บทที่ 10 ทำไมเขาหน้าหนาอย่างนี้นะ!
ยามนี้ใบหน้าหญิงสาวแดงก่ำจนแทบคั้นออกมาเป็นหยดเลือด คำร้องห้ามไม่เป็นผล แม้มือเล็กพยายามผลักไสไม่ให้เขาก้มลงไปแต่สุดท้ายแล้ว นางก็ได้แต่อ่อนระทวยเพราะลิ้นร้อนแทรกเข้าไปในกลีบดอกไม้สาว
กลิ่นหอมหวานทำให้ชายหนุ่มแทบคลุ้มคลั่ง ลิ้นร้อนโลมเลียกลีบเนื้อสีหวานจนเรียวขางามสั่นระริก ยิ่งเขาตวัดลิ้นไล้เลียสลับกับใช้ลิ้นรุกรานในร่องรัก หยาดน้ำหวานหลั่งออกมามาก ความร้อนรุ่มแผ่ไปทั่วร่าง ลมหายใจหอบกระชั้นดังอย่างต่อเนื่อง หยาดน้ำตาคลอเบ้าตาของหญิงสาว สะโพกงามงอนส่ายยั่วเย้าอย่างไม่รู้ตัว ความเสียวซ่านทำเอาจ้าวจื่อรั่วได้แต่ครางอย่างสุดทนกลั้น ถูกลิ้นและนิ้วมือเร่งเร้าจนร่างกายเกร็งกระตุกและหวีดร้องออกมา
กู้ตงหยางเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าฉ่ำหยาดน้ำตาของภรรยาตัวน้อย นางได้แต่สะอึกสะอื้นกับสัมผัสที่เขาตระเตรียมให้นางเพื่อรองรับสิ่งที่ใหญ่โตนี้ หากนางไม่ใช่ภรรยาของเขา เขาคงไม่ต้องใส่ใจว่านางจะรับได้ไหวหรือไม่ เขายื่นมือไปเกลี่ยน้ำตาที่เปื้อนแก้ม ความปรารถนาอันแข็งขันที่ทำให้เขาปวดหนึบอยู่นี้ทำให้เขาเร่งรีบปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนจนหมด แล้วจับมือนางมาแตะที่รอยแผลเป็นบนแผ่นอก
“กลัวหรือไม่” เขาถามเสียงแหบพร่า
ปลายนิ้วที่สัมผัสรอยแผลเป็นสั่นเล็กน้อย แล้วส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ นางไม่ได้กลัวหรือรังเกียจบาดแผลของเขา แต่สิ่งที่บดเบียนเนินเนื้ออยู่ตอนนี้ต่างหากที่ทำให้นางกลัว
ราวกับรู้ความคิดของอีกฝ่าย กู้ตงหยางจับมือนางให้มาแตะต้องส่วนที่แข็งขันอยู่ตอนนี้ ดวงตากลมเบิกกว้างอย่างตกใจ นางดึงมือกลับแต่เขากดมือนางไว้ มือเรียวเล็กถูกบังคับให้กุมลำเอ็นที่แทบกำไม่รอบ เสียงครางอย่างพอใจดังขึ้นเบาๆ แต่ในความเงียบนี้ทำให้นางได้ยินเสียงชัดเจน ความตื่นตระหนกค่อยๆ ลดลง มือใหญ่นำพาให้มือนุ่มรูดลำเอ็นเป็นจังหวะ มันขยายใหญ่ขึ้นจนจ้าวจื่อรั่วรู้สึกได้
ก่อนที่นางกลัวขึ้นมาอีกระลอก เขาปล่อยมือนางออกแล้วจับแก่นกายถูไถกลีบดอกไม้สาวที่ยังเปียกชื้นอยู่ ร่องรักที่ยังเปียกแฉะทำให้เขาส่งแก่นกายเข้าไปได้ง่ายขึ้น แต่ความใหญ่โตของท่อนเอ็นทำให้เขาขยับเรียวขาให้แยกออกกว้างแล้วค่อยๆกดลำทวนใหญ่ยักษ์เข้าไปในผนังอ่อนนุ่มที่ค่อยๆกลืนกินท่อนเนื้อของเขาจนหมด ความเสียวซ่านถาโถมขึ้นอีกครั้ง เขาขยับเอวถอนแก่นกายออกจนเกือบสุด นางสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ แต่เมื่อเขากดกระแทกดันกลับเข้าไปใหม่ นางก็ร้องครางออกมา
“อื้อ....”
จ้างจื่อรั่วครางเสียงสั่น ร่างกายปรับตัวกับลำทวนใหญ่ยาวที่เคลื่อนไหวเข้าออกในร่องสาว กู้ตงหยางใช้มือข้างหนึ่งจับเอวนางไว้และอีกข้างเอื้อมมาบีบเคล้นทรวงอกเพิ่มความเสียวซ่านแสนรัญจวน
“อ๊า...” ทุกการเคลื่อนไหวนำความเสียวซ่านระลอกแล้วระลอกเล่าสาดซัดใส่จนร่างกายสั่นไหวตามแรงกระแทกกระทั้น จนหัวสมองของนางขาวโพลนไปหมด ร่างกายถูกผลักดันจนเกร็งกระตุกไปอีกรอบ
เสียงครางของนางยิ่งปลุกเร้าชายหนุ่ม เขาจับเรียวขาเข้ามาชิดงอเข่าแล้วดันไปด้านหน้า สะโพกงามลอยขึ้นเหนือพื้นเล็กน้อย ทรวงอกอวบอิ่มถูกดันขึ้น ช่องทางคับแคบยิ่งบีบรัดลำเอ็นมากยิ่งขึ้น เขาครางเสียวซ่านพร้อมขยับเอวเข้าสุดออกสุด ร่างเล็กสั่นไหวตามแรงกระแทก ใบหน้างามแดงเรื่อ นางคือภรรยาของเขา คนของเขา สตรีที่เขาครอบครองได้อย่างเต็มใจ
“ท่าน...อื้อ.. ช้า...ช้าหน่อย...ข้า มะ ไม่ ไม่ไหว อะ อ๊ะ”
ท่าทางทรมานของนางไม่อาจทำให้ชายที่มีฐานะเป็นสามีหยุดการเคลื่อนไหวได้เลย เขายังคงขยับสะโพกสอบตอกตรึงอย่างต่อเนื่อง ดิบเถื่อนและลึกล้ำ ทว่ามันปราศจากความเจ็บปวด แต่เป็นความรัญจวนเร่าร้อนและเรียกร้องให้นางตอบสนอง หญิงสาวไม่ประสีประสา เหมือนเขากำลังป้อนอาหารที่นางไม่เคยกินให้ลิ้มรสชาติแปลกใหม่ เขาเร่งจังหวะขยับโยกไม่หยุด พลางก้มมองกลีบเนื้อที่ดูดกลืนแท่งเอ็นร้อนของตนที่อาบน้ำรักจนเป็นมันวาว ผนังอ่อนนุ่มตอดรัดจนเขาไม่สามารถอดกลั้นได้อีก ส่งตัวตนเข้าไปจนสุดแล้วปลดปล่อยน้ำรักหลั่งรดอยู่ภายใน
จ้าวจื่อรั่วเห็นเขาแหงนหน้าคำราม ร่างแกร่งเกร็งกระตุกครู่หนึ่งจึงโน้มหน้าลงจูบหน้าผาก เขาพลิกตัวลงมานอนตะแคงโดยดึงร่างนางมาแนบชิด หญิงสาวค่อยๆปรับลมหายใจอยู่ครู่ใหญ่ จึงกล้าเงยหน้าสบตากับดวงตาแวววับที่จ้องมองนางอยู่ก่อนแล้ว นางขยับตัวอย่างเขินอายแต่มือใหญ่กดเอวนางไว้ไม่ให้ขยับ
“อย่าขยับ”
“แต่...ท่านจะอยู่อย่างนี้นะรึ”
“ข้าอยู่อย่างไรรึ?”
“ท่าน...ท่าน ออกไปสิ”
“เจ้านี้อย่างไรกัน กล้าไล่สามีรึ”
“ข้าหมายถึง...”
ใบหน้าหวานแดงเรื่อขึ้นมาอีก แก่นกายของเขายังอยู่ในกายนาง การขยับตัวเพียงเล็กน้อยก็ทำให้นางเสียวซ่านขึ้นมาอีกครั้ง
ทำไมเขาหน้าหนาอย่างนี้นะ!
กู้ตงหยางแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ เขากอดนางไว้แน่นปล่อยให้แก่นกายของตนฝังในผนังอ่อนนุ่มของนางและค่อยๆเคลื่อนไหวตามแรงปรารถนาระลอกแล้วระลอกเล่า.
หญิงสาวตื่นมาก็พบเพียงข้างกายที่ว่างเปล่าและที่นอนที่เย็นเยียบ แสดงว่าเขาจากไปนานแล้ว แต่เหตุใดไม่เรียกนางสักคำ นางก็มิใช่คนตื่นยากเสียหน่อย ยิ่งนางเห็นสภาพตนเองที่เต็มไปด้วยรอยช้ำเป็นจุดแดง ทั้งเขินอายและสับสนปะปนจนใจเจ็บ นี่เขาโกรธแค้นที่นางไม่ใช่ภรรยาตัวจริงจึงได้ลงทัณฑ์นางถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
“ฮูหยิน” เสี่ยวฉู่เรียกเสียงเบา สีหน้าฮูหยินดูซีดเซียวจนน่าเป็นห่วง “ให้ข้าเชิญท่านหมอมาดีไหมเจ้าคะ”
จ้าวจื่อรั่วถอนหายใจเบาๆ แล้วส่ายหน้าไปมา ผู้อื่นจะได้คิดว่านางเรียกร้องความสนใจนะสิ
“เช่นนั้น...ฮูหยินกินอะไรสักหน่อยนะเจ้าค่ะ ตอนเช้าท่านก็ไม่ได้กินอะไร นี่ก็บ่ายแล้ว ท่านกินอะไรสักนิดนะเจ้าค่ะ”
