บทที่ 2 ตอนที่ 2
ดิเอโก้น้ำตาร่วงอาบแก้ม เขาพยายามวิงวอน พยายามขอร้องชายตรงหน้าให้เห็นใจลูกสาวของเขาทั้งสองคน แต่ผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าจอมมารแห่งการ์รัสโซ่กลับใจหินเหลือเกิน เดนิเรลไม่ยอมช่วยเหลือ แถมยังผลักไสให้ตระกูลโรดิเกซของเขาลงนรกเร็วยิ่งขึ้นเสียอีก
“ไปซะ!”
และก็ไม่มีประโยชน์ที่จะวิงวอนต่อไปอีกเมื่อเดนิเรล การ์รัสโซ่ประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนว่าไม่มีวันยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของเขาที่กำลังเดือดร้อนอย่างแน่นอน ไม่มีประโยชน์ที่จะต่อสู้อีกแล้ว ไม่เหลือทางที่จะดิ้นหนีได้อีกแล้วจริงๆ เขาไม่ควรเลย ไม่ควรที่จะเห็นแก่เงินเพียงแค่ไม่กี่สิบล้านพวกนั้นเลย แต่มาคิดได้ก็ตอนที่สายจนไร้ทางแก้ไขแล้ว ดิเอโก้น้ำตาไหลไม่หยุด ขณะเดินคอตกราวกับคนสิ้นหวังออกมาจากห้องทำงานของเดนิเรล ตลอดเส้นทางที่ย่ำลงไปบนพื้นพรมหนานุ่มนั้นช่างไม่ต่างจากการเหยียบลงไปบนเข็มแหลมคมเลยแม้แต่นิดเดียว
ลิโอเนลต้องเลิกคิ้วขึ้นสูงเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาของเดนิเรลเต็มไปด้วยโทสะ หนุ่มผู้พี่หันไปปิดประตูห้องทำงานอย่างเบามือก่อนจะเดินมาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวตรงข้ามกับน้องชาย เดนิเรลปลายตามองพี่ชายคนรองแวบหนึ่งก่อนจะถอนใจออกมา
“พี่ลีโอมีอะไรกับผมหรือครับ...”
“แค่แวะมาหาเท่านั้น ว่าแต่นายเถอะหน้าบูดราวกับโกรธใครมาสักพันปีอย่างนั้นแหละ ไหนว่ามาสิว่าเป็นอะไรไป...”
เดนิเรลถอนใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะหันมาจ้องหน้าพี่ชาย “พี่ลีโอรู้ข่าวเรื่องตึกอเวลเทลถล่มแล้วใช่ไหมครับ...”
ลิโอเนลพยักหน้าน้อยๆ “รู้สิ ข่าวดังจะตายไป เห็นว่าบริษัทรับเหมาก่อสร้างโดนอ่วมเลยนี่ เอ่อ รู้สึกว่าเจ้าของบริษัทจะเป็นพ่อของอดีตคู่ขาของนายด้วยนะ ยายมุนินอะไรนั่นไง...”
ดวงตาสีคืนเดือนดับของเดนิเรลลุกโชนราวกับไฟ “พวกนั้นสมควรโดนแล้วล่ะครับ คนชั่วก็ต้องรับผลกรรมชั่วๆ ที่ตัวเองกระทำขึ้น และอีกอย่างนะพี่ลีโอ มุนินไม่ใช่คู่ขาของผม และถึงจะเคยคุยกันแต่ผมกับเธอเลิกคุยกันไปตั้งนานแล้ว...”
ผู้เป็นพี่ชายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะไหวไหล่กว้างทางพลังอย่างไม่แยแสสิ่งใด “พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ว่าแต่นายเถอะทำไมถึงพูดเหมือนกับว่าพวกโรดิเกซเป็นคนผิดล่ะ... บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ก็ได้นี่...”
เดนิเรลส่ายหน้าคัดค้าน ความชิงชังผุดพรายเต็มดวงตาคมกริบ “มันไม่ใช่สิ่งที่ควบคุมไม่ได้หรอกครับ แต่มันคือสิ่งที่คนละเลยที่จะไม่ควบคุมมันต่างหาก ตึกนั้นสร้างไม่ได้มาตรฐาน พวกโรดิเกซเห็นแก่เงินที่เจ้าของตึกมอบให้ จึงลดคุณภาพของอุปกรณ์ทุกอย่างลงไป และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้อเวลเทลถล่มในครั้งนี้...”
“นายรู้ได้ยังไง... ตำรวจสรุปแล้วหรือ”
“พี่ลีโออย่างลืมสิว่าผมน่ะก็เป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างเหมือนกัน แค่มองผมก็รู้แล้ว...”
จริงสินะ เดนิเรลเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการธุรกิจก่อสร้างและออกแบบรายใหญ่ที่สุดในยุโรปใต้ แล้วเขาเชื่อแน่ว่าในอีกปีสองปีข้างหน้าบริษัทของเจ้าน้องชายตัวแสบจะต้องแผ่อำนาจครอบคลุมไปทั่วทั้งทวีปยุโรปและดินแดนใกล้เคียงได้อย่างแน่นอน และด้วยความจริงข้อนี้ก็ทำให้ลิโอเนลไม่คิดที่จะสงสัยในคำพูดของน้องชายเลยแม้แต่น้อย
“แล้วนายจะทำยังไงต่อไปล่ะ เพราะหากพี่ตาไม่ฝาดเมื่อกี้เหมือนเห็นหลังของนายดิเอโก้เดินสวนเข้าลิฟต์อีกตัวไปแวบๆ น่ะ”
ผู้เป็นน้องพยักหน้าน้อยๆ รอยยิ้มขยะแขยงผุดขึ้นเต็มไปหน้า “พี่ลีโอตาไม่ฝาดหรอกครับ นายดิเอโก้มาหาผมจริงๆ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงเลือกมาหาผม ทั้งๆ ที่การ์รัสโซ่มีตั้ง 5 คน แต่มันจะด้วยเหตุผลใดก็ช่างเพราะถึงให้เขาคุกเข่าต่อหน้าผมก็ไม่มีทางช่วย ผมจะยืนมองคนพวกนี้ถูกสังคมลงโทษจนตาย...”
“แต่พี่ว่าลูกสาวของเขาไม่เกี่ยวข้องด้วยนะ...”
เดนิเรลไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เขานั่งนิ่ง บอกตัวเองให้ใจแข็งอย่าได้ไปเห็นอกเห็นใจคนพวกนั้น แต่สุดท้ายก็อดหวั่นไหวไม่ได้ เมื่อภาพของแม่เด็กสาวปากตลาดอย่างดานีนผุดในมาในสมอง เขาทั้งเกลียดทั้งชังยายเด็กคนนี้ แต่ไม่รู้ทำไมในหัวถึงได้มีภาพของแม่นี่อยู่ตลอดเวลานะ เดนิเรลตั้งคำถามกับตัวเองในอกแต่จนแล้วจนรอดก็หาคำตอบไม่ได้อยู่ดี
“พ่อชั่ว... ลูกก็ต้องชั่วครับ... ผมไม่เชื่อหรอกว่าสายเลือดในตัวของแม่พวกนั้นจะไม่ใช่สีเดียวกับนายดิเอโก้”
หนุ่มหล่อลากไส้ผู้เกิดมาที่หลังแค่นยิ้มชิงชัง คนพวกนี้ต่ำช้าและแน่นอนว่าเขาจะไม่มีวันยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออย่างเด็ดขาด
“นายนี่ใจแข็งชะมัดเลยนะแดน ทำเหมือนกับคนไม่มีหัวใจ...”
ผู้เป็นน้องชายแสยะยิ้ม จ้องหน้าคู่สนทนาซึ่งเป็นพี่ชายนิ่ง ก่อนจะย้อนด้วยน้ำเสียงติดกระด้าง
“แล้วพวกเราการ์รัสโซ่มีใครมีหัวใจบ้างล่ะครับ...”
