บทที่ 18 6.4 กรรมตามสนอง
“ทูลไทเฮา ขอบพระทัยที่ทรงเมตตาเพคะ หม่อมฉันกับมารดาเป็นผู้น้อย แม้มารดาจะเป็นฮูหยินเอกแต่บิดาก็มิใคร่ไยดีหม่อมฉันกับมารดานัก หม่อมฉันกับมารดาอยู่มาได้ เพราะน้ำพระทัยอันเมตตาของฮองเฮาและไทเฮา...” จางอวิ๋นซีแสร้งทำตนให้น่าสงสารท่ามกลางเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ทั้งหลาย
หานไท่หยางวางจอกสุราลงแล้วฟังเรื่องที่นางเล่าด้วยความสนใจ
“เจ้าว่ากระไรนะ ที่เจ้าหายไปจนผู้คนร่ำลือกันเพราะใต้เท้าจางอย่างนั้นหรือ” หลิวฮองเฮาทรงมองจางเยี่ยนตาขวาง
จางอวิ๋นซียังคงตีหน้าเศร้าต่อไป “เพคะ หม่อมฉันไม่อาจมีอะไรเทียบพี่หญิงใหญ่ได้เลย บิดาจึงไม่ใคร่โปรดปรานนัก หม่อมฉันกับมารดาถูกรังแกบิดาก็ไม่ใคร่สนใจ บิดาคงคิดว่ามารดาของหม่อมฉันแต่งงานโดยสมรสพระราชทาน จึง...”
จางอวิ๋นซีรู้เรื่องการแต่งงานของจางฮูหยินกับจางเยี่ยนดี ด้วยหรูหรงเคยเล่าต่อนางเอาไว้ว่าทั้งสองนั้นแต่งงานกันเพราะสมรสพระราชทานของอดีตฮ่องเต้พระองค์ก่อน เนื่องจากหลิวฮองเฮาผู้มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องได้อภิเษกเป็นพระชายาเอกของรัชทายาทหานเหวินชิง และหลังจากอดีตฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ หานเหวินชิงจึงขึ้นเป็นฮ่องเต้องค์ถัดไป จางฮูหยินจึงมีสถานะเป็นฮูหยินตราตั้งขั้นหนึ่ง
“มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรกันใต้เท้าจาง มิใช่เพราะท่านละเลยต่อหน้าที่ความเป็นบิดา จึงทำให้บุตรสาวประสบอันตรายหรอก
หรือ?” หลิวฮองเฮาทรงไม่พอพระทัยนัก
จางฮูหยินกับไท่ฮูหยินนึกประหวั่นพรั่นพรึงในใจ นางกลัวว่าจาง อวิ๋นซีอาจต้องโทษ หากกล่าววาจาเช่นนี้
“อะ เอ่อ คือว่า...” จางเซียวหรูกำลังจะกล่าวแย้ง แต่ทว่าหลี่ฮูหยินปรามบุตรสาวเอาไว้
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น!” หานฮ่องเต้ทรงกล่าวเสียงดัง ทุกคนจึงนิ่งสงบตั้งใจฟัง
“เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่นัก ถ้านับตามลำดับศักดิ์ของเจ้าแล้วเจ้าก็มีสถานะเป็นท่านหญิงของราชวงศ์ การคิดปองร้ายต่อเจ้านั้นย่อมต้องมีโทษสถานหนักทีเดียว” หานฮ่องเต้ทรงกล่าว
“หม่อมฉันเกรงว่าทุกอย่างจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะเพคะ...” จางเซียวหรูตื่นตระหนก นางเอ่ยแทรกขึ้นมา
“ถ้าเจ้าคิดว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด เจ้ากล่าวมาสิจางเซียวหรู” หลิวฮองเฮาทรงตรัสถามด้วยสายพระเนตรเย็นชา
จางเซียวหรูที่เผลอตัวกล่าวออกมา นางจำเป็นต้องมีคำอธิบายสำหรับเรื่องนี้
อยากจะฉีกหน้าฉัน รอไปอีกแสนล้านปีเถอะ จางอวิ๋นซีคิด
จางเซียวหรูอ้ำอึ้ง เพลานี้นางราวกับคนน้ำท่วมปาก หากนางกล่าวผิดแม้แต่นิดเดียว แม้แต่ชีวิตก็ไม่อาจรักษาเอาไว้ได้ หลี่ฮูหยินก็จนปัญญาจะกล่าว
“ไทเฮาทรงพระเจริญ หม่อมฉันไม่ทราบว่าควรหรือไม่ที่จะกราบทูลเรื่องบางอย่าง” จางอวิ๋นซียังสวมบทตีหน้าเศร้าเช่นเดิม หานไท่หยางเห็นแล้วอยากจะกระชากหน้ากากที่แสนน่าสงสารนั้นออกนัก
สตรีมากเล่ห์ร้อยมารยาเช่นนี้ หากใครได้แต่งเป็นภรรยาคงมีแต่ทุกข์สถานเดียว!
“เจ้าว่ามา...หรือเจ้าจะรู้เรื่องที่ใครลอบทำร้ายเจ้า เจ้าเป็นหลานสาวของฮองเฮาก็เหมือนกับเป็นลูกหลานข้าด้วย ไม่ว่าเรื่องอันใดข้าย่อมช่วยเจ้าได้” หานไทเฮาทรงเอ่ยพระสุรเสียงจริงจัง
จางอวิ๋นซีย่อกายเพียงนิด “ขอบพระทัยที่ทรงพระเมตตา แต่เมื่อสองสามวันก่อน หลังจากที่หม่อมฉันหายตัวไป มีของสำคัญบางอย่างเพคะที่หายไปเช่นกัน และอาจเป็นเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุมตัวคนร้าย”
“เจ้าว่ามา หลานข้า” หลิวฮองเฮาทรงถาม
“หลังจากที่หม่อมฉันฟื้นขึ้น ก็พบว่ามีของสำคัญที่ไทเฮาทรงพระราชทานให้หม่อมฉันหายไปเพคะ หม่อมฉันใช้เวลาเกือบหนึ่งวันจนกระทั่งวันนี้พึ่งหาเจอเพคะ เป็นปิ่นปักผมทองที่ทรงเคยพระราชทานให้หม่อมฉัน...” จางอวิ๋นซีหันไป
มองหรูหรงซึ่งเตรียมพร้อมตามแผนการนานแล้ว
“ปิ่นปักผมนั้นเป็นของสำคัญที่ข้ามอบให้เจ้า ผู้ใดลักขโมยไปนั้นก็มีความผิดยิ่งนัก...เจ้าทราบหรือไม่ว่าเป็นผู้ใด” หานไทเฮาทรงถาม
จางอวิ๋นซีชี้นิ้วไปที่จางเซียวหรู อีกฝ่ายตกใจตัวสั่น
“เจ้ามาชี้นิ้วใส่ร้ายข้าได้อย่างไร?!” จางเซียวหรูโวยวายขึ้นมา
“ที่นี่คือวังหลวง หาใช่ตลาดสดที่เจ้าจะทำพฤติกรรมเยี่ยงนี้!”
หานไทเฮาทรงตวาดใส่จางเซียวหรู
จางเซียวหรูนางไม่นึกฝัน ว่าวันนี้นางจะต้องโดนจางอวิ๋นซีชี้นิ้วใส่ร้าย “ทรงต้องให้ความเป็นธรรมนะเพคะฝ่าบาท หม่อมฉันไม่รู้เรื่อง!”
“ซีเอ๋อร์ เจ้ากล่าวสิ่งใดออกมา รู้ตัวหรือไม่?!” จางเยี่ยนชี้นิ้ว ยืนตัวสั่นเทิ้มใส่บุตรสาวคนเล็กพลางตวาดเสียงดัง
“หม่อมฉันพิสูจน์ได้เพคะ เมื่อวันก่อนสาวใช้ของหม่อมฉันเล่าว่านางเห็นพี่หญิงใหญ่นำปิ่นปักผมของหม่อมฉันไป ระหว่างที่หม่อมฉันหายตัวไปเพคะ หรูหรง...” หรูหรงก้าวเดินออกมายืนตรงหน้าข้างๆ จางอวิ๋นซี นางหยิบปิ่นปักผมที่อยู่บนห่อผ้าเช็ดหน้าต่อหน้าทุกคน
“แต่ปิ่นปักผมตอนนี้อยู่กับเจ้า แล้วเจ้ามีวิธีอันใดพิสูจน์ว่าพี่สาวเจ้าเป็นคนทำ หากเจ้ากล่าวให้ร้ายนางเจ้าจะมีความผิดสถานหนักเช่นกัน” หยางเต๋อเฟยกล่าวแย้งขึ้นมา
จางเซียวหรูยกยิ้มเล็กน้อย อย่างน้อยหยางเต๋อเฟยก็ยังมองนางแสนดีเช่นเดิม
จางอวิ๋นซียกยิ้ม “พระสนมหยางไม่ต้องกังวลพระทัยไปเพคะ หม่อมฉันมีวิธีพิสูจน์ลายนิ้วมือแฝง ปิ่นนี้มีแค่หม่อมฉันที่เป็นเจ้าของกับหรูหรงที่สัมผัสตอนปักผมของหม่อมฉันเท่านั้น หากมีรอยนิ้วมืออื่นแฝงมารอยนิ้วมือนั้นจะเป็นของคนร้ายเพคะ...”
ได้เวลากรรมตามสนองเธอแล้วนะ จางเซียวหรู...
