บทที่ 11 11

“คุณจะทำอะไร” มัสมินร้องถามเสียงหอบเมื่อนิ้วมากชั้นเชิงของเขารั้งเนื้อผ้าของชุดราตรีซึ่งเบี่ยงอยู่บนไหล่ข้างหนึ่งบนเรือนร่างแน่งน้อยที่เขาทาบทับอยู่ออกไปจนเนินเนื้ออวบใหญ่กลมกลึงหลุดออกมาอวดสายตาสีฟ้าอมเขียวมรกตบนใบหน้าหล่อเหลาคมคาย หยาดน้ำใสรินออกมาทางหางตาของผู้ปราชัยหากแต่หาได้รับความเห็นใจจากผู้กุมชัยชนะที่ยิ้มหยันเหยียดลึกลงไปถึงก้นบึ้งของเธอไม่

“คุณต้องรับข้อเสนอของผม เป็นทางเลือกแค่ทางเดียว...คุณต้องเป็นนางบำเรอของผมทุกเวลาที่ผมต้องการ ไม่มีข้อผูกมัด ไม่มีความผูกพัน คุณไม่มีสิทธิ์ต่อรองอะไรกับชีวิตของตัวเอง หลังจากนี้สามเดือนคุณถึงจะได้รับอิสรภาพ ตอนที่ผมบินกลับฟลอเรนซ์ ถึงเวลานั้นอยากจะไปมีผู้ชายคนไหน อยากจะมีใครสักกี่คน ก็ไม่ใช่เรื่องของผมอีก!”

“ไม่! ฉันไม่มีวันรับข้อเสนอบ้า ๆ ของคุณ ไม่มีวัน!”

หญิงสาวส่ายหน้าไปมาแต่ก็ไม่พ้นจูบหน่วงหนักที่เขาบีบบังคับปรนเปรอให้เธออีกหน มีบางอย่างแล่นพล่านอยู่ในเส้นเลือดของทั้งสอง ในขณะที่ฝ่ายหนึ่งรุกฆาตเพื่อเอาชนะ อีกฝ่ายกลับแพ้พ่ายต่อเพลิงแผดเผาที่รุมเร้าอยู่บนร่างงามระหงทุกตารางนิ้ว รู้ทั้งรู้ว่าไฟนั้นคือความเกลียดชังที่กำลังจะผลาญพังทุกสิ่งหากแต่กายสาวกลับตอบรับต่อทัณฑ์เสน่หาที่เขายัดเยียดให้เสมือนคำบัญชามิอาจขัดขืน

“ไม่! ลอวเรนซ์ ฉันไม่ได้อยากให้คุณทำแบบนี้ คุณไม่ได้รักฉันแล้ว คุณทำไปเพื่ออะไร!”

มัสมินร่ำร้องอยู่กับบ่าทรงพลังของชายหนุ่มที่ใบหน้าสากระคายด้วยเคราบางจาบจ้วงลงไปบนแก้มเนียนและตามไรผม หน้าผากของเธออย่างบ้าคลั่ง

“ให้คุณได้รู้จักการตอบแทนไง!”

ลอวเรนซ์ตวาดกลับขณะกดไหล่บางเปล่าเปลือยไว้ในอุ้งมือแสดงอำนาจว่าเธอไม่มีสิทธิ์อุทรใด ๆ ทั้งสิ้นขณะนัยน์ตาสีฟ้าอัญมณีซึ่งครั้งหนึ่งเคยมองเธอด้วยความรักบัดนี้กลับสะท้อนความเกลียดชังล้ำลึก

“เราต่างต้องตอบแทนความรักของกันและกัน คุณตอบแทนผมด้วยการหลอกลวง ผมก็จะต้องตอบแทนคืนกลับไปบ้าง แต่เป็นชีวิตและน้ำตาของคุณ!”

ร่างสูงใหญ่หยัดกายขึ้นและผละออกจากร่างบางที่นอนระทดระทวยราวกับไม่นึกเสียดาย หญิงสาวรีบดึงชุดราตรีขึ้นมาปิดทรวงอกอวบสล้างทันทีโดยไม่ยอมแม้แต่จะสบตาเขาให้ยิ่งเจ็บช้ำมากกว่าเดิม

“ผมให้โอกาสคุณตัดสินใจถึงคืนพรุ่งนี้ เลือกเอาระหว่างตัวคุณเองกับครอบครัว ถ้าอยากให้คนอื่นต้องมาเดือดร้อนเพราะความเห็นแก่ตัวของคุณก็ลองดู แล้วจะรู้ว่าเวลาผมเอาจริงขึ้นมาจะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น! นี่เป็นเบอร์โทรของผม คิดว่าคืนพรุ่งนี้คงได้คำตอบ...จากคุณ”

แผ่นนามบัตรเล็ก ๆ ถูกโยนลงบนโต๊ะไม้ข้าง ๆ หญิงสาวก่อนที่คนพูดจะหันหลังเดินลงส้นออกไปจากห้องนั้นทิ้งไว้เพียงความเงียบงันปลุกปลอบเสียงสะอื้นไห้ของหญิงสาว เธอกำมือข้างที่เต็มไปด้วยรอยแผลไว้แน่นปล่อยให้หยดน้ำตาร่วงไหลออกมาอย่างไม่ปรารถนาจะเก็บกลั้น

นี่คือผลพวงจากการตัดสินใจซึ่งมันเป็นความผิดพลาดใหญ่หลวงจนมิอาจประมาณค่าความเจ็บช้ำได้ มัสมินกัดฟันแน่น...คำตอบของคืนพรุ่งนี้ล่ะหรือ ลอวเรนซ์จะต้องผิดหวังเพราะเธอไม่มีทางตอบรับข้อเสนอของเขาเป็นเด็ดขาด


“สวัสดีค่ะ คุณมัสมิน...ทำไมวันนี้มาเร็วจัง เอ๊ะ! แล้วมือของคุณไปโดนอะไรมาคะนั่น?”

นุสบากล่าวทักนักดนตรีของเธอซึ่งอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงเลคกิ้งสีน้ำเงินสวมรองเท้าทรงบัลเลต์ส้นแบนที่ก้าวเข้ามาภายในห้องอาหารของโรงแรมยามสนธยาโรยตัวลงมาห่มคลุมท้องฟ้าสะท้อนแสงสีอำพันอาบเซลิโน่ให้งดงามราวสวรรค์บนแดนดินริมทะเล ผู้จัดการห้องอาหารรีบเดินเข้ามาเพื่อดูมัสมินด้วยความประหลาดใจระคนเป็นห่วงเมื่อเห็นมือข้างหนึ่งของเธอพันผ้าสีขาวเอาไว้ขณะยกขึ้นพุ่มไหว้

“สวัสดีค่ะ พี่นุสบา นุ่นจะมาขอลางานสักสองสามวันค่ะ พอดีมีอุบัติเหตุกับมือข้างที่ใช้จับสายไวโอลิน นุ่นต้องขอโทษจริง ๆ ค่ะ อาจต้องพักมือให้แผลหายเสียก่อน”

“คุณนุ่นคะ...”         นุสบามองที่มือของมัสมินแล้วทำสีหน้าอย่างมีอะไรที่อยากบอก

“คุณนุ่นตามพี่มาทางนี้ก่อน พี่ขอเวลาคุณนุ่นสักครู่นะคะ”

น้ำเสียงของผู้จัดการห้องอาหารราวกับผ่านการตริตรองอย่างหนักและมัสมินก็รู้สึกถึงบรรยากาศแปลก ๆ อวลอยู่ ณ ที่นั้น ที่เธอเดินตามนุสบาเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัว

“คุณนุ่นคะ...เอ้อ...วันนี้พี่เพิ่งได้รับสัญญาฉบับใหม่ของทางโรงแรมเรื่องการว่าจ่างนักดนตรี อืม...ระบุมาสำหรับคุณ มัสมิน เธียรธรากุล...คุณนุ่นอ่านดูนะคะ”

หญิงสาวรับเอกสารจากมือของผู้จัดการส่วนตัวซึ่งหยิบมันออกมาจากลิ้นชักโต๊ะทำงาน เธอก้มลงอ่านและต้องถึงกับเบิกตาโพลง

“อะไรกันคะ พี่นุสบา! ทางโรงแรมจ้างนุ่นเล่นไวโอลินโดยไม่ให้มีวันหยุด ถ้าหยุดวันไหนต้องชดใช้ความเสียหายให้เซลิโน่คืนละหนึ่งแสนบาท นี่มันสัญญาว่าจ้างหรืออะไรกันคะ ทำไมมันโหดแบบนี้!”

“คุณนุ่นใจเย็นนะคะ”  นุสบารีบยกมือเป็นเชิงห้ามเมื่อเห็นใบหน้านวลปลั่งนั้นแดงเหมือนลูกตำลึงสุกซึ่งก็ควรอยู่หรอกที่ผู้ได้รับการว่าจ้างต้องโกรธจนควันออกหูเช่นนี้

“คือ...พี่ก็เพิ่งได้รับสัญญาฉบับนี้มาเมื่อบ่ายวันนี้เอง ก็ยังงง ๆ แต่เห็นว่าเป็นความประสงค์ของหุ้นส่วนใหญ่ คุณลอวเรนซ์น่ะค่ะ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป