บทที่ 1 ตอนที่ 1

ชายชาวตุรกีวัยกลางคนที่นั่งก้มศีรษะอยู่เบื้องหน้านั้น เรียกรอยยิ้มเยาะจากมุมปากหยักสวยราวกับอิสตรีของเดนิเรลให้ยกสูงมากยิ่งขึ้นได้ทันที นัยน์ตาสีคืนเดือนดับเต็มไปด้วยความดูแคลนเมื่อสมองรู้แจ้งว่าชายตรงหน้ามาพบด้วยเรื่องอันใด

เดนิเรลผุดลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหกนิ้วสี่ฟุต เขาเดินอ้อมโต๊ะทำงานใหญ่ออกมายืนค้ำศีรษะของคู่สนทนาที่ตอนนี้นั่งก้มหน้าอยู่ด้วยท่าทางเหยียดหยันที่เจ้าตัวไม่คิดจะปิดบัง

“ผมขอโอกาสสักครั้งเถอะครับคุณเดนิเรล...”

เสียงสั่นเทาที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังของ ดิเอโก้ โรดิเกซ บิดาแท้ๆ ของมุนินและดานีนดังขึ้นแผ่วเบา ใบหน้าที่ฉาบไปด้วยความทุกข์ค่อยๆ เงยสบประสานสายตากับคู่สนทนาอย่างวิงวอน ตอนนี้ก็มีแค่การ์รัสโซ่เท่านั้นแหละที่จะสามารถช่วยตระกูลของเขาได้ ไม่มีใครอีกแล้ว นอกจากพวกเทพบุตรมาร การ์รัสโซ่ เท่านั้น

“บริษัทของคุณคดโกงต่อประชาชน เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวและทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส และอย่างนี้คุณยังคิดอีกหรือว่าผมจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือคุณ ไม่มีทางหรอก...” ความชิงชังในน้ำเสียงก้องกังวานของเดนิเรลดังลั่นในหูของดิเอโก้

“รู้ไหมว่าตอนนี้ผมขยะแขยงพวกโรดิเกซมากแค่ไหน พวกคุณมันก็แค่ขยะ เศษขยะสังคมที่ควรจะถูกนรกสูบลงดินไปซะ”

เดนิเรลเค้นเสียงชิงชังลอดไรฟันขาวสะอาดออกมา ใบหน้าหล่อระเบิดแดงก่ำด้วยโทสะร้าย เขาจ้องมองคู่สนทนาต่างวัยด้วยความเดียดฉันท์ เขาแทบไม่เชื่อสายตาเลยว่าหลังจากที่ดิเอโก้ก่อเรื่องร้ายแรงแบบนั้นแล้วจะยังมีหน้าเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเขาอีก

ทุเรศสิ้นดี!

“ผมรู้ว่าตัวเองทำผิด...”

“ไม่ใช่แค่ผิดหรอกคุณดิเอโก้ แต่คุณมันชั่วช้ามากต่างหาก รู้ไหมว่าความเห็นแก่ตัวของคุณทำให้ คนบริสุทธิ์กว่าครึ่งร้อยต้องมาตาย...”

“ผม... ผมผิดไปแล้ว ผมยอมรับผิด”

ดิเอโก้คร่ำครวญ น้ำตาซึมออกมาจากดวงตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนล้าคู่นั้น ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงวันนี้ก็ครบอาทิตย์หนึ่งแล้วเขาแทบไม่ได้พักผ่อนเลย ความผิดที่เกิดจากความโลภของตัวเองนั้นทำให้เขาไม่สามารถข่มตาหลับได้ เขารู้สึกละอาย แต่ก็รู้ดีว่าตอนนี้ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว มันสายเกินไปกว่าจะแก้ไขทุกอย่างได้แล้ว

“สำนึกผิด... ถ้าคุณสำนึกผิดจริงๆ แล้วบากหน้ามาพบผมทำไม หรืออยากให้ผมส่งคุณเข้าคุกให้เร็วขึ้นล่ะ”

เดนิเรลเยาะเสียงดูแคลน เขาเดินไปทรุดนั่งลงบนโซฟานุ่มที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้องทำงานแสนอลังการของตัวเอง มองคู่สนทนาที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินมาหยุดตรงหน้าของเขาด้วยความขยะแขยงไม่ปิดบัง

“ผมมาขอร้องคุณเดนิเรล...”

“ขอร้องผม... คนต่ำช้าอย่างคุณยังมีหน้ามาพูดคำนี้กับผมอีกหรือ ผมว่าคุณรีบไปให้พ้นหน้าผมเสียเร็วๆ ดีกว่า ก่อนที่ผมจะให้รปภ. มาลากคุณลงไปเสียเอง...”

ไม่มีร่องรอยความปรานีในกระแสเสียงของผู้ชายทรงอำนาจตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย ดิเอโก้กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เขามองคู่สนทนาอย่างอ้อนวอนก่อนจะพูดออกไป

“ผมรู้ว่าคุณเกลียดชังผม... แต่ผมอยาก... อยากขอร้องให้คุณเดนิเรลช่วยลูกสาวของผมด้วย ช่วยพวกแกให้รอดพ้นจากความคั่งแค้นของประชาชนด้วย พวกแกไม่รู้เรื่อง...”

เดนิเรลแค่นยิ้มหยัน ดวงตาคมกริบไม่ผิดจากพยัคฆ์ร้าย “ผมจำเป็นต้องทำขนาดนั้นเชียวหรือ...”

ความไม่ใยดีในน้ำเสียงของเดนิเรลมีผลต่อจังหวะการเต้นของหัวใจของดิเอโก้เสียเหลือเกิน หัวใจของเขากระตุกวูบ ใบหน้าเศร้าหมองซีดเผือด

นี่คือหนทางเดียวที่จะช่วยมุนินกับดานีนได้ มีแค่อาณาจักรของการ์รัสโซ่เท่านั้นที่จะสามารถช่วยเหลือลูกสาวทั้งสองคนของเขาจากน้ำมือของคนพวกนั้นได้

“คิดเสียว่าทำบุญเถอะนะครับคุณเดนิเรล... ผมยอมตายเพื่อชดใช้ความผิด แต่ผม... ผมยอมให้ลูกสาวของผมทั้งสองคนต้องมาพลอยลำบากไปกลับผมด้วยไม่ได้ ผม... ผมสงสารพวกแก...”

“กลับไปซะ ผมไม่ช่วยเหลือคนขี้โกงแบบพวกคุณหรอก”

เดนิเรลผุดลุกขึ้นยืน ดวงตาสีนิลเนื้อดีจ้องหน้าคู่สนทนาราวกับจะฆ่าให้ตายเขาจะไม่มีวันยุ่งเกี่ยวกับพวกคนขี้โกงอย่างแน่นอน

“ผมขอร้อง... แค่ช่วยลูกสาวของผม...”

“ไม่ว่าคุณจะร้องไห้ หรือจะคุกเข่าต่อหน้าผมก็ตาม... จำเอาไว้ผมไม่มีทางช่วยเหลือคนโลภต่ำช้าแบบคุณแน่คุณดิเอโก้ โรดิเกซ...” เดนิเรลเค้นเสียงลอดไรฟันออกมา ความชิงชังอัดแน่นอยู่ในน้ำเสียงนั้นมหาศาลเลยทีเดียว

“ได้โปรดเถอะ... ครับ...”

บทถัดไป