์เจ้าคารมของหนุ่มอาหรับนัก แล้วดูสิ เขายืนเอามือไพล่หลัง ตามองเธออย่างกับผู้ใหญ่กำลังจับผิดเด็ก
“ถ้าคุณถือว่าการได้พบได้เห็นได้รู้ชื่อคนคนนั้นคือการรู้จัก งั้นฉันก็คงรู้จัก แบรด พิต,บรูซ วิลลิช นักฟุตบอลก็มีก็มีนะคะ เฟร์นันโด ตอร์เรซ,คริสเตียโน่ โรนัลโด อ้อ ประธานาธิปดีบารัค โอบามา ดิฉันก็รู้จักค่ะ”
“แย่จัง พอดีผมมันเด็กผีแดงเสียด้วย ไม่ชอบหงส์ ไม่ปลื้มราชันชุดขาว เพราะโรนัลโดดันย้ายไปที่นั่น อ้อ โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ชอบนโยบายของโอบามาสักเท่าไหร่”
หนุ่มคมเข้มยียวน นัยน์ตาพราวขำในอาการค้อนตาคว่ำ แต่กลับมองแล้วน่ารักถูกใจ
“เอาเถอะ ครั้งนี้ถือเป็นการทำความรู้จักกัน คืนนี้เราคงได้ทักทายกันอย่างคนรู้จักมากขึ้น มากกว่าคำว่าคนเคยเจอนะครับมิสรติรส”
เดนิมก้มศีรษะนิดๆ เป็นเชิงล่ำลา ก่อนจะพาร่างสูงของเขาออกไปจากร้านทันทีที่พูดจบ
“ใครเค้าอยากรู้จัก ตาบ้า”
รติรสเขม่นเข่นเขี้ยวตามหลัง คนอะไรหน้าไม่อายอย่างที่สุด เธอไม่เข้าใจสักนิดว่าเขาจะมาวุ่นวายกับเธอให้ได้อะไร แม้นจะไม่พอใจ ไม่เข้าใจ หญิงสาวก็ยังเผลอมองตามแผ่นหลังกว้างจนลับสายตา เรือนกายสูงสง่าน่าเกรงขาม บุรุษหนุ่มอาหรับผู้นั้นมีร่างกายที่ดูดีเพอร์เฟกต์มากๆ ถ้าอยู่เมืองไทย ต้องมีแมวมองมาคว้าตัวเอาไปเป็นนายแบบแน่ๆ คิดแล้วก็ชักอยากจะเห็นว่า ถ้าหน้าตาเข้มๆ นั่นไม่มีหนวดเครา มันจะเป็นยังไงนะ...
“โอ๊ย คิดอะไรเนี่ยยัยรส ท่าจะบ้าไปคิดถึงตานั่นทำไมไม่รู้”
รติรสรีบเดินไปหาพราวพิลาส ปัดความคิดวุ่นวายเกี่ยวกับชายหนุ่มคนนั้นไปจากสมอง ก่อนจะช่วยญาติสาวเลือกชุดที่สวย หรู และดูดี
ถึงกระนั้น กว่าจะเลือกได้แบบที่ถูกใจพราวพิลาส เวลาปาไปกว่าสามชั่วโมง กลับมาถึงโรงแรมที่พัก รติรสเหลือเวลาสำหรับพักผ่อนก่อนไปงานในคืนนี้เพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น
“เก็บของให้ด้วยล่ะ ฉันจะไปนอนพักสักหน่อยตื่นมาจะได้สดชื่น คืนนี้พราวพิลาสจะได้สวยเลิศกว่าสาวๆ ทั้งหมดที่มาร่วมงาน”
เสียงสั่งแจ๋นๆ ของพราวพิลาสยังไม่จบ เสียงกริ่งประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น สาวสวยใช้สายตาสั่งให้รติรสเป็นคนไปเปิดประตู
