บทที่ 6 ตอนที่ 6.เจ้าสาวตัวแทน/2

“อยากกินอะไรก็สั่งมากิน ว่าที่พ่อสามีของยายป่านเขาเป็นเจ้าของที่นี่ เขาให้พักฟรีกินฟรี แกจะกินหูฉลามน้ำแดงเขาก็ไม่ว่าอะไรหรอก ฉันไปล่ะ ล็อกประตูห้องดีๆ นะ”

พูดจบแพรพรรณก็เดินออกไป ปล่อยให้หลานสาวอยู่ในห้องเพียงลำพัง มัสลินรีบกดล็อกประตูห้องตามคำสั่ง แล้วเดินมานั่งที่เตียงนอน ถอนหายใจแรง

“เฮ้อ... คงต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้องนี่ละ จะได้ไม่ต้องผิดศีลข้อมุสา”

มัสลินยอมอุดอู้อยู่ในห้อง ดีกว่าต้องออกไปโกหกใครๆ ตามคำสั่งของผู้เป็นป้า หญิงสาวเดินไปที่ระเบียงนั่งเล่นมองดูวิวทิวทัศน์รอบๆ บริเวณ สายลมพัดไอทะเลมาจางๆ มองจากตรงนี้เห็นทะเลและชายหาดไม่ไกล ด้วยด้านหน้าของโรงแรมติดกับชายหาด มีนักท่องเที่ยวอยู่คับคั่ง น่าลงไปเดินเล่น เสียดายที่เธอไม่สามารถลงไปได้ จึงต้องนั่งมองอยู่แบบนี้

ก๊อก ก๊อก ก๊อก !!!

นั่งเล่นอยู่ครู่ใหญ่ประตูห้องก็มีเสียงเคาะเรียก มัสลินรีบเดินมาส่องดูที่รูตาแมวทันที มีคนยืนรออยู่หน้าห้องสามคนเป็นผู้หญิงแท้สองคน อีกคนเป็นกะเทยร่างท้วมแต่งหน้าจัด

“ใครกัน มาเคาะผิดห้องหรือเปล่านะ”

มัสลินไม่กล้าเปิด แต่คนที่รออยู่ก็เคาะอีกครั้ง ทำให้ต้องเปิดออกมา

“ห้องของคุณมัสลินใช่ไหมคะ”

พอเปิดประตู กะเทยนางเดียวในกลุ่มก็เอ่ยถาม ด้วยน้ำเสียงที่เจ้าตัวพยายามดัดให้อ่อนหวาน

“เอ่อ... ค่ะ พวกคุณเป็นใครคะ”

มัสลินตอบรับอย่างแปลกใจที่อีกฝ่ายรู้จักชื่อของเธอ มองดูผู้หญิงสองคนก็พบว่าคนหนึ่งหิ้วถุงใส่ชุดเจ้าสาวมาด้วย อีกคนหอบกล่องใส่อุปกรณ์อะไรสักอย่างไว้พะรุงพะรัง

“พวกเรามาจากห้องเสื้อวีว่าค่ะ เอาชุดเจ้าสาวมาให้ลอง แล้วก็จะลองแต่งงานทำผมให้ดูด้วยค่ะ เผื่อจะได้ปรับแก้หากไม่ถูกใจอะไร แกสองคนเอาของเข้าไปในห้องสิ ยืนเกะกะอยู่ได้”

คำตอบนั้นทำให้มัสลินนิ่วหน้า แต่ไม่ทันจะเอ่ยอะไรสองสาวก็พากันดันประตู หอบหิ้วข้าวของเดินเข้ามาในห้องเรียบร้อย กะเทยร่างท้วมจูงแขนหญิงสาวพาเข้าห้องไปด้วย พร้อมปิดประตูให้เสร็จสรรพ

“นั่งตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวขอเอาชุดให้ลองก่อน”

มัสลินถูกพามานั่งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง สองสาวที่เดินเข้ามาก่อน จัดการเปิดถุงใส่ชุดเจ้าสาว เอาออกมาพาดไว้บนเตียง อีกคนเปิดกล่องอุปกรณ์แต่งหน้ามาจัดเรียงไว้บนโต๊ะ พร้อมทั้งเครื่องประดับผมแบบต่างๆ

“เอ่อ... คือว่าฉันไม่...”

มัสลินกำลังจะบอกว่าเธอไม่ใช่เจ้าสาว เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น หน้าจอโชว์หมายเลขของผู้เป็นป้าจำต้องกดรับ

“ยายมัส ช่างเสื้อกับช่างแต่งหน้าไปหาแกแล้วใช่ไหม” เสียงของแพรพรรณดังมาตามสาย

“ค่ะ เพิ่งมาถึงค่ะ”

มัสลินตอบผู้เป็นป้าเสียงเบา ค่อยๆ ลุกหนีมาคุยที่ระเบียงห้อง

“เจ้าสัวโภคินว่าที่พ่อสามีของยายป่าน ท่านส่งไปน่ะ แกก็ตามน้ำไปแล้วกัน เขาให้ลองชุดหรือทำอะไรก็ยอมทำตามเขาไป”

“ค่ะ มัสจะทำตามค่ะ”

มัสลินจำต้องตกกะไดพลอยโจนไปอย่างลำบากใจ นึกว่าหลบอยู่แต่ในห้องแล้ว จะไม่ต้องมุสาใคร แต่ก็จำเป็นต้องปั้นหน้าโกหกตาใสตามคำสั่งของผู้เป็นป้า

“อีกเดี๋ยวคุณภานุเจ้าบ่าวของยายป่าน อาจจะแวะไปหา เขาไม่เคยเจอยายป่านมาก่อน แกก็เนียนๆ คุยกับเขาไปนะ อย่าทำเสียเรื่องล่ะ แค่นี้นะ” พูดจบก็วางสายไป

“โอย... นี่ต้องโกหกใครต่อใครอีกหลายคนเลยเหรอ”

มัสลินหนักใจกับคำสั่งของผู้เป็นป้า ไม่ทำตามก็ไม่ได้ นางแพรพรรณคงไปโกหกอะไรไว้มากมาย เธอไม่ทำตามก็เท่ากับเปิดโปง อาจจะทำให้อีกฝ่ายเดือดร้อนได้

“ขอโทษนะคะ เชิญมาลองชุดก่อนค่ะ” ช่างเสื้อเดินออกมาตาม

มัสลินต้องกลั้นใจยอมเป็นหุ่น ปล่อยให้ช่างเสื้อจับลองชุดเจ้าสาวที่อีกฝ่ายขนมาถึงห้าชุด มีทั้งแบบสุ่มไก่ แบบกระโปรงสั้น แบบเปิดไหล่ เกาะอก และชายกระโปรงยาวหลายเมตร

“ใส่ชุดไหนก็สวยทุกชุด ผิวขาวเนียนแบบนี้ ใส่อะไรก็ผ่องไปหมด”

ผิวของมัสลินขาวนวลราวกับไข่มุกเนื้อดี เนียนละเอียดไร้ไฝฝ้า รูปร่างก็สมส่วนอรชร มีทรวดทรงองเอวที่ผู้หญิงด้วยกันยังอิจฉา ยิ่งถูกจับเกล้าผม แต่งหน้าเต็มที่ ยิ่งสวยจนตะลึง สมกับเป็นว่าที่เจ้าสาวของลูกชายเจ้าสัวใหญ่

“เสร็จแล้วใช่ไหมคะ” มัสลินเริ่มอึดอัดใจจนทนไม่ไหว

“เสร็จแล้วค่ะ ตกลงเอาชุดแบบสุ่มไก่เกาะอกแบบนี้นะคะ ทำผมเกล้ามวยปล่อยไรผมเคลียกรอบหน้านิดๆ ติดดอกไม้กับกิ๊ฟประดับเพชรอีกสักหน่อย สวยจนโลกตะลึงเลยค่ะ”

ใบหน้ารูปไข่มีหน้าผากมนได้รูป แต่งหน้าสไตล์ไหนก็สวยไปหมด ยิ่งเจ้าตัวมีความสวยหวานเป็นทุนเดิม ยิ่งแทบไม่ต้องแก้ไขจุดบกพร่องอะไรอีก มองผาดๆ ราวกับเจ้าหญิงหรือนางฟ้าเดินดิน สวยจนต้องเอ่ยคำชมซ้ำซาก

“ขอบคุณค่ะ ฉันถอดชุดออกได้แล้วใช่ไหมคะ” มัสลินทำท่าจะขยับลุก แต่ถูกห้ามไว้ก่อน

“ยังค่ะ ยังถอดไม่ได้ ต้องไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งก่อนค่ะ เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ไม่ค่อยมีเวลา แถมงานก็จะจัดในไม่กี่วันนี้แล้ว ทางเราต้องเร่งทำสแตนดิ้งด้วย ขอความร่วมมือด้วยนะคะ”

จากแค่ลองชุด แต่งหน้าทำผม บานปลายไปจนถึงขั้นต้องถ่ายพรีเวดดิ้ง ทำเอามัสลินอึดอัดพูดอะไรไม่ออก จะปฏิเสธก็ไม่ได้ ได้แต่นิ่งเงียบไว้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป