บทที่ 6 บทที่2.ความซวยกำลังคืบคลานมาหา 3
สมชายครางในอก เรื่องมันลุกลามไปกันใหญ่ เมื่อฟาบริชออกตัวจะจัดการเอง...ช่วยตัวเองแล้วกันนะ...แจ่มจันทร์
“ไม่ทราบครับ? เดี๋ยวผมจะลองโทร. หาเธอดู หากเธอมา...ผมจะพาตัวมาพบกับคุณครับ” สมชายรับคำเสียงหนักๆ เขาถอนลมหายใจพรวดๆ รีบกันตัวเองให้รอดพ้นจากวิกฤตที่น่ากลัว...เพราะคนที่ควรกลัวคือแจ่มจันทร์!
ประตูห้องทำงานของฟาบริซปิดงับลง ชายหนุ่มหลุบเปลือกตาลง เขาอยากพักสายตา ยังมีอีกหลายที่ที่ต้องเดินทางไปตรวจตรา...ชีวิตของเขามีแต่การเดินทางและทุกทีที่ไปมักมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาพัวพันตลอด เมื่อสถานะส่วนตัวของฟาบริซเขาโสดสนิท...ชายหนุ่มเป็นมหาเศรษฐีหนุ่มที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบทอดสะพานให้ เพราะแค่เศษเงินก้นกระเป๋าของฟาบริซหล่อนก็สบายไปตลอดชีวิตแล้วล่ะ
“แจ่มจันทร์...งานเข้าแล้ว!” สมชายต่อสายหาแจ่มจันทร์ทันที ที่ก้าวพ้นประตูห้องทำงานของฟาบริซ
“มีอะไรพี่ชาย...งานเข้า! งานอะไรอีก” นางยังคงไม่รู้ตัว คุณนายนายทหารพึ่งจะเดินเข้าประตูดีคอร์เนอร์ซิตี้ นางกำลังอารมณ์ดีที่จะได้ประลองฝีมือ หลังจากกวาดเงินรายได้ในร้านขนมมาเกือบหมด
“เห้อ...คุณฟาบริซรู้เรื่องเงินค้างจ่ายของเธอแล้ว... ท่านอยากเจอเธอน่ะ”
สมชายบอกแจ่มจันทร์ เขาช่วยจนสุดความสามารถ ต่อไปนี้แจ่มจันทร์คงต้องช่วยตัวเอง
“อะไรนะพี่ชาย...ตายล่ะ! ฉันควรทำยังไงดีล่ะ”
“เธออยู่ไหนแจ่มจันทร์ ทางที่ดีที่สุดคือมาพบท่าน แล้วตกลงกันให้ได้เร็วๆ ล่ะ ไม่อย่างนั้นนะ... เธออาจกลายเป็นอาหารปลาในลำน้ำโขง” สมชายเตือนเสียงเข้ม คนหลายคนกลายเป็นศพ แล้วก็ไม่สามารถจับมือใครดมได้ เมื่อมันคืออิทธิพลมืด...ที่ไม่มีใครกล้าแตะต้อง
“พูดเป็นเล่นไปได้พี่ชาย!...ฉันไม่ใช่ตาสี ตาสานะ จะมาฆ่าแกงกันง่ายๆ ได้ยังไงล่ะ” เธอกล่าวตอบเสียงขุ่น เงินก็กำลังหาอยู่นี่ไง แต่มันสุดวิสัยจริงๆ เพราะมันไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ
“เธอกำลังเล่นอยู่กับใครแจ่มจันทร์? ที่นี่น่ะ คุณฟาบริซยิ่งใหญ่กว่าเทพเจ้าเขาไม่ใช่กระจอก... ผัวทหารช่วยเธอไม่ได้หรอก ต่อให้เธอเป็นคนมีอิทธิพลเสียเองท่านก็ไม่ได้คิดกลัว พี่เห็นตายกันง่ายๆ มาหลายคนแล้วล่ะ หาเงินมาคืนเขาให้เร็วที่สุดดีกว่า...อย่าให้ถึงกับต้องฆ่าแกงกันเลย พี่ช่วยอะไรเธอไม่ได้เรื่องนี้นะแจ่มจันทร์...ขอบอกก่อน มันคนล่ะส่วนงาน มีคนของท่านคอยจัดการตามเก็บ ตามล้างเรื่องพวกนี้...โดยเฉพาะ! และไม่มีใครกล้ายุ่ง”
“โหยพี่ชาย...ฉันอยากจะเป็นลม ฉันกำลังเดินเข้าประตูคาสิโนพอดีเลย...พี่อยู่ตรงไหน?”
แจ่มจันทร์ครางเสียงหลง เธอกลัวตายจับจิต...
“รออยู่นั่นแหละ... พี่จะพาเธอไปพบท่านเอง...ปวดหัวว่ะ! พี่ไม่น่าให้เครดิตเธอเลยนะแจ่มจันทร์ มันจะพลอยซวยด้วยกันทั้งคู่” สมชายบ่นอุบ เพราะเห็นเป็นเครือญาติ และแจ่มจันทร์มีฐานะดี เขาไม่คิดว่านางจะถลำลึกขนาดนั้น เล่นเสียเกือบครึ่งล้านในคืนเดียว...แล้วก็พลัดผ่อนมาตลอดจนเรื่องแดง
สาวใหญ่เข่าอ่อน นางยึดเกาะราวจับและค่อยกระดืบๆ ไปทรุดนั่งในเก้าอี้ที่หน้าล็อบบี้ ที่ทางคาสิโนมีไว้บริการสำหรับลูกค้า รีบควานมือในกระเป๋าสะพาย ล้วงหาถ้ำยาดม ก่อนจะเปิดฝายกขึ้นจ่อจมูก สูดลมหายใจแรงๆ รู้สึกหน้ามืด และหัวใจเต้นระโหยโรยแรง
“ไม่น่าเลยเรา...ไม่น่าเลยจริงๆ” นางบ่นว่าตัวเองเบาๆ ความละโมบแท้ๆ ทำให้นางถลำลึกขนาดนี้ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าคาสิโนจะมีกลลวงเพื่อเรียกลูกค้า เขาอ่อยให้นางลำพองว่าเล่นได้ในคราแรกๆ จนทุ่มลงไปหมดทั้งตัวและเริ่มเสียคืน เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก จนเงินที่มีร่อยหรอ แถมยังเป็นหนี้บ่อนเสียอีกก่อนใหญ่...จากที่ลำพองกับชัยชนะแทบเป็นแทบตาย นางไม่เคยคิดว่าการพนันจะสามารถทำเงินได้มากขนาดนี้ ในเวลาไม่กี่นาที เพียงแค่เผลอแปบเดี๋ยว... ทุกอย่างหายวับไปในอากาศ นางเสียจนเกลี้ยงกระเป๋า ขายสมบัติติดตัวทั้งหมดเพื่อจะแก้มือ แต่ยิ่งทุ่มก็เหมือนยิ่งจม...จนได้เจอกับสมชายโดยบังเอิญ ตอนที่กำลังนั่งละห้อยละเหี่ย เขาเปิดเครดิตให้นางแก้มือ และนางคิดแค่จะทวงเงินของตัวเองคืน...สุดท้ายก็เหมือนเดิม... เธอเสียหมด เป็นหนี้เกือบครึ่งล้าน...และกลุ้มใจหนัก คิดจนหัวแทบระเบิด...แต่ไม่มีทางออกสักทาง เพชรทองที่ใส่ก็ของปลอม นางทำเลียนแบบขึ้นมาเพื่อตบตาทุกคน เป็นเพราะนางขายเอาเงินมาเล่นจนหมด หากคุณประพจน์สามีรู้เข้า... นางคงต้องลำบากกว่านี้เสียอีก เมื่อเขาเกลียดการพนันสุดชีวิต นางจำต้องปิดเป็นความลับ ต้องไม่ให้เขารู้อย่างเด็ดขาด
สมชายเดินหน้าตั้งเข้าไปหาแจ่มจันทร์ มันเกี่ยวพันกับหน้าที่การงาน เงินเดือนงามๆ โบนัสดีๆ แบบนี้หาที่ไหนได้ เขามีกินมีใช้ก็เพราะความเมตตาของฟาบริซ เพราะฉะนั้นเขาไม่มีทางทุบหม้อข้าวตัวเองเด็ดขาด...
“พี่ชายฉันควรทำไงดี?” นางเงยหน้าขึ้นถามสมชายเสียงทุกข์ร้อนเต็มทน
“ไม่รู้สิ! ไปคุยเอาเอง...พี่ช่วยได้แค่นี้แหละ หากท่านไม่เห็นแก่พี่นะ ป่านนี้บ้านเธอพังแล้วล่ะแจ่มจันทร์” สมชายรู้ดีฟาบริซเป็นคนจริงแค่ไหน และสามีของแจ่มจันทร์เองก็แข็งไม่ยอมใคร หากรู้ว่าเมียตัวเองหลงไปซ่องสุม ยุ่งเกี่ยวกับการพนันเข้า หลังคาบ้านของแจ่มจันทร์คงแตกทลาย
สาวใหญ่ยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับทั้งเหงื่อและน้ำตา กลัวจนฉี่แทบราด เมื่อชื่อเสียงของฟาบริซร้ายไม่หยอก
“เอาไงก็เอา มาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันให้คุณพี่รู้ไม่ได้หรอก เขาหย่ากับฉันแน่พี่ชาย” แจ่มจันทร์ตัดสินใจ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ลองเจรจาดูก่อนก็ดีเหมือนกัน เผื่อจะมีทางออกให้เธอหายใจ หายคอได้บ้าง แค่นี้ก็เครียดจนแทบจะเป็นบ้าเป็นหลัง
