บทที่ 5 บทที่2.ความซวยกำลังคืบคลานมาหา 2

“จะไปไหน๊!!...ก็ข้ามไปฝั่งนู้นน่ะสิ!” อ้อยกระแทกเสียงสูงๆ ตอบ หล่อนสงสัยว่าการที่เงินติดๆ ขัดๆ อาจจะเป็นเพราะคุณนายแจ่มจันทร์เอาไปละลายทิ้งที่คาสิโนฝั่งตรงข้ามกับที่ตัวเองทำงานอยู่น่ะสิ!!

หญิงสาวใจหายวูบ! หากเป็นจริงอย่างที่เพื่อนร่วมงานบอก... อีกไม่นานหรอกความลับก็คงแตกโผล๊ะ! เธอเกรงว่าลุงประพจน์จะโกรธจัด และที่สำคัญเลย...การพนันมันจะสูบเงินจากกระเป๋าแจ่มจันทร์ไปจนหมด... “ขออย่าให้เป็นอย่างนั้นเลยพี่อ้อย...” หญิงสาวทอดเสียงละห้อย...พร้อมกับถอนใจเฮือกๆ

“ก็ได้แต่ภาวนาแหละบัว...หลายๆ คนล่มจมเพราะเป็นหนี้สิน...แต่คุณนายคงไม่สะเทือนหรอกมั้ง ออกจะรวย” อ้อยเปรยพร้อมกับเยาะ...ในชุมชนที่เธออาศัย หลายคนต้องขายบ้าน ขายทุกสิ่งอย่างเพื่อชดใช้หนี้ที่ก่อขึ้น หลังจากข้ามฝั่งไปลองเสี่ยงโชค เขาไม่ได้ไปกอบโกยเงินจากคาสิโน แต่กลับเอาเงินที่ตัวเองมีไปโยนให้เจ้าของคาสิโนต่างหาก...

“บัวไปก่อนนะพี่อ้อย ส่งหมดขนมหมด จะได้รีบกลับมาช่วยกันปั้นขนมต่อ” ใบบัวฉวยตะกร้า เธอหอบไว้เต็มกำลังที่ตัวเองมี ต้องรีบทำเพราะยังมีงานรออีกเยอะ

“รวยเสียเปล่า...ใช้หลานยังกับทาส หารถส่งขนมหาดีๆ กว่านี้ก็ไม่ได้ ให้ปั่นจักยานเก่าๆ ไปส่ง เมื่อไรจะเสร็จ งกชะมัด” อ้อยบ่นอุบ...ร้านออกจะใหญ่โต มีคนเดินเข้าเดินออกไม่ขาด ขนมขายดีพอสมควร เพราะรสอร่อย สะอาด ถูกปากคนกิน แต่...เจ้าของร้านกลับขี้เหนียวทุกอย่าง ไม่ว่าจะคนงานหรือหลานสาวอย่างใบบัว อ้อยเป็นคนนอกแท้ๆ ยังรู้สึกเลยว่าใบบัวถูกเอาเปรียบ แต่เด็กสาวอย่างใบบัวไม่เคยปริปาก ก้มหน้าทำงานงกๆ เพราะถือว่าเธออยู่รอดมาได้เพราะความกรุณาของลุงกับป้า ไม่อย่างนั้นเธอก็คงเป็นแค่เด็กไร้บ้าน นอนตามถนนข้างทางเท้า...

บ่อนคาสิโน...ดีคอร์เนอร์ซิตี้...

ร่างสูงใหญ่กว่าผู้ชายไทย เมื่อชายหนุ่มผู้นั้นเป็นคนสัญชาติอเมริกันแท้... เขาเป็นมหาเศรษฐีระดับบิลเลี่ยนแนร์ เป็นผู้ชายที่เป็นเจ้าของแหล่งการพนันเกือบทั่วโลก และดีคอร์เนอร์ซิตี้แห่งนี้เป็นหนึ่งในสาขาของเขา ที่เปิดให้บริการมาเกือบ2 ปี กิจการกำลังไปได้สวยเลยทีเดียว

“เป็นไงบ้าง?” ฟาบริซเอ่ยถามผู้จัดการเกี่ยวกับผลประกอบการโดยรวมของคาสิโน่ เขาพึ่งมาจาก เวกัส’ ไปดูเครื่องเล่นรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังติดตั้งในคาสิโนของตัวเองที่นั่นและอีกหลายๆ ที่ทั่วโลก ชายหนุ่มสอดมือลงไปในประเป๋ากางเกง ทอดสายตามองลำน้ำโขงที่ไหลเอื่อยๆ ด้วยสายตาเรียบสนิท

“เหมือนเดิมครับ เรื่อยๆ ไม่ค่อยบูม” อาจจะเป็นเพราะคนเริ่มหมดตัว และเพลียกับการเสี่ยงโชค ไม่ว่าจะหอบเงินทองมามากแค่ไหน ส่วนมากทิ้งไว้ที่คาสิโนแล้วกลับไปมือเปล่า

“อืม...คงต้องจัดโปรฯ เอาใจลูกค้ากันหน่อย...คนจะได้คึกคักเหมือนเดิม” ฟาบริซกระตุกยิ้มมุมปาก หากคนเรายังมีความโลภอีกไม่นานนักพนันหน้าเดิมๆ ก็จะกลับมา

“ครับ...”

“มีหนี้ค้างไว้เยอะไหม? จัดการให้ด้วยล่ะฉันไม่ชอบให้มันเพิ่มขึ้น มันจะเป็นดินพอกหางหมู”

“เหลือไม่กี่เจ้าครับ ที่น่าจะมีปัญหาก็ไม่กี่คน” สมชายเริ่มเหงื่อตก ก็คนที่มีปัญหาส่วนมากเขารู้จักน่ะสิ

“อืม...เอาประวัติคนที่น่าจะมีปัญหามาให้ฉันดูสิ...” ชายหนุ่มหมุนตัวกลับ เขาเดินไปทรุดนั่งหลังโต๊ะทำงาน และตวัดปลายเท้าขึ้นวางหมิ่นๆ เอนตัวนอนพิงพนักเก้าอี้ พริ้มเปลือกตาหลุบลง เพราะความง่วงที่สะสมมาตลอดการเดิน

“ครับ...สักครู่ครับคุณฟาบริซ” ชายสูงวัยรีบรับคำสั่ง ใบหน้าเขายับยุ่งเมื่ออาจจะมีปัญหากับลูกค้าบางราย

แฟ้มเกือบ10 แฟ้มฟาบริซเปิดดูแล้ววาง แต่ละคนไม่น่าจะมีปัญหา สมชายคงสามารถจัดการได้ มีรายเดียวที่เป็นลูกค้าใหม่ มูลค่าหนี้ไม่มาก ไม่น้อย อยู่ในระดับกลางๆ เป็นคนมีชื่อเสียง มีหน้ามีตาและดูท่าเหมือนกำลังจะเบี้ยว

“คุณนายแจ่มจันทร์นี่ค้างไว้นานแค่ไหนแล้วล่ะ” ชายหนุ่มเคาะปลายนิ้วกับผิวโต๊ะ เขาหรี่ตาลงมองใบหน้าของสมชายผู้จัดการตาวาว

ชายสูงวัยเหงื่อแตกซิกๆ เขากะแล้วว่าฟาบริซต้องมองเห็น แจ่มจันทร์เป็นญาติห่างๆ ของเขา หล่อนรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่กลับหายหัว...เขาไม่เดือดร้อนเลยหากฟาบริซไม่รู้ เพราะนานๆ ชายหนุ่มจะแวะเวียนมาสักที นี่คงเป็นคราวซวยของเขากับของแจ่มจันทร์แน่ เมื่อผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขานี่น่ะ สามารถชี้เป็นชี้ตายกับใครก็ได้ หากมีใครขัดใจ ฟาบริซเป็นคนโหด ความดุดันของเขาไม่มีใครกล้าลองด้วย แม้แต่ผู้มีอิทธิพลเถื่อนในฝั่งไทย ยังต้องหลีกทางให้เขา เมื่อชายหนุ่มมีทั้งเงิน และอำนาจ เขาไม่ใช่ไอ้กระจอก ถึงจะไม่มีแบล็คดีถือหาง...แต่กิจการของชายหนุ่มมีมูลค่ากว่าหมื่นล้าน มีผู้ได้รับผลประโยชน์มากมาย เขาจึงอยู่ยงคงกะพัน...เขาควรเอาไงดีล่ะทีนี้...

“เอ่อ...”

“ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมสมชาย...อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาพัวพันกับงาน”

ไม่ต้องเดาฟาบริซก็รู้ การที่ผู้จัดการที่เคร่งครัดกับหน้าที่ตัวเองมาตลอด ปิดบังเขาไว้... ก็น่าจะมาจากความสนิทสนมกับเป็นพิเศษกับลูกค้า เขาเดาถูกเป๋ง...จนสมชายสะดุ้ง!

“เธอเป็นเมียนายทหาร และผมคิดว่าเธอไม่น่าจะเบี้ยว ผมจะรีบจัดการให้แล้วกันครับ”

ชายสูงวัยรับคำแข็งขัน เขาคงต้องเจรจากับแจ่มจันทร์ ไม่ปล่อยให้เยิ่นเย่ออีกต่อไป มันจะพลอยซวยไปกันหมด

“อย่าเลย...ฉันรู้ว่าคุณลำบากใจ ให้ฉันจัดการเองดีกว่า...วันนี้หล่อนมาหรือเปล่าล่ะ ให้คนตามตัวมาหาฉันหน่อยสิ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป