บทที่ 11 บทที่3.การเผชิญฟน้ากับผู้ชายใจโหด 4
“อย่าเชียวนะตาพัฒ แม่รู้น่ะว่าเมื่อคืนทำอะไรมา ห้ามโวยออกมาตอนนี้เด็ดขาด...คุณพ่อรู้เข้า เราน่ะจะถูกทำโทษ” เสียงของมารดาทำให้ชายหนุ่มกล้ำกลืนความไม่พอใจเก็บไว้ในอก เขากัดฟันกรอด หรี่ตามองแผ่นหลังบางเฉียบของใบบัวตาวาว
“แม่...”
“หลังจากนี้ค่อยคิด ตอนนี้แม่ต้องใช้มัน” นางขยับปากพูดพอให้ได้ยินกันแค่สองคน
หนุ่มน้อยไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมทำตาม แม้จะเกิดความกังขา มารดาต้องพึงพาใบบัวเรื่องอะไร?
“บอกยัยผิงให้แม่ด้วยนะ ให้ไปช่วยนังอ้อยที่ร้าน...เพราะบัวต้องไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว”
“ทำไมล่ะแม่!” พัฒนะร้องถามเสียงรน
“ไม่น่าจะถามนะ ฉันไม่อยากให้บัวเป็นอย่างอื่น นอกจากหลานไง!” นางกระแทกเสียงตอบบุตรชาย พร้อมทั้งหันหน้าไปพยักหน้าเรียกใบบัว นางเดินเชิดหน้าออกไปจากบ้าน มีใบบัวเดินตามไปต้อยๆ พร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าสีซีดๆ
ช่วงเวลาที่นั่งอยู่ในรถยนต์ของแจ่มจันทร์ ใบบัวกำมือแน่น เธอตื่นเต้นเหมือนว่าตัวเองกำลังเดินไปสู่แดนประหาร
คฤหาสน์หลังใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง รอบบ้านประดับประดาด้วยไม้ยืนต้นเขียวชอุ่ม สลับกับไม้ดอกสีสวยๆ เป็นการจัดสวนที่มองแล้วสบายตา รับกับไอเย็นๆ จากแม่น้ำกว้างใหญ่ หากเป็นช่วงยามเย็น บรรยากาศคงน่าเดินเล่น ใบบัวคลี่ยิ้มอ่อนๆ เธอได้มาอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งให้เจ้าของบ้านเป็นคนใจดี
เมื่อรถยนต์จอดสนิท เสียงของป้าดังขึ้น “บัว...เกิดอะไรขึ้นก็ให้นึกถึงข้าวแดง แกงร้อนที่ป้าเลี้ยงดูบัวมานะจ๊ะ”
ความหมายของคำพูดฟังทะแม่งหู แต่เธอพยายามคิดในแง่ดี...
แจ่มจันทร์จูงมือของใบบัว และเดินตามสาวใช้คนหนึ่งที่ออกมาต้อนรับ เธอเดินไปทรุดนั่งยังเก้าอี้รับแขกและใบบัวก็ทรุดนั่งที่พื้นพรม เธอแอบชำเรืองมองความสวยงามด้วยสายตาเป็นประกาย เครื่องเรือนทุกชิ้นเงาวาววับ สวยจนต้องตะลึง ทุกชิ้นหารอยด่างดำไม่มีเลย มันถูกทำความสะอาดอย่างดีและโอ่อ่าสมฐานะของเจ้าของบ้าน
“คุณฟาบริซยังไม่ตื่นค่ะ คุณนายรอก่อนนะคะ” เสียงสาวใช้นอบน้อมและมีสัมมาคารวะ
นางพยักหน้ารับ เชิดใบหน้าขึ้นทำทีเหมือนไม่สนใจ แต่ในใจแอบทึ่งกับความร่ำรวยของชายหนุ่มเจ้าของบ้าน แม้จะเป็นหนึ่งในบ้านพักส่วนตัวของฟาบริซ และเขามีบ้านลักษณะเช่นนี้ในอีกหลายๆ ประเทศ ทุกที่ ที่มีดีคอร์เนอร์ซิตี้ผุดขึ้นมา เขาจะสร้างบ้านไว้พักผ่อนด้วยเช่นกัน
เครื่องเรือนนำเข้า ราคาสุดที่จะประเมิน...ของทุกชิ้นมีราคา จนเธอแอบอิจฉา เมื่อไรล่ะที่นางจะร่ำรวยเช่นนี้บ้าง
เวลาผ่านไปเกือบ1 ชั่วโมง ผู้ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งเดินลงมาจากชั้นบน เขาแต่งตัวไม่รัดกุม จนใบบัวต้องเบือนหน้าหลบ ชายชุดคลุมที่เขาสวม เปิดชะเวิกชะวากมองเห็นโคนขาอ่อนรำไรๆ ก่อนที่ใบบัวจะชักสายตากลับ เธอมองเห็นอะไรบางอย่างที่ทำให้เลือดลมฉีดพล่าน...ผิวแก้มร้อนซู่!
ฟาบริซชำเรืองมองผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ซุกตัวอยู่ข้างเก้าอี้นั่งเล่น โดยมีคุณนายแจ่มจันทร์นั่งเชิดหน้าอยู่ใกล้ๆ
ผิวพรรณที่โผล่พ้นชายผ้ามาเรียบเนียนใช้ได้ เขาอยากเห็นใบหน้าของเธอ เพราะที่มองเห็นไกลๆ หล่อนสวยหวานไม่ใช่เล่น ดวงตากลมใสกระจ่างของเธอสะกดเขาจนเกือบชะงัก ดีนะว่าหล่อนหลบสายตาไปก่อน ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะก้าวพลาดเพราะมัวแต่หลงใหลอยู่ในหน่วยตาคู่งดงามของเจ้าหล่อน
“ดิฉันพาคนมาส่งตามสัญญาค่ะ” แจ่มจันทร์รีบพูด นางไม่อยากเสียเวลาอีก
“อืม...” ชายหนุ่มรับรู้ เขาทรุดตัวนั่ง จนโซฟาตัวใหญ่ยุบวาบ ชายผ้าถลกขึ้นสูง จนใบบัวต้องรีบก้มหน้างุดๆ
ฟาบริซกระตุกยิ้ม เด็กสาวเหมือนกวางป่าที่คอยระแวดระวังภัย มันทำให้เลือดในกายของเขาวิ่งพล่าน เขานึกถึงทุ่งหญ้ากว้างๆ กับเกมไล่ล่ากวางชะตาขาด เมื่อราชสีห์หนุ่มตัวหนึ่งกำลังกางกรงเล็บรอตะปบเหยื่อ มันคงสนุกไม่ใช่เล่น หากได้หยอกเย้าเหยื่อ ก่อนจะลงมือกัดกินอย่างเอร็ดอร่อย
“ใบบัว...นี่คุณฟาบริซ เจ้านายคนใหม่ของบัว ฝากตัวกับเธอเสีย หากเธอชอบบัว อนาคตบัวคงสบาย” นางไม่ได้พูดเกินจริง เมื่อเห็นแววตาพึงพอใจของชายหนุ่มทอดนิ่งๆ อยู่ที่หญิงสาว กลิ่นสาปสาวบริสุทธิ์คงโชยไปกระทบปลายจมูก ชายหนุ่ม ถึงได้มีทีท่าพออกพอใจใบบัวเหลือเกิน
หญิงสาวเงยหน้าขึ้น เธอช้อนสายตา มองสบตากับฟาบริซ มือเรียวสั่นยกขึ้นประนมไหว้ แล้วก็ต้องรีบหลบสายตาอย่างเร็วรี่ เมื่อสายตาของเขาร้อนแรงจนเธอเองใจสั่น เหมือนเขากำลังจ้องมองให้ทะลุถึงข้างใน ทะลุผ่านเสื้อผ้าและโลมเลียเธอด้วยสายตาของผู้ชายแท้ๆ
“ยินดีที่รู้จัก แล้วก็ยินดีต้อนรับ” ชายหนุ่มพูดเสียงแหบ ความปรารถนาอัดแน่นอยู่ในร่างกาย เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้หญิงตัวเล็ก นัยน์ตาเศร้าๆ ตรงหน้าจะปลุกความปรารถนาของเขาให้ลุกโพลงขึ้นมา แค่เพียงแค่สบตากัน
“ฉันขอตัวเลยนะคะ...หวังว่าคุณคงพอใจ” แจ่มจันทร์รีบเอ่ยลา อนาคตของนางขึ้นอยู่กับใบบัวแล้วทีนี้ หนี้ก้อนใหญ่ของนางจะกลายเป็นศูนย์หรือไม่ขึ้นอยู่กับความสาวของใบบัวแท้ๆ หากฟาบริซถูกใจ
“เดี๋ยวสิคุณนาย..” ฟาบริซไม่เคยเอาเปรียบใคร เขามีมากพอที่จะแจกจ่าย หนี้ส่วนหนี้ ความพอใจส่วนความพอใจและผู้หญิงที่คุณนายแจ่มจันทร์นำมาเป็นเครื่องบรรณาการเขา ‘ถูกใจ’ จนอดไม่ได้ที่จะมอบสิ่งตอบแทนให้ “ปีเตอร์! จัดการให้ด้วย” ฟาบริซร้องสั่งคนรู้ใจ พวกเขาจะอยู่ไม่ไกลบริเวณที่เขาอยู่ คนพวกนี้อยู่กับเขามานานจนล่วงรู้ความคิดของเขา แค่ขยิบตาปีเตอร์ก็รู้แล้วว่าเขาต้องการอะไร
