บทที่ 16 6.2 กรรมตามสนอง
“จะอะไรกันนักหนานะเจ้าคะท่านแม่” จางเซียวหรูกระซิบกับหลี่
ฮูหยินกันเพียงสองคน นางมองจางอวิ๋นซีด้วยความริษยาก่อนที่สายตาของนางจะเห็นหานอี้หรืออ๋องใหญ่เดินออกมาต้อนรับอีกผู้หนึ่ง
จางเซียวหรูเดินเข้าไปทักทายหานอี้อย่างรวดเร็ว
“ถวายพระพรท่านอ๋องใหญ่เพคะ” จางเซียวหรูเดินเข้าไปย่อกายถวายพระพรหานอี้อย่างรวดเร็ว
หานอี้ที่สายตาจับจ้องแต่จางอวิ๋นซี หาได้หันมามองจางเซียวหรูที่ตั้งใจแต่งกายงดงามเพื่อเขาเลยแม้แต่น้อย
“ตามสบายเถิด...” หานอี้กล่าวเพียงสั้นๆ อ๋องหนุ่มปลีกตัวจากจางเซียวหรูเดินมาหาจางอวิ๋นซีและไท่ฮูหยิน
“ถวายพระพรฮองเฮา เสด็จย่า...” องค์ชายใหญ่หรือหานอ๋องประสานมือโค้งคำนับต่อเชื้อพระวงศ์ทั้งสองพระองค์ ก่อนจะหันไปคำนับไท่ฮูหยินหนึ่งครั้ง
“ถวายพระพรเพคะท่านอ๋องใหญ่” จางอวิ๋นซีเรียกสรรพนามของอีกฝ่ายตามจางเซียวหรู ใบหน้าของนางแสดงความเก้อเขินเมื่อเจอกับหานอี้ซึ่งส่งรอยยิ้มชวนละลายใจมาให้นาง
แม้ว่าหานอี้จะไม่หล่อคมเข้มแบบหานไท่หยาง แต่กลับดูสำอางค์และดูแลตนเองยิ่งนัก ใบหน้านั้นหล่อเหลาละมุนชวนน่ามองรับกับรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ รอยยิ้มที่สามารถพิฆาตนารีและชวนให้สตรีเพศทั้งหลายต่างหลงใหลในความหล่อเหลาชวนละมุนนี้ได้
“คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะมาถึงเร็วเพียงนี้ เชิญเข้ามาก่อนเถิด”
หลิวฮองเฮาทรงกุมมือของจางอวิ๋นซีต่อหน้าหานอี้
“เดี๋ยวนางจะเข้างานไปพร้อมกับข้าและไทเฮา เจ้าไปดูแลความเรียบร้อยเถิดอ๋องใหญ่” หลิวฮองเฮายิ้มอย่างมีเลศนัยบางอย่าง
จางเซียวหรูเห็นเป็นโอกาสของตนเอง จึงถือโอกาสเดินเข้ามาคล้องแขนของหานอี้อย่างสนิทสนม
“ไปกันเถิดเพคะท่านอ๋องใหญ่ หม่อมฉันอยากเข้าเฝ้าหยางเต๋อเฟยเพคะ” จางเซียวหรูแสร้งฉีกยิ้มหวานสดใสให้กับหานอี้ นางกึ่งลากกึ่งเดินพาหานอี้เข้าวังอย่างรวดเร็ว การกระทำเช่นนี้ทำให้หลิวฮองเฮาทรงคิดถูกนักที่ไม่อยากให้นางมาเป็นพระชายาเอกของหานไท่หยาง เพราะหากนางมาเป็นพระชายาเอกของบุตรชาย วังของหานไท่หยางคงไม่มีวันสงบสุขเป็นแน่
จางอวิ๋นซีนึกไม่ถึงว่ายามนี้จางเซียวหรูจะทำตนไม่มีมารยาทยิ่งนัก แต่นั่นก็ยิ่งดีสำหรับหญิงสาว การให้จางเซียวหรูแสดงพฤติกรรมที่ไร้มารยาทเช่นนี้ต่อเบื้องพระพักตร์ จะเป็นการทำให้คะแนนนิยมในสายตาของหลิวฮองเฮาและหานไทเฮาดูยิ่งแย่ไปอีก
ในขณะที่จางอวิ๋นซีพยายามซ่อนนิสัยอย่างม้าดีดกะโหลกเอาไว้ แต่จางเซียวหรูกลับจงใจเปิดเผยนิสัยออกมาต่อหน้าสาธารณชน
“เราเข้าไปด้านในกันเถิด...” หานไทเฮาทรงกล่าวชวนแล้วเดินนำเข้างานไป
งานเลี้ยงวันพระราชสมภพของไทเฮาเริ่มต้นขึ้น ดอกบัวหลากสีสันถูกจัดเรืองแสงอยู่ในสระบัวหลวง ส่องประกายงดงามยามค่ำคืน ก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่มอย่างจริงจัง เหล่าบรรดาเชื้อพระวงศ์และองค์ชายแต่ละองค์ซึ่งถูกพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นอ๋อง ต่างประทับที่นั่งประจำตำแหน่งของตนเอง
“ท่านแม่ นั่นท่านอ๋องหานไท่หยางนี่เจ้าคะ” จางเซียวหรูมองหานไท่หยางที่เดินผ่านไปด้วยความตื่นเต้น
“แรด...” จางอวิ๋นซีจงใจสบถออกมาให้อีกฝ่ายได้ยิน จางเซียวหรูหันมา
มองน้องสาวต่างมารดาตาขวาง
“เจ้าจงใจว่าข้าหรือ?” จางเซียวหรูจับไหล่ของจางอวิ๋นซีให้มาเผชิญหน้ากับนาง ตอนนี้ใบหน้าและแววตาของจางอวิ๋นซีมีแต่ความไม่กลัวเกรงผู้ใดทั้งสิ้น
จางอวิ๋นซียักคิ้วพร้อมกับรอยยิ้มที่มองดูแล้วกำลังกวนประสาทนัก “ข้าแค่พูดของข้า พี่หญิงใหญ่ไม่เห็นต้องเดือดร้อนเลยนี่เจ้าคะ อีกอย่างคำว่าแรดเนี่ยไม่ใช่คำด่านะเจ้าคะ แต่เป็นคำที่เอาไว้เรียกสัตว์กันต่างหากล่ะ”
หญิงสาวยักคิ้วหนึ่งข้างอย่างผู้อยู่เหนือกว่าพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากเป็นเชิงเยาะเย้ย
จางเซียวหรูกำลังจะตอบโต้จางอวิ๋นซี แต่จางเยี่ยนผู้เป็นบิดาได้มองปรามเอาไว้ก่อน นางจึงยอมสงบลงและเก็บทุกความแค้นเอาไว้ในใจ หากวันใดนางได้เป็นพระชายาองค์รัชทายาท จางอวิ๋นซีเป็นคนแรกที่นางจะคิดบัญชีแค้นให้สาสม!
หานไท่หยางและอ๋ององค์อื่นๆ ถวายความเคารพต่อหานไทเฮา หานฮ่องเต้และหลิวฮองเฮา รวมถึงพระสนมเอกองค์อื่นๆ แห่งวังหลังด้วยความเคารพก่อนจะแยกย้ายกันนั่งประจำที่นั่งของตนเอง แม้ว่าที่ประทับตำแหน่งรัชทายาทจะยังว่างอยู่ แต่ทว่าตอนนี้ฮองเฮามีโอรสองค์เดียวคือหานไท่หยางที่มีสิทธิ์นั่งที่ประทับของตำแหน่งรัชทายาทได้ ส่วนอ๋ององค์อื่นๆ นั้นนั่งตามที่นั่งลำดับของมารดาตนเอง
เนื่องด้วยพระสนมยศสูงสุดในฝ่ายในขณะนี้คือหยางเต๋อเฟย หานอี้จึงสามารถนั่งที่นั่งลำดับถัดมาจากหานไท่หยางได้อย่างไม่ต้องกังวลสิ่งใด
หานไท่หยางรินสุราใส่จอก ก่อนจะยืนขึ้นและยกจอกสุราหันไปทางหานไทเฮา ทั้งขุนนางและทุกคนที่มาร่วมงานเองก็เช่นกัน
“เนื่องในวันพระราชสมภพของเสด็จย่า กระหม่อมขอเป็นตัวแทนเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ ขอถวายพระพรให้เสด็จย่าทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง มีพระชนมายุยืนยาวพะยะค่ะ” หานไท่หยางกล่าวถวายพระพรเสียงดัง หานไทเฮาทรงยกจอกสุราดื่มพร้อมกับทุกคนเพื่อความเป็นสิริมงคล
