บทที่ 15 15

“คนเรามีทางเลือกเสมอ มิวซีอา...แต่เลือกแล้วต้องรับผิดชอบการเลือกของตัวเองเหมือนที่คุณต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของคุณ ถ้ามันจะเลวร้ายจนคุณแทบจะแบกรับมันไม่ได้ คุณก็ต้องทนรับ...แบบนี้ไง!”

มาเฟียเลือดร้อนคว้าแขนมัสมินแล้วดึงตามไปถึงโคนไม้ริมหาดที่เรือนกิ่งใบแผ่ขยายเป็นพุ่มเตี้ยเหนือพื้นทรายและโขดหินเล็ก ๆ

“อย่านะ ลอวเรนซ์! คุณอย่าทำอะไรบ้า ๆ นะ ฉันจะร้องให้คนช่วย!”

“ร้องสิ มิวซีอา! แต่เสียงของคุณจะดังพอให้คนอีกฟากของเกาะนี้ได้ยินรึเปล่า เพราะที่นี่ไม่มีใครมีสิทธิ์เข้ามาถ้าไม่ได้รับอนุญาต แต่ผมแน่ใจว่าถ้าเกิดมีใครสักคนผ่านมาได้ยินเสียงร้องของคุณตอนนี้ เขาคงไม่กล้าเข้ามาช่วย เพราะเขานึกว่าคุณร้องออกมาเพราะกำลังมีความสุขมากกว่าถูกทำร้ายต่างหาก!”

“คนบ้า!”

ร่างเล็กดิ้นรนป้องปัดแต่มือที่เต็มไปด้วยบาดแผลช่วยอะไรเธอไม่ได้เสียแล้วตอนนี้เมื่อถูกผลักจนล้มลงไปนอนหงายบนพื้นทรายที่เต็มไปด้วยไม้เลื้อยแผ่ใบราวช่วยโอบรับแผ่นหลังของหญิงสาวขณะที่ร่างใหญ่โตทาบทับตามลงมา

มัสมินหอบหายใจแรงเมื่อข้อมือทั้งสองถูกตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือหนาใหญ่เพียงข้างเดียวของเขาก่อนที่ชายหนุ่มจะใช้มืออีกข้างดึงสาปเสื้อเชิ้ตทั้งสองจนแยกออกจากกันแม้ในความมืดเขาก็ยังเห็นเนินเนื้อขาวผ่องอวดความเต็มตึงของมันภายใต้บราเซียลูกไม้บาง

หญิงสาวส่ายสะบัดใบหน้าหากก็ไม่พ้นถูกเขาบดขยี้ริมฝีปากทั้งคุกคามจ้วงจาบแต่เธอกลับสำแดงความดึงดันและไม่ยอมแพ้ด้วยการเม้มปากตัวเองไว้แน่นไม่ยอมให้ลิ้นร้อนล่วงผ่านเข้าไป

ลอวเรนซ์ฉลาดพอจะรู้ว่าร่างกายที่เขาบดเบียดเสียดสีรุนแรงนั้นไม่ว่าจะอย่างไรย่อมแพ้พ่ายแก่คลื่นปรารถนาและแรงผลักดันมหาศาลของความเป็นหญิงเมื่อถึงที่สุดแล้วต้องศิโรราบต่อเพศตรงข้ามอยู่ดี เมื่อเห็นว่าเธอยังต่อต้านไม่ยอมให้ลิ้นของเขาฉกเข้าไปในโพรงปาก

ใบหน้าหล่อเหลาจึงเลื่อนมาอยู่ที่ลำคอระหงเพื่อฝังจมูกโด่งและริมฝีปากอุ่นดูดซับความหอมหวานรัญจวนด้วยการขบเม้มรุนแรงจนมัสมินเผลออ้าปากออกด้วยความซ่านสยิว เธอไม่อยากให้เขาทำเช่นนี้ ลากตัวเธอมาที่นี่บนหาดทรายเพื่อกระทำตามใจอย่างที่เขาประกาศกร้าวให้เธอจำนนต่อการเป็นโสเภณีของเขาในคราวแรก ช่างน่าเจ็บปวดนัก

ลอวเรนซ์หมดความเสน่หาในตัวเธอและเธอก็หมดสิ้นเรี่ยวแรงจะต่อกรเขา น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าหลั่งรินปลอบประโลมหัวใจที่สำเหนียกได้เพียงความหิวกระหายครอบงำสัญชาติญาณดิบเถื่อนของบุรุษผู้ปรารถนาได้ครอบครองร่างกายของผู้แพ้พ่ายเท่านั้น

“ริค! ปล่อยฉัน...ปล่อย!”

“มิวซีอา...ผมอยากจะรู้นักว่าคุณจะปฏิเสธผมได้อีกนานแค่ไหน แต่ผมแน่ใจว่าคุณไม่มีทางยื้อตัวเองไว้ได้นาน ผมจะทำให้คุณร้องขอผม อีกครั้ง...และอีกหลาย ๆ ครั้ง”

เจ้าของใบหน้าคร้ามคมฉวยจังหวะที่เธอพลั้งเผลอสอดลิ้นตวัดรัดลิ้นเล็กก่อนจะประกบปิดกลีบปากนุ่มดุจกำมะหยี่สีชมพูด้วยริมฝีปากหนาได้รูปที่กำลังรอคอยเวลาดูดกลืนความหวานฉ่ำอย่างลึกล้ำจนแทบจะกินเธอให้หมดทั้งตัว

“ริค...” มัสมินยังคงไม่ยอมแพ้แก่แรงปรารถนาที่เร้นกายลึกอยู่ในใจกลางของร่างสาวที่ยิ่งกายแกร่งกำยำบดเบียดแน่นแนบมากเท่าใด ความฝันซึ่งแอบซ่อนหลีกลับกลับจะยิ่งทำลายแรงต้านให้สูญสลายหายไปมากเท่านั้น

หญิงสาวแอ่นตัวขึ้นหวังจะดันให้ร่างหนาหลุดพ้นไปเสียทีหากก็ลืมไปว่าริมฝีปากอิ่มเย้ายวนถูกเขาครอบครองราวเป็นเจ้าของไม่ยอมปล่อยวางง่าย ๆ ลิ้นเล็กไม่ยอมสนองตอบในคราวแรกทว่าสัมผัสอันช่ำชองชำนาญของหนุ่มอิตาเลี่ยนทำให้เธอเคลิ้มคิดถึงจูบฝรั่งเศสขึ้นมาทีละน้อยจากความรู้สึกที่มิอาจสำเหนียกได้ในความรัญจวนใจกลับกลายเป็นเธอที่เริ่มตอบสนองเขาด้วยการดูดดุนเย้ายั่วจนลอวเรนซ์ถึงกับถอนหายใจเมื่อแม่สาวจอมพยศเริ่มทำให้ร่างกายแกร่งแข็งขันขึ้นมาในบัดดล

ชายหนุ่มอาจยังลังเลแต่ก็แน่ใจอะไรบางอย่างว่าสายใยที่ยังร้อยรัดผูกพันใช่จะตัดให้ขาดได้ง่าย แต่แล้วเมื่ออีกความรู้สึกกระตุ้นเตือนว่าอย่าได้เผลอไผล มัสมิน ก็เป็นแค่หญิงร่านรักและอาจไม่เคยว่างเว้นจากผู้ชาย หุ้นส่วนใหญ่ของเซลิโน่จึงหลงลืมบดจูบหนักจนผู้บิดเร่าอยู่ใต้ร่างสะดุ้งสุดตัวด้วยความเจ็บปวด

“ริค...หยุดซะทีเถอะค่ะ...หยุดซะทีเถอะ”

เธอจะทำอะไรได้มากกว่านี้นอกจากวอนขออย่างสิ้นหวังเมื่อมิอาจตอบโต้เขาได้ดังคิด ลอวเรนซ์ตัวโตกว่าเธอมากหนำซ้ำเขายังปิดช่องทางหลีกหนีด้วยการตรึงข้อมือทั้งสองของเธอไว้เหนือศีรษะและร่างเล็กแทบเขยื้อนไม่ได้เพราะถูกเขาทับทาบจนแผ่นหลังแนบติดพื้นทราย เหนือกายสาวสะพรั่งเต็มไปด้วยความผ่าวร้อนราดรดไม่ต่างจากเนยแข็งกำลังถูกหลอมละลาย

“ทำไมต้องบอกให้ผมหยุด มิวซีอา คุณชอบเรื่องสนุกแบบนี้ไม่ใช่หรือ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าผมจะสู้ผู้ชายที่คุณเคยผ่านมาได้หรือเปล่า”

น้ำเสียงเยาะหยันและประกายตาแปรเปลี่ยนจากความชิงชังเป็นปรารถนาเหมือนดาบคมทะลวงความรักของหญิงสาวแหลกราญไม่มีชิ้นดี ตอนนี้เธอก็ไม่ต่างจากโสเภณีที่เขาพยายามยัดเยียดความเป็นหญิงร่านรักยิ่งกว่าตราบาปประทับลงบนความเป็นเธอ

หากลอวเรนซ์จะรู้สักนิดว่าคนที่เขาใช้กำลังขืนใจไม่เคยแม้แต่จะอวดความสาวให้ใครได้เห็น หากเขาจะรู้สักนิดว่าที่เธอสั่นสะท้านไปทั่วสรรพางค์กายก็ด้วยพรั่นใจต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นซึ่งเธอไม่เคยพานพบมันมาก่อนในชีวิต เนิ่นนานที่ชายหนุ่มลากไล้ริมฝีปากไปทั่วใบหน้าแสนหวานโดยผ่อนจากความรุนแรงดั่งพายุคุ้มคลั่งเป็นเบาบางดุจสายลมไหวบนปลายไม้ลู่เอน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป